fbpx

CONTACT US

DOODDOT VIDEOS

ชวนเรียนนอกห้องกับนักคิดรุ่นใหม่ที่ทำให้ไฟลุกพรึ่บ! ในงานเสวนาพาเพลิน The Talk #LifeLongLearning by SEAC
date : 11.เมษายน.2019 tag :

การเรียนรู้อย่างสมบูรณ์แบบและรอบด้าน โดย SEAC ได้เปิดพื้นที่แลกเปลี่ยนมุมมองและความรู้“Lifelong Learning Community” ผ่านการจัดงานเสวนา The Talk #LifeLongLearning – การเรียนรู้ไม่มีวันหมดอายุ และไม่ได้หยุดที่สถาบันการศึกษาหรือใบปริญญา สู่ทางเลือกของชีวิตที่ไม่ถูกตีกรอบ”  ด้วยการเชิญ 5 ผู้นำทางด้านความคิดมาร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์และมุมมองการใช้ชีวิตนอกกรอบอย่างไรให้ประสบความสำเร็จในยุค Disruption ไม่ว่าจะเป็น คุณศุ บุญเลี้ยง, คุณหนึ่ง จักรวาล เสาธงยุติธรรม, คุณสราวุธ เฮ้งสวัสดิ์ “นิ้วกลม”, คุณพลอยไพลิน ตั้งประภาพร เพจ “พลอยเรียนจบแล้วทำไรต่อ?” และดร. รพีรัฐ ธัญวัฒน์พรกุล เพจ “มนุษย์เงินเดือนพันธุ์ใหม่” ร่วมแชร์ประสบการณ์ทลายกรอบชีวิตแบบเดิมๆ สู่ความสำเร็จแบบไร้ขีดจำกัด

โดยหัวข้อในการเสวนาแบ่งเป็น 2 ส่วน ดังนี้

TestofLife: “เรียนรู้” สู่การสร้างทางเลือกชีวิตที่ไม่ยึดติดกรอบ โดย คุณศุ บุญเลี้ยง

การฟัง คือสิ่งที่จะช่วยพัฒนาศักยภาพคนได้ ซึ่งพื้นฐานของการเรียนรู้ที่ดีนั้นคือการตั้งคำถาม ต้องสงสัยไว้ก่อน เพราะการสงสัยและการตั้งคำถามจะทำให้เราสนุกมากขึ้น พอเรายิ่งสนุกเรายิ่งเกิดการเรียนรู้ มีคนอีกมากมีประสบการณ์แต่ไม่เกิดการเรียนรู้ บางคนปิดกั้นตัวเองโดยปฏิเสธที่จะรับรู้ในสิ่งที่คิดว่าตนรู้ดีแล้วจะทำให้มีการหยุดพัฒนาซึ่งมันผิด เพราะการเรียนรู้ที่ดีคือการ ‘สังเคราะห์’ ประสบการณ์ โดยการมองสิ่งรอบตัวในมุมใหม่ๆ

“ข้อมูลไม่ใช่ความรู้ ความรู้ไม่ใช่ปัญญา การมีปัญหา แต่ไม่มีทักษะ ก็ไม่สามารถนำเอาความรู้มาทำประโยชน์ได้”

  • คนในปัจจุบันให้ความสำคัญกับแรงบันดาลใจมากเกินไปจนลืมไปว่า หากไม่มีทักษะติดตัวเราก็ไม่สามารถสังเคราะห์แรงบันดาลใจหรือแปรรูปความฝันของเราได้ อย่างเช่น การที่เรามีแรงบันดาลใจจากศิลปินที่ชอบ แต่ขาดทักษะเฉพาะด้านทำให้ไปไม่ถึงฝันสักที
  • การเรียนรู้มี 2 ทาง หนึ่งคือการเรียนรู้จากคนอื่น (ปรโตโฆสะ) เช่น การไปพูดคุยกับผู้รู้หรือผู้มีประสบการณ์ และ สองคือการใช้ตัวเองเป็นเครื่องมือที่จะนำความรู้ที่ได้รับนั้นมาพัฒนา (โยนิโสมนสิการ)

___

Learnforlife: “เรียนรู้” สู่การสร้างทางเลือกให้ชีวิตที่ไม่ยึดติดกรอบ กับ 4 ผู้นำด้านความคิด ได้แก่

คุณจักรวาล เสาธงยุติธรรม

“ทุกคนล้วนบอกว่าผมมีพรสววรค์ แต่ผมคิดว่าสิ่งที่ทำให้ผมมีทุกวันนี้ได้ คือ พรแสวง ทุกคนอาจจะไม่ทราบว่าผมลำบากขนาดไหนกับการฝึกตัวเองให้เก่ง ผมให้เวลากับการซ้อมเปียโนเยอะมากกว่า 3 ปี เพื่อให้ผมได้มีวันนี้”

