หนึ่งในทัวร์นาเมนต์กีฬาที่มีผู้ชมเฝ้ารอเชียร์มากที่สุดในโลก หนีไม่พ้นการแข่งขันฟุตบอล ที่ครองใจคนได้ทุกเพศ ทุกวัย (เชื่อว่าหลายคนต้องเคยมีโมเม้นต์เกาะติดหน้าจอรอเชียร์ทีมโปรดกันมาตั้งแต่วัยเด็กแน่ๆ)
ล่าสุด adidas ก็ได้เวลาเปิดตัวเสื้อแข่งขันเหย้าและเยือนสำหรับทีมชาติอาร์เจนตินา เยอรมนี ญี่ปุ่น เม็กซิโก สเปน ที่จะใช้ในการแข่งขัน FIFA World Cup 2022 โดยในปีนี้ ชุดเสื้อแข่งขันทุกชุดได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบจากวัฒนธรรมอันทรงคุณค่า ผสมผสานเข้ากับดีไซน์สุดล้ำ ซึ่งทั้งหมดถูกผลิตด้วยวัสดุรีไซเคิลโพลีเอสเตอร์ 100% และวัสดุ Parley Ocean Plastic โดยไม่ลืมใส่นวัตกรรมเนื้อผ้าที่ล้ำสมัยที่สุดในการผลิตเสื้อแข่งขันแต่ละชุด อย่าง เทคโนโลยี HEAT.RDY ที่ช่วยให้นักฟุตบอลรู้สึกเย็นสบายตัว รวมถึงยังมีการใช้ความร้อนเพื่อให้เสื้อมีน้ำหนักเบาอีกด้วย…
และครั้งนี้ adidas จะทำให้การใส่เสื้อบอล หรือ “Soccer Jersey” ไม่มีคำว่า “ธรรมดา” อีกต่อไป เพราะไม่ว่าคุณจะเป็นสายบอล(Only!) สายสปอร์ต หรือสายแฟชั่น หยิบมาใส่เมื่อไหร่ก็ได้แต่เอนเนอจี้บวก แมทช์กับลุคไหนก็สนุกแบบไม่ซ้ำ และสามารถนำมาใส่ได้แบบ Everyday Look
ใครชอบทีมไหน หรือชอบดีไซน์ของทีมใด ตามมากด Like ไปพร้อมๆ กันเลย!
#TeamARGENTINA
เสื้อแข่งขันเยือนที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากความภาคภูมิใจในชาติ และการแสวงหาความเท่าเทียมบนโลกใบนี้ ด้วยการใช้สีม่วงที่แสดงถึงความเท่าเทียมทางเพศ ผสมผสานด้วยลวดลายเปลวไฟที่มาจากดวงอาทิตย์แห่งเดือนพฤษภาคม (Sun of May) ที่มาจากธงประจำชาตินั่นเอง
#Team BELGIUM
เสื้อแข่งขันเหย้าที่ถูกออกแบบจากตัวตนด้านการเล่นฟุตบอลอันเป็นเอกลักษณ์ โดดเด่นด้วยการใช้สีแดงเข้มที่ดึงดูดได้ทุกสายตา ประดับด้วยแถบสีจากธงชาติสเปนที่บริเวณคอเสื้อและด้านข้างลำตัว ส่วนเสื้อแข่งขันเยือนก็มีลวดลายที่ได้แรงบันดาลใจมาจากโลโก้ของทีมชาติเมื่อปี 1982 ซึ่งสเปนได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกในปีนั้น
#TeamGERMANY
เสื้อแข่งขันเหย้าซึ่งมีการใช้ความร้อนในการประทับตราสีทองที่กลางอก และมีการวางแถบสีดำตรงกลางเสื้อ โดยได้แรงบันดาลใจมาจากชุดแข่งขันทีมชาติชุดแรกที่ยกระดับความสวยงามแบบเรียบง่ายขึ้นไปอีกขั้น ส่วนบริเวณคอเสื้อและข้างลำตัวมีการตกแต่งด้วยสีสันของธงชาติเยอรมนี ขณะที่เสื้อแข่งขันเยือนก็ได้ถ่ายทอดจิตวิญญาณของทีมด้วยการใช้สีสันของธงชาติและตกแต่งด้วยตัวอักษร D ที่มาจากคำว่า “Deutschland” แสดงให้ถึงสไตล์การเล่นฟุตบอลแบบไดนามิกของทีมชาติชุดนี้
#TeamJAPAN
เสื้อแข่งขันเหย้าที่มีการแสดงตัวตนผ่านลวดลายโอริกามิรูปกาสามขา ขณะที่เสื้อแข่งขันเยือนก็มีการออกแบบที่แสดงให้เห็นถึงสไตล์การเล่นอันคล่องตัวของทีมชาติญี่ปุ่น ผ่านการประดับด้วยลวดลายกราฟิกโอริกามิที่แสดงให้เห็นถึงความรวดเร็วอย่างชัดเจน
