เทคโนโลยี Nike Joyride เป็นเทคโนโลยีสำหรับพื้นรองเท้าแบบล่าสุดของไนกี้ พัฒนาขึ้นเพื่อเติมเต็มเทคโนโลยีที่มีชื่อเสียงอย่าง Nike Air และ Nike React ไปอีกขั้น ไนกี้พัฒนาเทคโนโลยีไนกี้จอยไรด์ให้เป็นเทคโนโลยีที่สามารถรักษากำลังขาได้ดีขึ้น เนื่องจากเทคโนโลยีนี้สามารถรองรับแรงกระแทกเมื่อเท้ากระทบกับพื้นได้ดี โดยมีโครงสร้างที่มีน้ำหนักเบาและสามารถส่งคืนพลังงานกลับสู่เท้าได้ดีด้วยเช่นกัน ซึ่งจะสร้างประสบการณ์ขณะสวมใส่วิ่งหรือขณะออกกำลังที่เยี่ยมยอดไปอีกขั้น
จุดเด่นของเทคโนโลยี Nike Joyride มีดังต่อไปนี้
เทคโนโลยีไนกี้จอยไรด์เป็นเทคโนโลยีสำหรับพื้นรองเท้าเทคโนโลยีเดียวของไนกี้ที่มีรากฐานจากการผสานเม็ดพลาสติกทีพีอีจำนวนหลายพันเม็ดเข้าด้วยกัน
เม็ดพลาสติกเหล่านี้จะเรียงตัวอยู่ในช่องบริเวณพื้นรองเท้าที่ไนกี้สรรสร้างขึ้นอย่างชาญฉลาด และส่งผลให้เม็ดพลาสติกเหล่านี้สามารถขยายตัวได้ทุกทางอย่างอิสระ (ไนกี้เรียกกระบวนการจัดเรียงเม็ดพลาสติกดังกล่าวนี้ว่าการจัดเรียงวัสดุแบบหลายมิติ หรือ multi-dimensional displacement)
กระบวนการจัดเรียงเม็ดโฟมดังกล่าวช่วยให้พื้นรองเท้าที่พัฒนาจากเทคโนโลยีนี้มีลักษณะที่สอดรับกับรูปทรงของเท้าของผู้สวมใส่ ช่วยสร้างความรู้สึกพิเศษที่ผู้เป็นเจ้าของแต่ละคนจะได้รับ
ช่องบริเวณพื้นรองเท้าที่ไนกี้พัฒนาเพื่อบรรจุเม็ดพลาสติกนั้นมีขนาดแตกต่างกัน และช่องเหล่านี้สามารถขยายหรือหดตัวตามจังหวะหรือลักษณะของเท้าเมื่อเท้ากระทบกับพื้นหรือยกตัวขึ้นจากพื้น ช่องบริเวณส้นเท้าจะมีขนาดใหญ่กว่าช่องบริเวณหน้าเท้าเพื่อรับแรงกระแทกได้ดีขึ้น ส่วนช่องบริเวณหน้าเท้านั้นออกแบบโดยช่วยให้ผู้สวมใส่สามารถวิ่งไปข้างหน้าได้อย่างนุ่มนวล
เบื้องหลังเทคโนโลยีที่ช่วยสร้างความรู้สึกพิเศษราวกับวิ่งอยู่บนฟองนุ่มๆ
- เทคโนโลยีจอยไรด์เป็นเทคโนโลยีที่เกิดจากการทดสอบอย่างต่อเนื่องยาวนานของไนกี้ ไนกี้สร้างต้นแบบจากวัสดุที่ต่างกันถึง 150 ประเภทก่อนจะเลือกทีพีอี (โคพอลิเมอร์ชนิดหนึ่งที่เกิดจากการผสมพลาสติกและยาง) เป็นวัสดุในการผลิตเม็ดที่รองรับแรงกระแทก
- นักออกแบบของไนกี้ต้องปรับแต่งช่องที่พื้นรองเท้าให้เหมาะสมกับการใช้งานเทคโนโลยีจอยไรด์ในรองเท้า
