แพทเทิร์นของการใช้ชีวิตในฐานะคนเมืองเป็นอย่างไร “ตื่นเช้า อาบน้ำ กินกาแฟ เช็คเมล ส่งลูกไปโรงเรียน ก่อนจะไปทำงาน” โดยส่วนใหญ่คงเป็นอะไรประมาณนี้ ถ้าจะผิดเพี้ยนไปจากนี้อาจจะเป็นเพราะหน้าที่การงานที่แตกต่างกันออกไป

ที่ว่ามานี้ เราทำได้ เราทนได้ อยู่มาได้ตั้งนาน แต่จะ “ทำยังไงให้เรามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นไปกว่านี้” นี่คือสิ่งที่น่าสนใจ

มองไปที่แพทเทิร์นที่ว่านี้เราค้นพบอะไรบางอย่างที่สามารถยกระดับคุณภาพชีวิตขึ้นได้ นั่นก็คือ “Living”

ทำไมถึงพูดอย่างนั้น ก็เพราะว่า “Living” ที่ดีเป็นจุดเริ่มต้นทุกอย่างของชีวิต กิน นอน ตื่น ความรู้สึกดีๆ ในบ้าน ในครอบครัว ทุกอย่างล้วนส่งผลดีต่อการใช้ชีวิตประจำวัน

“Living Revolution” แบรนด์อสังหาแบรนด์หนึ่งหยิบไอเดียนี้ขึ้นมา “การพัฒนาแนวคิดนี้ เพื่อปฏิวัติการอยู่อาศัยแบบเดิมๆ โดยสร้างที่อยู่อาศัยที่มีการออกแบบในสไตล์โมเดิร์นและนำนวัตกรรมที่ทันสมัยมาใช้ในการออกแบบการอยู่อาศัย ทำให้บ้านอยู่สบายขึ้น สวยงามยาวนาน และมีฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบสนองทุกคนในครอบครัว ที่จะใช้ชีวิตอย่างสมบูรณ์แบบ” นี่เป็นคำพูดของผู้บริหารแบรนด์ที่ว่า

ไอเดียที่จะพลิกโฉมด้วยการสร้างรูปแบบการอยู่อาศัยในแบบฉบับของทางแบรนด์ กับคอนเซปต์ Living Revolution ประกอบไปด้วยไอเดียหลัก 2 ส่วนใหญ่ๆ 

1. Modern Living Design ให้บ้านตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ และปล่อยให้พื้นที่สีเขียวเป็นส่วนหนึ่งของบ้าน

– Life Connectivity การเลือกทำเลโครงการที่อยู่ในเมือง ติดถนนใหญ่ ทำให้ผู้อยู่อาศัยมีความสะดวกสบายในการเดินทาง ไม่ทำให้ทุกไลฟ์สไตล์ต้องติดขัด

– Timeless Design การออกแบบที่คำนึงถึงการอยู่อาศัยที่สอดคล้องกับธรรมชาติ โดยออกแบบบ้านให้มีรูปทรง L Shape และ C Shape ทำให้เกิด Inner Court กลางบ้าน ทำให้ผู้อยู่อาศัยได้มีพื้นที่สวนภายในบ้าน สร้างความเป็นส่วนตัวของพื้นที่ทั้งในและนอกบ้าน นอกจากนี้การออกแบบยังคิดถึงทิศทางของแสงแดดและสายลม เพื่อให้บ้านเป็นที่พักผ่อนอย่างแท้จริงและทันสมัยอยู่ได้ยาวนาน

2. Modern Living Innovation ให้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ามายกระดับคุณภาพชีวิต

– Convenience Lifestyle ถ้าจะบอกว่าบ้านทุกหลังมีอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงคงจะไม่ตื่นเต้นอะไร แต่ถ้าบอกว่าที่นี่ติดตั้งทุกจุดภายในบ้านให้เราใช้ได้อย่างราบรื่นตลอดเวลาล่ะน่าสนใจไหม คิดง่ายๆ ว่าเราสามารถทำงานได้จากทุกมุมภายในบ้าน ซึ่งเป็นไอเดีย Work from Home ที่ทางแบรนด์คิดมาอย่างดีเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ แถมยังออกแบบระบบเสียงรอบบ้านที่สามารถเชื่อมต่อเข้ากับ Smartphone หรือ Smart TV ได้อย่างง่ายดาย แค่นี้ก็มีความสุขได้ตลอดทั้งวัน

