เมื่อวันที่ 19 พศจิกายน 2015 ทางดู๊ดดอทได้รับเชิญเข้าร่วมงาน อาร์ต เทสติ้ง แกลอรี่ (Art Tasting Gallery) อันเป็นผลงานการร่วมมือกันระหว่าง บริษัท บริวเบอรี่ จำกัด ผู้นำเข้าเบียร์คุณภาพจากต่างประเทศทั่วโลก และผู้ผลิตเบียร์ชื่อดั
จุดประสงค์ของการจัดงาน อาร์ต เทสติ้ง แกลอรี่ นั้นก็เพื่อให้ความรู้พื้นฐานในการผลิต และส่งเสริมการบริโภคเครื่องดื่มประเภทเบียร์ในรูปแบบที่สร้างสรรค์ เช่น Food Pairing และ Beer Cooking โดยแต่เดิม Food Pairing หรือการจับคู่อาหารกับเครื่องดื่มอย่างไวน์เป็นต้นนั้น ถือเป็นศาสตร์อย่างหนึ่งในการช่วยเพิ่มอรรถรสในการรับประทานอาหาร ซึ่งไวน์ในหลายๆประเทศถือเป็นเครื่องดื่มที่จะอยู่คู่กับมื้ออาหารเสมอ โดยเลือกจับคู่จากรสชาติและรสสัมผัสของอาหารและไวน์ในแต่ละเมนู เพื่อช่วยให้การรับประทานอาหารอร่อยมากยิ่งขึ้น แต่สิ่งที่ทำให้ Beer Pairing แตกต่าง และมีความพิเศษจาก Wine Pairing ก็คือเบียร์สามารถให้รสชาติที่หลากหลายและกลมกล่อม สนุกสนานและเร้าใจ อีกทั้งยังสร้างสีสันใหม่ๆให้กับการรับประทานที่แตกต่าง ซึ่งตอนนี้กำลังเป็นเทรนด์ใหม่ในต่างประเทศที่น่าท้าทายและสนใจในแวดวงอาหาร ความตั้งใจของงาน อาร์ต เทสติ้ง แกลอรี่ จึงอยากให้ทุกคนลองเปิดใจกับทางเลือกใหม่ๆในการแพริ่งเครื่องดื่ม แล้วคุณจะพบกับอรรถรสและสีสันใหม่ในการรับประทานที่น่าประทับใจ
สำหรับบรรยากาศภายในงานนั้นเป็นไปอย่างคึกคัก และความเป็นกันเอง โดยมีวิทยากร จอร์ช ไรช์ (George F. Reisch) ผู้ผลิตเบียร์ Brewmaster และทำธุรกิจเบียร์รุ่นที่ 5 จากบริษัท Anheuser-Busch และ Director of Brewmaster Outreach ของบริษัท Anheuser-Busch มาร่วมพูดคุยเกี่ยวกับประวัติการดื่มเบียร์ที่มีมาอย่างยาวนาน และ Chef ปิง สุรกิจ เข็มแก้ว Excutive Chef หนุ่มไฟแรงระดับแนวหน้าของประเทศไทย จากร้าน Cielo Sky Bar มาสร้างสรรค์เมนูคุณภาพที่จะมาแมทช์กับเบียร์ทั้งห้าตัว ได้แก่ Hoegaarden, Leffe Blond, Leffe Brown, Stella Artois และ Hoegaarden Rosee ตามคอนเซ็ปต์ “Savour Art of Living” โดยการได้ดื่มเบียร์ที่ดี หรืออาหารที่ดีอย่างมีสีสันจะช่วยเปิดวิสัยทัศน์ และการเติมเต็มช่วงเวลาของความสุขให้กับชีวิต ผ่านรูปแบบของรูป รส กลิ่น เสียง และสัมผัส อีกทั้งงานนี้ยังเป็นการจัดขึ้นเพื่อตอกย้ำ และสร้างภาพลักษ์ให้กับแบรนด์เบียร์เบลเยียมของบริษัท บริวเบอรี่ จำกัด ในความเป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายในตลาดเบียร์ระดับ Super Premium ได้แก่ Hoegaarden, Stella Artois และ Leffe อีกด้วย โดยภายในงานยังมี พีเค ปิยะวัฒน์ เข็มเพรช MC มากฝีมือ มาเป็น host ดำเนินรายการอย่างสนุกสนานท่ามกลางเหล่าเซเลบริตี้และสื่อมวลชนอันคับคั่ง
สำหรับเมนูอาหารที่ Chef ปิง ได้นำเสนอในค่ำคืนนี้ ได้แก่ appetizers “ต้มยําข้น เกี๊ยวกุ้งจานบิน” เกี๊ยวทรงจานบิน ไส้กุ้งกับปลาหมึกทอดกรอบ คู่กับเห็ดสับผัดน้ำพริกเผาและสมุนไพรไทย ตอนเสิร์ฟแยกน้ำต้มยําข้นกุ้ง ลักษณะเหมือนซุปฝรั่ง ราดร้อนๆ ที่โต๊ะ โดยจานนี้ได้ทำการแพริ่งคู่กับ Hoegaarden ต่อด้วย “ลาบหอยเซลล์ กับข้าวเกรียบกุ้งป่น” หอยเซลล์ไซส์ใหญ่เนื้อหวานฉ่า นํามาย่างแค่ให้มีสีด้านนอก แล้วนํามาหั่นเต๋า คลุกกับเครื่องลาบที่ผสมเบียร์ด้วย จากนั้นจัดลงจาน ทานคู่กับข้าวเกรียบกุ้งป่น ที่ทําจากข้าวไรซ์เบอรี่ ผสมกับกุ้งแห้งป่น และ สลัดผักตรงกลาง ทานคู่กับ Leffe Brown ส่วน Main Course นั้นมีเสิร์ฟด้วยกันสองจานเช่นกัน โดยจานแรกคือ “เป็ดย่าง ซอสพริกไทยดํา” เนื้ออกเป็ดนําไปซูวีจนสุกนุ่ม แล้วนํามาย่างให้หนังกรอบ แล้วเคลือบด้วยซอสพริกไทยดําเล็กน้อย โรยด้านบนด้วยพาเมซานชีสหรือข้าวพองผสมพริกไทยดํากรอบๆ เสิร์ฟคู่กับซอสพริกไทยดําที่ผสมเบียร์ แพริ่งคู่กับ Leffe Blond ต่อด้วยจานที่สอง “มัสมั่นแกะย่าง กับมันบดสมุนไพร” แกะนําไปซูวีจนสุก เนื้อชมพูจากนั้นนําไปย่างแล้วมาหั่นเป็นชิ้น เคียงด้วยซอสมัสมั่นแกะ มีเนื้อแกะตุ๋น ผักตุ๋น ชิ้นเล็กๆด้วย ในจานจะมีมันบดที่ผสมกับน้ำมันใบมะกรูดสีเขียวเสิร์ฟคู่กัน จานนี้แพริ่งคู่กับ Stella Artois หลังจากนั้นจบมืออาหารอันเลิศรสด้วยเมนูของหวาน ที่นำมาแพริ่งคู่กับ Hoegaarden Rosee อย่าง “มัสกอดสองใจ” ขนมมัสกอดคล้ายๆเค้กสปองของฝรั่ง ด้านบนมีเมอแรงมะพร้าวเผาด้วยไฟหอมๆ ทานคู่กับมะม่วงหั่นเต๋าผสมกับใบมิ้น และมีมูสเสาวรสเปรี้ยวอมหวานทานคู่ตัดรสกัน เรียกได้ว่าเป็นเมนูของหวานที่ “ครบรส” ปิดท้ายดินเนอร์คอร์สนี้กันอย่างสวยงาม
Brewberry.,Co.Ltd.
Website: http://www.brewberry.co.th/
Facebook: https://www.facebook.com/BrewberryCompanyLimited/