ด้วยความมุ่งมั่นที่จะรวมสร้างความแตกต่างให้กับนักกีฬาในการแข่งขัน ล่าสุด อาดิดาสได้เปิดเผย Futurecraft 4D (ฟิวเจอร์คราฟท์ 4D) รองเท้ากีฬารุ่นแรกของโลกที่ประกอบด้วยพื้นรองเท้าที่มีน้ำหนักเบาด้วยเทคโนโลยีการสังเคราะห์โดยใช้แสงระบบดิจิตอล (Digital Light Synthesis)
ที่คิดค้นโดยบริษัท คาร์บอน (Carbon) ฟิวเจอร์คราฟท์ 4D นั้นถือเป็นนวัตกรรมที่พัฒนามาอย่างต่อเนื่องจากอาดิดาส ฟิวเจอร์คราฟท์ อีกหนึ่งการพัฒนางานคราฟท์แมนชิพ (Craftsmanship) ของอาดิดาส ผ่านการร่วมมือ การออกแบบ และการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อให้นักกีฬาได้รับผลลัพธ์ที่ดีที่สุด พื้นรองเท้า (Midsole) ของฟิวเจอร์คราฟท์ 4D นั้น เป็นที่รู้จักมา 17 ปีแล้วในวงการวิ่ง และนำมาใช้จริงด้วยกระบวนการสร้างสรรค์และออกแบบองค์ประกอบรองเท้าแบบดิจิตอล ที่ไม่ต้องใช้กระบวนการขึ้นรูปแบบเดิม และด้วยเทคโนโลยีใหม่นี้ ปัจจุบัน อาดิดาสได้ดำเนินการผลิตสำหรับนวัตกรรมดังกล่าวตามมาตรฐานคุณภาพผลิตภัณฑ์กีฬา ซึ่งหลังจากผ่านเทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติ ก็จะเข้าสู่กระบวนการผลิตที่ล้ำหน้า ถือเป็นอีกมิติหนึ่งของอุตสาหกรรมกีฬา
มร. เอริค ลีดท์เกอ ตัวแทนคณะกรรมการบริหารอาดิดาส กล่าวว่า “เทคโนโลยีการสังเคราะห์โดยใช้แสงระบบดิจิตอล (Digital Light Synthesis) ทำให้เราก้าวผ่านข้อจำกัดที่เคยมี ช่วยให้การออกแบบและการผลิตเป็นไปได้มากกว่าที่เคย ได้รับการพัฒนามาจากข้อมูลนักกีฬาและการคำนึงถึงกระบวนการการผลิตที่มีประสิทธิผล และด้วยเทคโนโลยีล่าสุดนี้ เราสามารถที่จะใส่ความคิดสร้างสรรค์ ปรับเปลี่ยนสิ่งที่ผลิต หรือแม้กระทั่งวิธีการในการผลิตได้”
Digital Light Synthesis หรือเทคโนโลยีการสังเคราะห์โดยใช้แสงระบบดิจิตอลนั้น ริเริ่มโดยบริษัท คาร์บอน ที่ใช้การฉายแสงด้วยระบบดิจิตอล การยิงแสงที่มีอ็อกซิเจนผ่าน และการใช้วัสดุเรซินเหลวเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูง และทนทาน ฟิวเจอร์คราฟท์ 4D เป็นนวัตกรรมแรกของอาดิดาสที่ใช้แสงสำหรับการสังเคราะห์ ที่แสดงให้เห็นถึงการออกแบบและผลิตโดยคำนึงถึงข้อมูลผู้ใช้และนักกีฬา ด้วยความมุ่งหวังที่จะสร้างสรรค์สุดยอดรองเท้าวิ่งสำหรับทุกคน อาดิดาสได้นำข้อมูลการวิ่งมาวิเคราะห์เพื่อออกแบบและขึ้นรูปพื้นรองเท้าโดยใช้เทคโนโลยีการสังเคราะห์โดยใช้แสงระบบดิจิตอล ซึ่งเทคโนโลยีดังกล่าวจะแตกต่างจากเทคโนโลยีการผลิตแบบเดิมตรงที่ตอบรับความต้องการของนักกีฬาแต่ละคนตามลักษณะการเคลื่อนที่ การรองรับน้ำหนัก ความมั่นคง และความสบายจากเพียงส่วนประกอบเดียว พื้นวัสดุเรซิ่นที่ออกแบบได้จากคาร์บอน จะให้ประสิทธิภาพที่เหนือชั้น พร้อมความคงทนจากวัสดุที่มีความยืดหยุ่นสูง
ผลิตภัณฑ์รองเท้ากีฬาที่ใช้นวัตกรรมฟิวเจอร์ 4D จำนวน 300 คู่แรก จะออกวางสู่ตลาดในเดือนเมษายนนี้ และในช่วง Fall/ Winter จะพร้อมวางจำหน่ายที่ช็อปอาดิดาสอีก 5,000 คู่ ก่อนจะเพิ่มจำนวนการผลิตมากขึ้นในฤดูกาลถัดไป ทั้งนี้ ยังไม่มีจำหน่ายในประเทศไทย