คุณหนึ่งเล่าว่า ตัวเองตัดสินใจเรียนนาฏศิลป์ เพราะอยากเห็นเปียโนสักครั้งในชีวิต ฝึกเปียโนจากการฟังและใช้ความรู้สึก และใช้วิธีการแกะเพลงจากการฟัง นอกจากนี้ ยังทราบมาตั้งแต่เด็กว่าชื่นชอบในเสียงดนตรีและตั้งปณิธานว่าโตมาต้องเป็นนักดนตรี ถึงแม้ว่าจะไม่มีเงินในการซื้อเครื่องดนตรีแพงๆ แต่ก็พยายามหาสิ่งของรอบตัวอย่างกระป๋องน้ำสองใบหรือชามตราไก่มาดัดแปลงให้เป็นเครื่องดนตรี โดยมีพ่อเป็นคนสอนเคาะจังหวะ สอนโดยไม่มีหลักการใดๆ ทั้งสิ้น สอนจากประสบการณ์ชีวิตล้วนๆ

  • โลก Disruptive นั้นทำให้อะไรหลายๆ อย่างเปลี่ยนแปลงไปเสียหมด สำหรับผม ผมคิดว่าชีวิตคนเรา เลือกเกิดไม่ได้แต่เลือกที่จะเป็นได้ วงการดนตรีนั้นแย่ลงเรื่อยๆ หลังการมีดิจิตอลเข้ามาดิสรัปวิธีการนำเสนอเพลง ในรูปแบบต่างๆ ผมก็ต้องทำทุกวิถีทางที่จะเอาชนะมันโดยการฉีกแนวเพลงไปเรื่อยๆ โดยการทดลองและลองไปเรื่อยๆ ลองผิดลองถูกเพื่อจะผลิตสิ่งใหม่ๆ ออกมาการเรียนรู้ต้องเริ่มต้นจากความมุ่งมั่นและความพยายาม

คุณสราวุธ เฮ้งสวัสดิ์

ผมทนเรียนสถาปัตย์ ซึ่งมีทั้งสิ่งที่ชอบและไม่ชอบ ทำให้รู้ว่าทักษะการคิดนั้นสำคัญมาก คิดแล้วก็ลงมือทำและตั้งคำถามกับตัวเองตลอดเวลา เพื่อเราจะได้รู้ว่าสิ่งที่เราคิดถ้าเราลงมือทำจะประสบความสำเร็จไหม การเรียนสถาปัตยกรรมนั้นทำให้ผมกล้าที่จะคิดและลงมือทำเพราะมันไม่มีคำตอบที่ผิดหรือถูก ต่างกับการแก้สมการเลขที่ต้องมีโจทย์ตายตัว

การเรียนรู้สำหรับผมนั้นมีสองทาง คือ ทางหลัก กับ ข้างทาง ผมคิดว่าข้างทางนั้นก็สำคัญไม่แพ้ทางหลัก ถึงแม้ว่าผมจะเรียนทางด้านสถาปัตย์มา แต่งานอดิเรกของผมคือการอ่านหนังสือและการเข้าห้องสมุดบ่อยๆ นั้นทำให้รู้ตัวว่ารักตัวหนังสือและอยากลองเขียนหนังสือขึ้นมาจริงๆ และผมก็ทำมันสำเร็จ

ทุกคนมีพรสววรค์ในตัวที่แตกต่างกัน เพราะคนเรามี DNAs ที่แตกต่างกันทำให้คนเรากล้าลองผิดลองถูกต่างกัน ขึ้นอยู่ที่ว่าเราจะรับฟังเสียงของมันไหมและกล้าที่จะลงมือทำเพื่อจะเอาพรสวรรค์ในตัวมาขับเน้นพรแสวงให้เด่นขึ้น

การเรียนรู้สำคัญที่สุดในการพัฒนาตนเอง แก่นแท้ของการเรียนรู้เป็นแรงผลักดันให้เรามีชีวิตอยู่ต่อไป คล้ายๆ กับเป็นสีสันในชีวิตที่กระตุ้นให้เราตั้งคำถามในชีวิตมากขึ้นและไม่หยุดยั้งที่จะเรียนรู้ ซึ่งบางครั้งทำให้เราค้นพบตัวเราในอีกมุมก็เป็นได้

คุณพลอยไพลิน ตั้งประภาพร

“พลอยไม่เคยตั้งคำถามกับตัวเองมาก่อนเลย จนกระทั่งเรียนจบถึงได้มาตั้งคำถามกับตัวเองว่า ‘พลอยเรียนจบแล้วทำอะไรต่อ?’ แต่เมื่อเรายังอยู่ในช่วงที่กำลังค้นหาตัวเองอยู่เราจึงยังไม่สามารถหาคำตอบสำหรับคำถามนี้ได้ จนมาเป็นเหตุให้อยากลองทำอะไรใหม่ๆ นอกกรอบเพื่อหาสิ่งที่ชอบและสิ่งที่ใช่”

