ชีวิตประจำวันแต่ละวัน 24 ชั่วโมงก็หมุนเวียนไปเรื่อยๆ แปปๆ 7 วัน 1 อาทิตย์ เดี๋ยวเดียวก็ 4 อาทิตย์ 1 เดือน (เทียบบัญญัติไตรยางค์ทำไมเล่าเนี่ย!?) เมื่อเวลาเดินไปเรื่อยๆแบบนี้ เราเองเคยสังเกตตัวเองกันไหมว่ามีความเปลี่ยนแปลงกันเกิดขึ้นขนาดไหน วันนี้เรามีคอลัมน์เตือนสติมาฝากกัน กับพฤติกรรมบางอย่างอาจจะเป็นสัญญาณบอกว่าคุณเริ่มเป็นคนขี้เกียจแล้ว! เตรียมสมุดโน๊ตมา Checklist ให้พร้อม แล้วมาไล่ดูกันเลย
คุณส่งเมจเสจใน Line หรือโทรหาเพื่อนที่มันนั่งอยู่คนห้องติดกัน
ข้อนี้เคยเจอมากับตัวตอนอยู่หอพัก อยู่ดีๆโทรศัพท์ดังขึ้นละ เป็นไอ้เบอร์เพื่อนข้างห้อง “ขอยาสีฟันหน่อย” อืม ทำไมการมาเคาะประตู เดินมาให้เห็นหน้ากัน มันเป็นสิ่งหายากที่ทำเราคิดถึงขนาดนี้ไปได้นะ!?
คุณเริ่มปฏิเสธหรือผลัดผ่อนทุกอย่าง
พูดง่ายๆคือมีข้ออ้างไปหมดทุกอย่าง มีอะไรมาปฏิเสธได้หมด ฉันไม่พร้อมบ้าง ฉันไม่เหมาะบ้าง ฉันเหนื่อยเกินไป ช่วงนี้มีงานใหม่เข้ามาอยากลองไหม “ม่ายล่ะ” มีคนอยากให้ไปลองทำนั่นนี่ “ม่ายล่ะ” เผื่อว่าช่วงนี้เคลียร์งานไม่เสร็จทำโอทีก็ดีนะ “ม่ายล่ะ” เออ เสาร์นี้ว่าจะไปเที่ยวทะเล ไปไหม “ไป!” …นั่นไง ชัดเลย
คุณเริ่มไปนัดสายขึ้นเรื่อยๆ เวลาเริ่มจะไม่มีผลอะไรสำหรับคุณ
เคยเป็นกันไหม จากที่ปกติเป็นคนตรงเวลา เวลานัดใครไปตรงตามนัดหรือไปก่อนตลอด แต่ทำไมหลังๆมานี้เราเริ่มเป็นมนุษย์ไปสายขึ้นเรื่อยๆ ความไม่ตรงต่อเวลานี่ล่ะที่เป็นบิดาของความขี้เกียจทั้งปวง เพราะมันเป็นสิ่งใกล้ตัวที่สุดที่เราต้องจัดการตัวเอง คนญี่ปุ่นถึงกับสอนเลยนะว่า แรกเริ่มเลยถ้าอยากจะให้คนนั้นเป็นคนเก่งคนขยันคนดี สิ่งแรกคือต้องทำให้เป็นคนตรงต่อเวลาให้ได้ก่อน แล้วมันจะเกิดวินัยที่แข็งแรงขึ้น
คุณชอบลิฟท์มากกว่าบันได