เทคโนโลยี Digital Light Synthesis คิดค้นโดยคาร์บอน บริษัทด้านเทคโนโลยีในซิลิคอน วัลเล่ย์ ที่มุ่งมั่นที่จะปรับปรุงการออกแบบผลิตภัณฑ์ผ่านการศึกษาเรื่องฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และศาสตร์ของโมเลกุล แนวคิดนี้ จะช่วยให้งานดีไซน์ที่ซับซ้อนตามจินตนาการของนักออกแบบของอาดิดาส นักวิทยาศาสตร์การกีฬา และวิศวกรเป็นความจริงได้ ที่สำคัญ Digital Light Synthesis จะช่วยกำจัดข้อบกพร่องจากกระบวนการผลิตแบบเดิม (อย่างเช่น การพิมพ์สามมิติ) ในแง่ของอัตราความเร็วต่ำของการผลิต คุณภาพพื้นผิวที่ไม่ดี และขีดจำกัดเรื่องวัสดุและสี ซึ่งในตอนนี้ อาดิดาสได้นำนวัตกรรมที่ดีที่สุด ส่งมอบให้ลูกค้าได้รวดเร็วกว่าเดิม
จากนวัตกรรมฟิวเจอร์คราฟท์ในปี 2557 ที่อาดิดาสก็เริ่มค้นหาการผลิตเพิ่มเติมเพื่อเป็นเครื่องมือในการออกแบบผลิตภัณฑ์ ก่อนจะเปิดตัว ฟิวเจอร์คราฟท์ 3D รันเนอร์ (Futurecraft 3D Runner) ในปีถัดมา ซึ่งถือเป็นรองเท้ากีฬาที่ใช้งานพิมพ์สามมิติรุ่นแรกของอาดิดาส และในตอนนี้ อาดิดาสก็ได้ปรับรูปแบบการผลิตที่มากขึ้นด้วยการร่วมมือกับคาร์บอน พร้อมที่จะขยายการผลิตกลุ่มรองเท้าที่ใช้แสงในการสังเคราะห์ด้วยระบบดิจิตอล อาดิดาสจะเดินหน้าทำงานกับคาร์บอนในการพัฒนาวัสดุใหม่รวมถึงสายการผลิตที่จะใช้นวัตกรรมอันล้ำหน้า การสังเคราะห์ด้วยแสงระบบดิจิตอลจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้การผลิตนั้นเร็วขึ้น หรือที่เรียกว่า Speecfactory ผลิตสินค้าที่ออกแบบได้ตามความต้องการของลูกค้าหรือสอดคล้องกับข้อมูลทางกายภาพของแต่ละคน
ดร. โจเซฟ ดิซิโมน ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้งคาร์บอน กล่าวว่า “แม้ว่าเทคโนโลยีจะเข้ามามีอิทธิพลเพื่อช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตในด้านต่างๆ แต่ในหลายๆ แห่ง กระบวนการผลิตยังคงเป็นไปตามขั้นตอนแบบเดิมทั้งสี่ที่เรียกว่า วงจรการพัฒนาผลิตภัณฑ์ อันประกอบด้วย การออกแบบ การขึ้นรูปตัวต้นแบบ เครื่องมือ และการผลิต คาร์บอนได้เริ่มปรับเปลี่ยนกระบวนการดังกล่าว และพยายามทำให้มันง่ายขึ้นตั้งแต่การออกแบบ ไปจนถึงการผลิต คาร์บอนได้ให้วิศวกรและนักออกแบบ คิดค้นดีไซน์ที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ รวมถึงธุรกิจที่จะเข้ามาช่วยกำจัดข้อจำกัดที่เกิดขึ้น และ Futurecraft 4D ก็ถือเป็นข้อพิสูจน์นั้น การร่วมมือกับอาดิดาส จะช่วยให้เห็นถึงการปรับเปลี่ยนด้านดิจิตอลที่ได้เข้าถึงภาคการผลิตระดับโลกแล้ว พร้อมเปลี่ยนแปลงวิธีการผลิตสินค้าที่เกี่ยวข้องกับรูปร่างทั้งในเรื่องการออกแบบ การผลิต จนถึงการส่งมอบ”
.
RECOMMENDED CONTENT
หลังจากคว้ารางวัลกรังปรีซ์ สาขาเพลงประกอบโฆษณายอดเยี่ยมจากเวทีคานส์ ไลอ้อน 2017 อาดิดาส ออริจินอลส์ยังคงพัฒนาผลงานสร้างสรรค์อย่างต่อเนื่อง