Michael Lang อดีตออแกไนเซอร์คนเดิมจากเทศกาลดนตรีครั้งประวัติศาสตร์ที่โลกจารึก Woodstock เพิ่งประกาศอย่างเป็นทางการว่าเขากำลังจะกลับมากับ Woodstock Music and Art Fair 2019 อีกครั้งที่อุทิศ 3 วันเต็มๆ ในเดือนสิงหาคม ให้กับสาวกดนตรี ณ Watkins Glen นิวยอร์ก

ไมเคิล แลง ปี 1969 

Woodstock 2019 ครั้งนี้จะเกิดขึ้นเดือนเดียวกับที่เคยจัดครั้งแรกเมื่อฤดูร้อน 50 ปีก่อน (15 สิงหาคม ปี 1969) ที่ Bethel นิวยอร์ก ภายใต้แนวคิด ‘An Aquarian Experience: 3 Days of Peace and Music’ ซึ่งอาจเรียกว่าเป็นโมเดลของเทศกาลดนตรียุคนี้ เพราะบุกเบิกกิจกรรมกลางเเจ้ง เล่นโยคะ นั่งสมาธิ กางเต๊นท์ ดื่มด่ำเสียงเพลง เต้นรำทั้งวันทั้งคืนโดยมีคนกว่า 500,000 แห่แหนกันมาจากทั่วทุกสารทิศ รถติดยาวยิ่งกว่าบิ๊กเม้าท์เท่นเสียอีก พอดีมันมาประจวบเหมาะกับเหตุการณ์บ้านเมืองทั้งสงครามเวียดนาม สงครามเย็น นิวเคลียร์ มหกรรมดนตรีคราวนั้นเลยทำให้เกิดกระแสวัฒนธรรมปรปักษ์ หรือ Coutercultural ขึ้นมา พร้อมกับสโลแกน ‘Peace, love, not war’ ที่ขับกล่อมคนเจนฯ ใหม่ให้เชื่อในการต่อต้านสงครามไปพร้อมกับเรียกร้องสันติภาพ ค้นหาชีวิตอิสระ แสวงหาความสงบ เปิดรับวัฒนธรมตะวันออก ซึ่งต่อมาภาพจำของ Woodstock เลยกลายเป็นเทศกาลดนตรีแห่งบุปผาชน รวมพลคนฮิปปี้ไปโดยปริยาย

Woodstock’ 94 ปี 1994 

แต่…. ชีวิตแสนอิสระก็ใช่ว่าจะไม่นำความหายนะมาเยือน เวลาเปลี่ยน ความหมายเปลี่ยน อีกด้านหนึ่งของเทศกาลดนตรีในตำนานนี้คือความพังที่โลกไม่ลืมกับเหตุการณ์ในปี 1999 เมื่อครั้งที่ Woodstock ’99 จัดขึ้นแบบ ‘ประหยับงบ’ โปรโมเตอร์ในตอนนั้นคือ John Scher ผู้เจ็บปวดจากการขาดทุนเมื่อครั้งทำ Woodstock’ 94 ปี 1994 ซึ่งเขาหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเทศกาลดนตรี Woodstock ’99 ครั้งใหม่ของเขาจะเป็นนัดล้างตาที่กะเอาทุนคืนให้มากที่สุด ด้วยการขายตั๋วเข้างานในราคาแพงลิบลิ่วที่วันสุดท้ายมีรายงานว่าสูงถึง $180! 

Woodstock ’99 ปี 1999 

จากนั้นเทศกาลดนตรีในเดือนกรกฎาคมปี 1999 ก็เกิดขึ้นท่ามกลางอากาศร้อนตับแล่บ ภายใน Griffiss Air Force Base อู่เครื่องบินทหารอากาศเก่าที่ไม่ใช้งานแล้วในนิวยอร์ก ด้วยพื้นที่จัดงานแต่ละจุดห่างกันมาก ทำให้คนต้องเดินเท้าขึ้นเนินรันเวย์คอนกรีตร้อนๆ อากาศร้อนยังนำปัญหาจุกจิกแต่เป็นเรื่องใหญ่ตามมาอีกเพียบ ทั้งคนเนียนเข้างานโดยใช้ตั๋วปลอม (ลองนึกถึงยุคที่ยังไม่มีติ๊ดๆ Wristband ) ห้องน้ำไม่พอ แถมสตาฟก็ไม่พอ น้ำดื่มแพงยิ่งกว่าทอง มีรายงานว่าตกขวดละ $4 เลยทีเดียว และอีกสารพัดสิ่งที่เชื่อว่าถ้ายุคโน้นมีโซเชียลฯ ผู้จัดคงเละกว่านี้แน่ๆ