– Eco & Health Concern ทางแบรนด์บอกว่าสุขภาพของผู้อยู่อาศัยก็เป็นเรื่องสำคัญ เพราะไม่ใช่แค่ซื้อบ้านไปแล้วแยกย้าย แต่ยังมองลูกบ้านเป็นเหมือนครอบครัว เพราะฉะนั้นหลังจากนี้บ้านทั้งหมดจะเริ่มมีระบบ Air Control System ในการปรับสภาพอากาศภายในบ้านให้สมดุลตลอดเวลา ลดเรื่องฝุ่นละอองภูมิแพ้ในบ้านและมีระบบหมุนเวียนอากาศที่ไม่ดีออกไปด้านนอก วางระบบกรองน้ำประปาที่จะนำมาใช้ในบ้าน นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญในการใช้พลังงานธรรมชาติ มีการติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ผลิตไฟฟ้าเพื่อใช้กับพื้นที่ส่วนกลาง เป็นการประหยัดพลังงานและลดค่าใช้จ่ายสำหรับการดูแลส่วนกลางในระยะยาว

– Security for Life ความปลอดภัยเป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่เราไม่ควรมองข้าม ทางแบรนด์ได้แบ่งโซน Public, Semi-Public และ Private Space ไว้อย่างสมบูรณ์แบบ ภายในบ้านทุกหลังมีการวางระบบความปลอดภัยจากผู้เชี่ยวชาญและเชื่อมต่อเข้ากับระบบ Home Automation ในการควบคุมการทำงานทั้งหมดได้เพียงแค่ App Service เพียงตัวเดียว

มาถึงตรงนี้แล้วคงสัมผัสได้แล้วว่า ไอเดีย “Living Revolution” นั้นน่าสนใจขนาดไหน แล้วแบรนด์ที่ลุกขึ้นมาทำเรื่องนี้ก็คือ “Nirvana” แบรนด์อสังหาริมทรัพย์ ที่ไม่เคยหยุดนิ่ง เพื่อคิดค้นและสร้างที่อยู่อาศัยที่ดีที่สุดสำหรับครอบครัว จึงเป็นบ้าน BEYOND New Series ที่สวยงดงามอย่างที่เห็น

โดยครั้งนี้ได้จับมือกับ Daiwa House บริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องของการสร้างบ้านในประเทศญี่ปุ่นมาทำงานร่วมกัน ตั้งแต่การวางแผนและการออกแบบที่ทันสมัย

โดยตอนนี้สามารถเข้าไปชมบ้านตัวอย่างได้แล้วที่โครงการ “เนอวานา บียอนด์ พระราม 9-กรุงเทพกรีฑา” โครงการนำร่องอยู่บนถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ โครงการเมืองที่อยู่อาศัยที่ประกอบไปด้วยที่พักอาศัย ศูนย์การค้า ศูนย์สุขภาพ และสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เพื่อคุณภาพชีวิตที่เหนือกว่าและตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่ต้องการหลีกหนีความแออัดจากในเมือง

สุดท้ายสำหรับผู้ที่เข้ามาเป็นครอบครัวเดียวกัน Privileges for Family จะได้รับสิทธิประโยชน์และประสบการณ์ในการอยู่อาศัยมากมาย เช่น บริการ Nirvana Living Service ที่เปรียบเสมือนการมี Concierge ส่วนตัวคอยให้บริการในการดูแลบ้าน ไม่ว่าจะเป็น การทำความสะอาด ซักรีด และร้านอาหาร นอกจากนี้ยังมีสิทธิประโยชน์ในเรื่องของการท่องเที่ยวและอื่นๆ อีกมากมาย

อย่าลืมแวะเข้ามาชมโครงการ “เนอวานา บียอนด์ พระราม 9-กรุงเทพกรีฑา” จะได้รู้ว่า “Living Revolution” นั้นน่าตื่นเต้นขนาดไหน