ข้อนี้ถ้าเป็นสิบยี่สิบชั้นเราเข้าใจหัวอกคุณดี (เอ หรือเราเองก็ขี้เกียจ) แต่ในสเต็ป 1-4 ชั้น ถ้าเกิดว่าลิฟท์ไม่ได้ประจวบเหมาะรอบเราพอดี ถ้าคิดคำนวณแล้วว่าเดินน่าจะถึงก่อนแต่ยังเลือกที่จะรอลิฟท์ อืม อันนี้เป็นกลิ่นของขี้เกียจโชยมาหน่อยๆแล้วนะ
คุณติดนิสัยใช้รถเกินความจำเป็น
ไปร่วมงานแต่งงานเพื่อนที่ภูเก็ต โอเค จำเป็น คุณใช้รถไม่ผิด แต่ถ้าเดินไปซื้อของที่ร้านปากซอย แล้วยังอุตส่าห์ถอยรถออกจากบ้าน ไปหาที่จอด กลับมาจอดเข้าซองในบ้าน เพื่อน้ำขวดเดียว เปลี่ยนมาใช้การเดินให้มากขึ้นดีกว่า เราสังเกตดูจะพบว่าบ่อยครั้งที่คนไทยตอนนี้ลืมการเดิน ซึ่งจากชาวต่างชาติที่รู้จักมาเดินในระยะประมาณ 4-5 ป้ายรถเมล์ สำหรับเขาคือปกติมากๆนะ เพราะงั้นมาเดินกันให้มากดีกว่าครับ
เสื้อผ้าคุณมักจะแหงกอยู่ในเครื่องซักผ้ารอการหยิบใช้
เอ้ะ การตากผ้าคืออะไร? ไม่เคยอยู่ในหัวของฉัน? ทำไม? ไม่ทำไมหรอกครับ แต่ว่านี่ล่ะสัญญาณแท้ๆของคนเมืองขี้เกียจ ยังดีนะที่คุณยังมีจิตใจทนความเหม็นไม่ไหวต้องหอบเสื้อมาซัก แต่ก็ซักมันด้วยการปั่นรวมในเครื่องนี่ล่ะ ซึ่งถึงจุดนี้ เราเข้าใจดีว่าพลังงานของคุณคงเลยขีดมา ต้องใช้ถังอีแล้ว ตามฟอร์ม คุณคงทิ้งมันไว้ในนั้นนั่นล่ะ รอวันที่อยากใส่ตัวไหน ก็ค่อยหยิบออกมา หอมๆชื้นๆ ฟินจุง …Totally Lazy
คุณมีโมเมนต์ “พักเบรคให้ชีวิต” บ่อยมาก
นั่งทำงานอยู่ดีๆ คุณก็รู้สึกอยากพักเบรค อะ พักแล้วเข้าห้องน้ำล้างหน้า พักที่สองก็พักเที่ยง พักที่สามเข้าห้องน้ำล้างหน้า พักที่สี่คุณออกไปเดินสูดอากาศ พักที่ห้า… ไม่ใช่ละ ยิ่งสำหรับพวกบรรดานักสูบทั้งหลาย หั่นทุกเหตุการณ์ข้างต้นด้วย พักโช๊คอีก ไม่ต้องทำอะไรกันเลย นี่ล่ะ สัญญาณแท้ๆว่าคุณเริ่มขี้เกียจแล้ว!
คุณรู้สึกอินไปกับสิ่งประดิษฐ์พิศดารที่สร้างมาสำหรับคนขี้เกียจ
อย่างเช่นในรูปนี้ เราไม่รู้ว่ามีขายในไทยรึเปล่า แต่รองเท้าที่ปัดบ้านไปด้วยในตัวนี่นะ!? สู้ลุกไปเดินกวาดบ้านเลยง่ายกว่าไหม?