ความเกรี้ยวกราดสะสมใน Woodstock ’99 นอกจากจะไม่ได้ทุนคืนตามที่หวังแล้วยังถูกจดจำว่ามันเป็น Woodstock ครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ที่มีจุดจบด้วยเหตุจราจล จุดไฟเผา ทำลายข้าวของ ขโมยของ มีคนถูกข่มขืน มีคนนอนโอเวอร์โดสตาย ฯลฯ จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้ามาควบคุมสถานการณ์ เทศกาลดนตรีเพื่อสันติภาพเลยไม่สันติภาพอีกต่อไป แล้วชนกลุ่มหนึ่งที่หยิบยืมคำว่า ‘ฮิปปี้’ มาใช้เหล่านั้นก็จากลา เหลือไว้เพียงซากอารยะธรรมที่เห็นแล้วถึงกับกุมขมับ

ไมเคิล เเลง โปรโมเตอร์คนเก่าดั้งเดิมจาก Woodstock ครั้งออริจินัล (ผู้ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับหายนะในปี 99) บอกว่า Woodstock ’99 ครั้งนั้นเป็นแค่ปาร์ตี้ แต่มันไม่ได้เอาจิตวิญญาณเดิมของ Woodstock มาเลยแม้แต่นิด เพราะ Woodstock เกิดขึ้นจากแนวคิดการตระหนักต่อเหตุการณ์บ้านเมือง สังคมโลก เป็น Social Movement ที่เบ่งบานเพราะมีแก่นสารของความคิดและดนตรีเป็นตัวเชื่อมผู้คนเข้าด้วยกัน

หรือจริงๆ แล้วแนวคิดของฮิปปี้ถูกทำให้กลายเป็นแค่คำทางการตลาดที่ระบบทุนนิยมเอาไปใช้มอมเมาคนรุ่นใหม่ เอามาแค่เปลือกกลวงๆ โดยที่ไม่ได้ให้ความรู้ว่าจริงๆ แล้วแนวคิดดั้งเดิมของมันคืออะไร คนเจนฯ หลังจากนั้นก็เลยเป็นเครื่องมือหาเงินแสนหวานของแนวคิด ‘ค้นหาตัวเอง’ แบบกลวงๆ กับวลีเท่ๆ จึงไม่น่าเเปลกใจที่วัยรุ่นยุค Woodstock ’99 จะเข้าใจสารผิดจนกลายเป็นการแสดงออกที่รุนเเรง ผิดเพี้ยน ตามมาด้วยหายนะในวันนั้น

เเลง โปรโมเตอร์คนดั้งเดิมและคนใหม่ใน Woodstock 2019 ที่กำลังจะมา ในฐานะที่เขาเป็นป๋าคุมงานจึงต้องการล้างบาปให้กับคำว่า ‘ฮิปปี้’ เสียใหม่ ให้คนดูทุกเจนฯ อินไปด้วยกัน มีความร่วมสมัยกลมกล่อม สิ่งที่ขาดไม่ได้คือมาร่วมกันชาบูต่อเลือดเนื้อแห่งชาวบุปผาที่เคยมาเยือนเทศกาลนี้ ไม่ว่าจะเป็น Janis Joplin หรือ Jefferson Airplane ซึ่งทางไมเคิล แลง ได้ลั่นวาจากับ Rolling Stone ไว้แล้วว่าครบรอบ 50 ปีคราวนี้เราจะได้เห็นการรียูเนี่ยนและการฟีเจอริ่งบางอย่างที่เซอร์ไพรส์แน่ๆ แต่ตอนนี้ยังขอไม่บอกไลน์อัพหรืออะไรใดๆ จนกว่าจะถึงวันขายบัตรในเดือนกุมภาพันธ์นี้

Woodstock ในยุคดิจิตอลที่ทุกอย่างสตรีมมิ่งอาจต้องทำการบ้านหนักหน่อย ท่ามกลางเทศกาลดนตรีประจำปีคุณภาพดีซึ่งเขาดีมากอยู่แล้วและมีทุกอย่างที่ Woodstock มีไปหมดแล้วด้วย บวกกับความต้องการที่เปลี่ยนไปของเหล่าคอนเสิร์ตโกเออร์ เพราะยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้ว เมื่อเป็นแบบนั้น แล้ว Woodstock ยังเป็นที่ๆ คนต้องการมาแสวงหาจิตวิญญาณหรือเรียกร้องอะไรกับสังคมกันอีกมั้ย?

ไมเคิล เเลง และคนรุ่นปู่เราที่โตมากับภาพฝันของ Woodstock จะทำใจได้มั้ย เมื่อสุดท้ายแล้วต้องพบว่าจิตวิญญาณฮิปปี้ที่พวกเขาเชื่อก็ต้องถูกบิดเบือนไปตามกาลเวลาอยู่ดี 

View this post on Instagram

The bird of peace is back #Woodstock50☮❤🎵

A post shared by Woodstock (@woodstock) on Jan 9, 2019 at 4:39am PST

Woodstock Music and Art Fair 2019 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16-18 สิงหาคม 2019 ณ Watkins Glen นิวยอร์ก

WRITER : WEDNESDAY