แต่ละรุ่น เนื่องจากการปรับแต่งช่องที่พื้นรองเท้าช่วยให้ไนกี้แก้ปัญหาที่เม็ดพลาสติกทีพีอีกระจายตัวไปอยู่ที่ด้านใดด้านหนึ่งของเท้ามากเกินไปจนทำให้รู้สึกไม่สบายเท้าขณะสวมใส่
- เม็ดพลาสติกทีพีอีจะกระจายตัวในช่องที่พื้นรองเท้าโดยยืดหยุ่นตามลักษณะการวิ่งของแต่ละคนได้ (ยกตัวอย่างเช่น รองเท้าวิ่งที่ใช้เทคโนโลยีนี้อาจจะมีเม็ดพลาสติกทีพีอีทั้งหมด 8 พันเม็ดโดยประมาณ และเมื่อผู้สวมใส่ออกวิ่ง เม็ดพลาสติกทีพีอีประมาณครึ่งหนึ่งจะอยู่ที่ส้นเท้าเพื่อรองรับแรงกระแทก และเม็ดพลาสติกทีพีอีประมาณร้อยละ 5 จะกระจายอยู่รอบปลายเท้าเพื่อปกป้องนิ้วเท้า)
รองเท้ารุ่นใดที่จะมีเทคโนโลยีนี้ก่อนใคร?
ไนกี้จะวางจำหน่ายรองเท้าวิ่งรุ่น Nike Joyride Run Flyknit ซึ่งถือเป็นรองเท้ารุ่นแรกที่มีเทคโนโลยีจอยไรด์และออกแบบสำหรับนักวิ่งทุกๆ คน รองเท้ารุ่นนี้มีพื้นรองเท้าที่นุ่มและออกแบบให้จังหวะที่เท้าแตะพื้นหรือยกเท้าออกจากพื้นนั้นเป็นไปอย่างนิ่มนวลที่สุด ช่วยให้รองเท้ารุ่นนี้เหมาะสมกับนักวิ่งทุกระดับ ทั้งมืออาชีพที่มองหารองเท้าสำหรับการฝึกซ้อมวิ่งหรือนักวิ่งมือใหม่
Nike Joyride Run Flyknit จะวางจำหน่ายให้กับสมาชิกไนกี้เมมเบอร์ตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคมศกนี้ และจะวางจำหน่ายทั่วโลกในวันที่ 15 สิงหาคมศกนี้
รองเท้ารุ่นอื่นๆ ของไนกี้ในอนาคตอันใกล้ที่จะใช้เทคโนโลยีไนกี้จอยไรด์โดยได้รับการปรับแต่งใหม่ให้เหมาะกับแต่ละรุ่นคือ Nike Joyride NSW, Nike Joyride NSW Setter ซึ่งนำเสนอเป็นครั้งแรกในการแสดงแฟชั่นโชว์คอลเลกชั่นปี 2020 ของ Matthew Williams ในงานปารีสแฟชั่นวีก Nike Joyride NSW Optik สำหรับสุภาพสตรี และ Nike Joyride Kids Nova สำหรับนักวิ่งรุ่นเยาว์
ไนกี้จอยไรด์รุ่นนี้จะวางจำหน่ายทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคมเป็นต้นไป ในราคา 6,100 บาท
RECOMMENDED CONTENT
ในช่วงเวลาที่การแข่งขันกีฬาอาชีพหลายรายการกำลังเริ่มกลับมาแข่งขันตามปกติ ไนกี้ตระหนักดีถึงความรู้สึกของแฟนกีฬา ความตื่นเต้นจากเกมการแข่งขันที่พลิกผันในเสี้ยววินาที พลังของแฟนกีฬาที่กำลังค่อยๆ ตื่นขึ้นอีกครั้ง และแน่นอนที่สุดคือความรู้สึกสนุกสนานที่แฟนๆ กีฬามีร่วมกัน