คุณอาบน้ำสระผมแปลงฟันเบาลง
เบา ในที่นี้หมายถึงเบาบางลงนะ ไม่ใช่ว่า “ก็ผิวฉันบางเลยต้องขัดเบาๆไง” ไม่ใช่ๆ พวกอาการขี้เกียจอาบน้ำแบบนี้มันจะเริ่มมาจากการ Skip ก่อน ขั้นแรก โอ้ย ดึกแล้ว Go to bed เลยละกัน ขั้นต่อมา อ้าวเมื่อวานอาบแปลงแล้ว ตื่นเช้ามาข้ามเลยก็ได้ สักพักจะเป็นวัน สักพักจะเป็นอาทิตย์ ถ้าเป็นคนที่กลิ่นไม่แรงก็โชคดีไป แต่ถ้าชวนใครไปไหนเพื่อนๆเริ่มบ่ายเบี่ยง อย่าเครียดครับ น้ำเย็นๆราดหัวกับก้อนหอมๆที่เรียกว่าสบู่สามารถช่วยท่านได้
คุณหลับได้ทุกท่าและทุกที่
ไม่เถียงหรอกข้อนี้ เพราะเวลาล้าหรือเพลีย หัวถึงไหนก็นอนนั่นมันเลยนี่เนอะ แต่ถ้าความล้าดูจะเข้ามาครอบงำในทุกจังหวะของชีวิต แบบหลังๆมานี้นั่งเอนหลังหน่อยๆหลับละ หรือนอนเล่นโซฟานิดๆหลับละ บางเคสหนักขนาดยืนก็เริ่มหลับได้เหมือนกัน นี่โชคดีนะที่เกิดมาเรายังไม่เคยเจอเดินหลับ ไอ้บ้า! ถ้านอนเริ่มเป็นกิจกรรมโปรดของคุณ อืม อาจจะต้องขันน็อตหน่อย ลองออกกำลังกาย ช่วยให้ร่างกายสดชื่น แอคทีฟ เฟรชทั้งวัน ก็ดีนะ
ของตอนย้ายจากหอเรียนมหาวิทยาลัยหรือย้ายบ้านใหม่ของคุณยังไม่แกะ!
อันนี้เราว่าคลาสสิค พูดก็พูดไป หันไปดูมุมห้องตัวเองตอนนี้ ยังมีลังที่เอามาจากหอตอนเรียน ตั้งกองกันอยู่อีกสามลัง เออ จริงแฮะ เวลาผ่านไปจนจะ 3-4 ปีแล้ว นี่เรายังไม่คิดจะใช้ของในนั้นเลยเหรอเนี่ย!? พอบ่นหาไม่เจอก็ซื้อใหม่เกือบหมด อืม สรุปแล้วไอ้คนเขียนนี่ล่ะขี้เกียจแท้ๆ
คุณทนดูรายการที่ไม่ชอบได้เรื่อยๆเพราะรีโมตมันไกลเกินไป
จริงๆอันนี้ก็เวิร์คนะ ในแง่ว่าไม่เลือกรับข้อมูลไม่เปลี่ยนช่อง เขามีรายการอะไรมาให้เอาหมด ปกติไม่ชอบเกาหลีแต่มีรายการรอบดึกมา ดู มีหนังดังรอบดึกมา โชคดีจังชอบดูหนังอยู่แล้ว ดู เช้ามืดมีเกษตรชาวบ้าน มีบอกภูมิอากาศออกทะเลชายฝั่ง ดู ครับ ถ้าดูแล้วตัวเองชอบก็ดูไปล่ะ แต่ถ้าปากบ่นว่าหงุดหงิด ไม่เปลี่ยนช่องเพราะรีโมตไกลไป ปิดทีวีเถอะครับ
ห้องหรือบ้านที่คุณอยู่เริ่มรกจนจะกลายเป็นคำว่ารังเกินพอดี
มีบ้านที่ดีก็ต้องมีเหมือนเป็นรังที่อบอุ่นล่ะ แต่ถ้ามันดูเป็นเหมือนรังที่เอาอะไรมาสุมๆกันมากไป นั่นก็จะดูขี้เกียจนะ ซึ่งอันนี้เหมือนเป็นเรื่องไกลตัว แต่เชื่อสิ มีคนหลายคนเลยที่สภาพห้องกำลังหนักหน่วง เพราะมันเป็นความเคยชิน ตอนแรกที่เริ่มเยอะ ขยะไม่ไปทิ้ง ไม่เป็นไร สักพักขีดจำกัดความไม่เป็นไรมันไปไกลขึ้นเรื่อยๆ รู้ตัวอีกที พวกขวดน้ำพลาสติกนี่แทบจะสร้างบ้านอีกหลังได้เลย จริงไหม!?