#TeamSPAIN
เสื้อแข่งขันเหย้าที่ถูกออกแบบจากตัวตนด้านการเล่นฟุตบอลอันเป็นเอกลักษณ์ โดดเด่นด้วยการใช้สีแดงเข้มที่ดึงดูดได้ทุกสายตา ประดับด้วยแถบสีจากธงชาติสเปนที่บริเวณคอเสื้อและด้านข้างลำตัว ส่วนเสื้อแข่งขันเยือนก็มีลวดลายที่ได้แรงบันดาลใจมาจากโลโก้ของทีมชาติเมื่อปี 1982 ซึ่งสเปนได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกในปีนั้น
TIPS & TRICKS
#เสื้อบอล ไม่ได้เป็นของนักฟุตบอลหรือสาวกบอลเท่านั้น เพราะในโลกของสตรีทแฟชั่น นี่คือไอเท็มที่น่าจับตามองไม่แพ้เทรนด์ไหนๆ นอกจากลุคสปอร์ตสุด Hype ที่เราเห็นแล้ว ยังนำมา Mix & Match กับอะไรได้บ้าง…มาดูกัน!
- ลองดึงคู่สีที่คอนทราสต์กันมาเล่นสนุก หรือจะคุมโทนด้วยสีสันที่ไปด้วยกันได้ ก็ลงตัวไม่เบา
- ใส่เสื้อบอลอย่างเดียว อาจจะเบสิกเกินไป ลองใส่ฮู้ดหรือเชิ้ตไว้ด้านใน จะได้อีกลุคที่ดูว้าวกว่าเดิม
- แมทช์เสื้อบอลกับ Outerwear อย่างแจ๊กเก็ต ก็ได้ฟีลลิ่งรับลมหนาวโชยๆ (แม้จะมาจากแอร์ที่ออฟฟิศก็ตาม)
- เสื้อบอลทีมโปรดกับงานเดนิมซึ่งจัดว่าเป็นคลาสสิกไอเท็ม…ใครล่ะจะไม่หันมามอง!
- ใครว่าเสื้อบอลจะอยู่นอกสนามไม่ได้! ลองแมทช์กับชุดสูททรงเก๋สักตัว หรือแค่กางเกงสแลคเรียบๆ ก็เท่ไม่ไหว!
- สิ่งสำคัญอยู่ที่รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ…ลองหยิบเอา Accessories จาก adidas มาคอมพลีทลุคให้กับการแต่งตัว ให้ดูพิเศษกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นหมวก, กระเป๋า, Headband ไปจนถึงสนีกเกอร์คู่โปรด
ใครที่ถูกใจลุคไหนของทีมใด หรือเป็นสายคอลเลคเตอร์ที่ชอบเก็บสะสมเสื้อบอลอยู่แล้ว สามารถตามมาเป็นเจ้าของคอลเลคชั่นทีมชาติประจำการแข่งขัน FIFA World Cup 2022 กันได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ที่ adidas Brand Center, adidas Sports Performance, adidas Application, adidas Online Store www.adidas.co.th และ Ari Football และวางจำหน่ายที่ SUPERSPORTS และร้านค้าอุปกรณ์กีฬาชั้นนำทั่วประเทศ โดยวางจำหน่ายทั้งแบบ Replica และ Authentic ราคา 2,900 บาท และ 4,600 บาท (ตามลำดับ)
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook/adidasTH และทางอินสตาแกรมที่ @adidasThailand
#adidasTH #FIFAWorldCup2022
RECOMMENDED CONTENT
ย้อนรอยสู่จุดกำเนิดแห่งดนตรีเทคโนกับผลงาน Black to Techno โดยผู้กำกับฯ หญิงชาวอังกฤษ - ไนจีเรียน Jenn Nkiru ผู้จะพาเราไปสัมผัสวัฒนธรรมดนตรีเทคโนจากจุดกำเนิดที่เมืองดีทรอยท์ สหรัฐอเมริกา จากดนตรีกระแสรองสู่ความนิยมสุดขีดช่วงปลายยุค 1980s นำไปสู่ดนตรีที่สะท้อนต่อสู้เพื่อบทบาทในสังคมและเสรีภาพของกลุ่มคนผิวสีในดีทรอยท์