จุดพลิกผันในชีวิตคือการได้เที่ยวได้ออกไปเจอผู้คนได้พุดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับคนแปลกหน้า ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ จนทำให้รู้ว่าเราควรลองหยุดคิดและลองลงมือทำดูเลย ซึ่งพลอยรู้สึกว่าพรสวรรค์และพรแสวงนั้นเป็นของคู่กัน เป็นสิ่งที่ซัพพอร์ทกันและกันเพื่อที่เราจะพัฒนาตัวเองไปให้ถึงขีดสุด

จากประสบการณ์ในการทำเพจมานั้น ทำให้พลอยทราบว่าการเรียนรู้นั้นเกิดขึ้นได้รอบตัวจริงๆ เพราะจากการที่ได้ออกไปสัมผัสโลกไม่ว่าจะเป็นการพูดหรือฟังทำให้เราสามารถเก็บเกี่ยวประสบการณ์และนำมาปรับใช้กับตัวเองให้เหมาะสมได้จริงๆ

ดร. รพีรัฐ ธัญวัฒน์พรกุล

“ถ้าอยากรู้เราต้องลอง การตั้งคำถามอาจจะไม่ได้ช่วยอะไรมากเท่าไรหากไม่ลงมือทำ เพราะถ้ารู้แล้วไม่ได้ทำก็เปล่าประโยชน์”

ตัวผมเริ่มต้นจากติดลบ โดนคนรอบตัวดูถูกสารพัด ผมจึงเปลี่ยนคำดูถูกนั้นมาเป็นแรงผลักดันจนประสบความสำเร็จในชีวิตไม่ว่าจะเป็นการเรียนหรือการทำงาน ผมมีคติประจำใจ คือ การทำก่อนแล้วค่อยถามเลิกตั้งคำถามกับตัวเองว่าในการใช้ชีวิตว่าจะต้องพึ่งใครเพราะจริงๆ แล้วตัวเราสามารถใช้ชีวิตได้โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งใคร สิ่งที่สำคัญ คือ เราต้องหาสูตรสำเร็จให้ชีวิตโดยการเลิกตั้งคำถามเพราะถ้าเราสงสัยในตัวเองเราก็จะไม่กล้าลงมือทำ รอลองให้รู้ก่อนและถ้ามันทำไม่ได้จริงๆ ก็ให้หาทางออกอื่น

เชื่อว่า การเรียนรู้ เกิดจากความเชื่อ และต้องรู้จักพลิกแพลงหาช่องว่าง เติมเต็มด้วยตนเอง โดยการดูจาก คนอื่น รู้จักหาพ่อแบบแม่แบบ

ผมไม่เชื่อเรื่องพรสวรรค์เท่าไร เพราะผมเรียกตัวเองว่านักทดลองและผมถือคติลงมือทำก่อนแล้วค่อยมาดูผล

“ชีวิตคนเราคู่กับการเรียนรู้และค้นหาจนได้มาซึ่งพรแสวง”

เราอยู่ในยุคที่เวลาทำอะไรเราต้องเร็วและหาทิศทางตัวเองให้เจอ โลกปัจจุบันบังคับให้เราต้องด้นสด เพราะโลกไม่ต้องการ perfectionist เราดำเนินชีวิตแบบเป็นแพทเทิร์นไม่ได้ เพราะสถานการณ์แต่ละสถานการณ์ไม่มีรูปแบบตายตัว ความแตกต่างและความโดดเด่นเท่านั้นที่จะช่วยให้เราดำรงชีวิตอยู่รอดในโลก Disruptive ใบนี้ได้ สิ่งสำคัญคือ การใช้สัญชาตญาณไตร่ตรองและพิจารณาเพื่อเรียนรู้และปรับตัวไปกับมัน

RECOMMENDED CONTENT

เรื่องราวของ Christopher Robin พาเรามาถึงช่วงเวลาที่คริสโตเฟอร์ โรบิ้น โตขึ้นและต้องเข้ามาทำงานในกรุงลอนดอน พร้อมภรรยาและลูกสาว เขาตรากตรำทำงานอย่างหนักจนแทบไม่มีเวลาให้ครอบครัว แม้แต่วันที่เขาตั้งใจจะไปเที่ยวกับครอบครัวนอกเมือง แต่งานด่วนก็ดันเข้ามาทำให้เขาคิดหนักว่าจะเลือกงานหรือครอบครัวดี