คุณเริ่มกินอะไรแบบไม่สนใจ
เห้ย คุณครับ คุณเริ่มน่ากลัวแล้วล่ะ ถ้าสำเร็จรูปในที่นี้คือบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกินกรอบๆก็หวั่นจะท้องอืดหน่อย แต่ถ้าอาหารกระป๋องก็กินมันทั้งเย็นๆ ส่วนอาหารกล่องไมโครเวฟถ้ากินทั้งแข็งๆได้อีก อืม ยอมครับ ถ้าการเอามาปรุงหรือเอามาเข้าไมโครเวฟในช่วงเวลาไม่ถึงนาที มันดูเป็นอะไรที่นานแสนนานขี้เกียจยืนรอเสียเหลือเกิน คุณขี้เกียจครับ ฟันธง!
ปล. วิธีสังเกตง่ายๆอีกอย่างคือ เวลาคุณอบคุณปิ้งคุณทอดคุณทำอะไรไหม้ไปหมด สมมุติตั้งเวลาเตาปิ้งไว้ หรือตั้งกระทะไว้ คุณขี้เกียจยืนรอ ต้องขอเอาตัวไปนั่งพักบนเก้าอี้ ขอบคุณที่บ้านยังอุตส่าห์ไม่ไหม้ครับ (อ๊ะ “ไม่ไม่” โชคดีจัง!)
คุณ-อั้น-ฉี่
สองคำสองพยางค์ง่ายๆ ที่เมื่อทำเป็นติดนิสัย นอกจากจะไม่ดีกับสุขภาพระยะยาวแล้ว มันยังเป็นบ่อเกิดของนิสัยขี้เกียจผลัดผ่อนเอาได้ง่ายๆ เพราะมันเป็นสิ่งที่เบสิคที่สุดตั้งแต่เราเกิดมาแล้ว เอาน้ำออกจากร่างกายเรายัง Skip อะ คิดดู โอ๊ยยย ขี้เกียจเกิ๊นนน ขี้เกียจจริงอะไรจริง ขี้เกียจบ้างอะไรบ้าง (คนเขียนควบคุมอารมณ์หน่อยครับ)
คุณเริ่มกลัวการออกไปข้างนอก
ข้อนี้เราเป็นห่วงคุณแล้วล่ะ ถ้าคุณกำลังทำทุกข้อที่กล่าวมา และขลุกอยู่แต่ในถ้ำของคุณ กับการเดินไปซื้อข้าวหรือไปสูดอากาศคุณก็ขี้เกียจแล้ว ขนาดแสงของพระอาทิตย์ยังทำให้คุณเป็นทุกข์ได้ เราขอแนะนำให้เพื่อนของคุณ (ถ้าเขาอ่านอยู่นะ) รีบชวนคุณออกไปรับวิตามินแสงโดยด่วน มาเลิกขี้เกียจไปด้วยกันเถอะครับ!
Writer: Pakkawat Tanghom
RECOMMENDED CONTENT
เพื่อให้ผู้ประกอบการและประชาชนชาวไทย ได้มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจระดับภูมิภาค สภาที่ปรึกษาทางธุรกิจเอเปค จึงนำ “เสียง” หรือความคิดเห็นจากประชาชนภาคธุรกิจ มีส่วนร่วมในการส่งเสียงผ่านการสำรวจของ ‘Business of the People Poll’ ร่วมออกแบบและขับเคลื่อนโดย สถาบันยุทธศาสตร์การค้า มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ในจัดทำการสำรวจผ่านตัวแทนผู้ประกอบการไทยจำนวน 451 ตัวอย่าง โดยมุ่งเน้นหัวข้อไปที่ ‘ปัจจัย, ความท้าทาย, โอกาส และคำแนะนำ ในการเสริมสร้างการเติบโตทางธุรกิจในอนาคต’ เพื่อที่จะทราบถึงความเข้าใจ ข้อเท็จจริง และแนวทางในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจจากผู้ที่มีบทบาทจริงในภาคธุรกิจของประเทศไทย