การทุ่มเงินไปกับการสร้าง Original Content ของ Netflix ทำให้ผู้ชมอย่างเราอิ่มหนำไปกับสารพัดซีรี่ส์แห่งปีที่ไม่ควรพลาดทั้ง Stranger Things, 13 Reasons Why, The Crown, Black Mirror, Narcos และอีกสารพัดชื่อ ท่ามกลางซีรี่ส์ชื่อดังเหล่านี้ American Vandal ซีรี่ย์ Mockumentary (สารคดีปลอม), คอมเมดี้ และสืบสวนสอบสวน ที่คนอาจไม่ค่อยคุ้นชื่อเรื่องนี้ ก็สามารถพุ่งมาเป็นอันดับ 1 ของซีรี่ส์ที่ถูกโหวตให้เป็น The Shows We Devoured in 2017 (รายการที่ดูมากกว่า 2 ชั่วโมงต่อวัน) ได้อย่างไม่น่าเชื่อ
American Vandal คือ Mockumentary ที่พาเราเข้าไปติดตามเหตุการณ์โกลาหลของโรงเรียนมัธยมปลายเเห่งหนึ่งในอเมริกา เมื่อมีมือดีมาวาดภาพกราฟฟิตี้ของอวัยวะเพศชายบนรถของอาจารย์ทั้ง 27 คัน ผู้ต้องสงสัยของเหตุการณ์นี้กลับมีเพียงคนเดียวเท่านั้นคือ Dylan Maxwell (แสดงโดย Jimmy Tatro)
ซึ่งทุกคนในโรงเรียนก็เห็นพ้องต้องกัน เพราะใครๆ ก็รู้ว่า Dylan คือเป็นตัวปัญหาแค่ไหนในโรงเรียน ยกเว้นเสียแต่ Peter Maldonado (แสดงโดย Tyler Alvarez) โปรดิวเซอร์รายการทีวีโรงเรียนที่มองเห็นความไม่ชอบมาพากลในการตัดสืบสวนครั้งนี้ จึงตัดสินใจทำสารคดีเพื่อบันทึกเหตุการณ์และตามหาว่าใครกันแน่คือคนร้ายที่แท้จริง
ความนิยมที่พุ่งพรวดของ True Crime Documentary อย่าง Making a Murderer อาจเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้คนสนใจ American Vandal เพราะมันล้อเลียน ‘ฟอร์เมต’ ของสารคดีชื่อดังชุดนี้ได้อย่างจริงจังสุดๆ จนเหมือนกับเรากำลังดูสารคดีอีก 1 เรื่องจากสารคดีชุดนี้อีกที
ไม่ว่าจะเป็นการตัดต่อ กราฟิก หรือกระทั่งมุมกล้อง ก็สร้างความระทึกและน่าติดตามได้เหมือนเวลาที่ดู True Crime Documentary จนแทบลืมไปเลยว่า ประเด็น ‘การตามหาคนที่พ่นรูปจู๋’ ตอนแรกนั้นมันดูเหมือนไร้สาระแค่ไหน
ไอ้ความจริงจังในเรื่องไร้สาระอย่างการตามหาคนพ่นรูปอวัยวะเพศนี่แหละ คือหมัดเด็ดที่ทำให้ทุกคนหยุดดู American Vandal ตอนต่อไปไม่ได้เลย แม้ว่าเราเอง ก็เป็นคนหนึ่งที่ไม่อิน และไม่หัวเราะกับมุขตลกแบบฝรั่งจ๋านี้สักเท่าไหร่ (แม้เรื่องนี้จะพูดคำว่า Dick ไปทั้งหมด 182 คำและเห็นภาพวาดไปถึง 956 ครั้ง)
แต่ซีรี่ส์เรื่องนี้ได้พาเราไปไกลจากมุขตลกใต้สะดือแบบเด็กมัธยมมาก ระหว่างที่ตามหาความจริง American Vandal ได้สะท้อนภาพไฮสคูลของต่างประเทศได้อย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการกลั่นแกล้ง (Bully) การแบ่งชนชั้น (ที่จริงจังสุดๆ) การตัดสินคนอย่างผิวเผิน (ผ่านการเล่าปากต่อปาก) ไปถึงอิทธิพลของ ‘สื่อ’ และ ‘โลกออนไลน์’ ที่ส่งผลมากมายต่อกระบวนการยุติธรรมรวมถึงชีวิตของคนๆ หนึ่ง ซึ่งจะว่าไป นี่ก็คือการ deconstruct ’13 Reasons Why’ ซีรี่ส์ระดับตำนานของ Netflix ซึ่งนี่เป็นเหมือนกับการขยี้ประเด็นที่เกิดขึ้นในโรงเรียนไฮสคูลเข้าไปอีก
ท่ามกลางมุขตลกที่ปล่อยมาแบบไม่ยั้ง American Vandal ก็ได้ปล่อยหมัดฮุกที่ทำให้หน้าเราชาไปหลายครั้ง นี่คืออีกหนึ่งซีรี่ส์ที่ใช้ท่าทีแบบกึ่งเล่นกึ่งจริง ตั้งคำถามกับการตัดสินคนจากอะไรก็ได้ และกระบวนการยุติธรรมของสังคมได้อย่างแยบยลที่สุดเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว
RECOMMENDED CONTENT
เรื่องราวของ Christopher Robin พาเรามาถึงช่วงเวลาที่คริสโตเฟอร์ โรบิ้น โตขึ้นและต้องเข้ามาทำงานในกรุงลอนดอน พร้อมภรรยาและลูกสาว เขาตรากตรำทำงานอย่างหนักจนแทบไม่มีเวลาให้ครอบครัว แม้แต่วันที่เขาตั้งใจจะไปเที่ยวกับครอบครัวนอกเมือง แต่งานด่วนก็ดันเข้ามาทำให้เขาคิดหนักว่าจะเลือกงานหรือครอบครัวดี