ฤดูหนาวนี้ เอเอสวี จะพาทุกคนไปสำรวจนิยามบทใหม่กับคีย์เวิร์ดคำว่า ‘2 Little Words 1 Big Concept’ อันหมายถึงคำที่เป็นที่คุ้นหูของทุกคนเป็นอย่างดี อย่างคำว่า ‘Soulmate’ ในครั้งนี้เอเอสวีจะพาหญิงสาวไปร่วมค้นหาความหมายของนิยามคำเหล่านี้ในแง่มุมต่างๆ ที่ไม่ได้มีแค่ความหมายในเชิงโรแมนติกสำหรับคนที่มีอะไรบางอย่างเชื่อมโยงกันหรือคนรักเท่านั้น แต่ความหมายของคำๆนี้ ยังเป็นสิ่งที่สามารถสัมผัสได้ในแง่มุมต่างๆของชีวิต ทั้งจากความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อน ครอบครัว หรือแม้กระทั่งสิ่งของ ความหมายของคำนี้ได้พาให้เราตีความและหาคำนิยามได้อย่างไม่จำกัด ขึ้นอยู่กับแง่มุมการมองของคนแต่ละคน แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นหัวใจหลักที่สะท้อนผ่านคำๆนี้ คือความรู้สึกเติมเต็มและเชื่อมโยงที่สามารถบอกเล่าผ่านจิตวิญญาณซึ่งอยู่ข้างใน เอเอสวีหยิบยกเอาเรื่องราว และตัวละครหลักอย่าง Carrie Bradshaw หญิงสาวผู้ซึ่งหลงใหลในแฟชั่น จากซีรีส์อเมริกันอันโด่งดังของยุค 90 อย่าง Sex and the City ผู้ซึ่งโดดเด่นในเรื่องสไตล์ที่ไม่เหมือนใคร แต่ในขณะเดียวกันยังผสมผสานเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อน และระหว่างคู่รักได้อย่างลงตัว เรื่องราวและสไตล์การแต่งตัวอันโดดเด่นของแครี่ไม่เพียงแต่เป็นที่ชื่นชอบในหมู่หญิงสาวผู้คลั่งไคล้ในแฟชั่นเท่านั้น แต่ยังเกิดเป็นปรากฏการณ์ที่มีคนติดตามและให้ความสนใจมาจนถึงปัจจุบัน แครี่เปรียบเสมือนไอคอนของหญิงสาวทั่วโลก ผู้ซึ่งมีชีวิตและไลฟ์สไตล์อันเด่นและมีบุคลิกมั่นใจตามแบบฉบับสาวนิวยอร์ค  การแต่งตัวของเธอไม่เพียงสะท้อนตัวตนแต่ยังสะท้อนถึงจิตวิญญาณ กระบวนการความคิดและค่านิยมที่ก้าวล้ำของเธออีกด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้ถูกแปรเปลี่ยนและถ่ายทอดออกมาเป็นหัวใจสำคัญของเอเอสวี คอลเลคชั่นประจำฤดูหนาวประจำปี 2018 ในชื่อ ‘2 Little Words 1 Big Concept’

Silhouette

               เอเอสวีคอลเลคชั่นฤดูหนาวประจำปี 2018 ได้หยิบยกเอาบุคลิกอันโดดเด่นซึ่งเต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจและสไตล์ที่หลากหลายของแค่รี่ มาถ่ายทอดผ่านโครงชุดที่มีความหลากหลาย โดยซีซั่นนี้ประกอบไปด้วยซิลูเอทหลักของ
แบรนด์ที่มีความทะมัดทะแมง คล่องแคล่ว อย่างเสื้อไหล่เดียว (one-shoulder) แทร็คสูท (tracksuit) และเทรนช์โค้ท (trench coat) ไปจนถึงซิลูเอทที่มีความอ่อนหวานและร่วมสมัยอย่าง แฟลร์ซิลูเอท (Flared) เช่น กระโปรงยาวครึ่งแข้ง (Midi Length) เคปเบลาซ์ (Cape Blouse) อีกทั้งยังสอดแทรกความร่วมสมัยผ่านการนำโครงชุดที่เรียบง่าย มาต่อยอดผสมผสานเข้ากับอีกหนึ่งซิลูเอท เช่น การนำเอา Wrapdress มาผสมผสานลงบนซิลูเอทแบบเชิ้ตเดรส (Shirt dress)         จนออกมาเป็นโครงสร้างใหม่ที่มีความน่าสนใจและมีความน่าดึงดูดตามแบบฉบับสาวเอเอสวี

Fabric & Color

              ความหลากหลายของเนื้อผ้ายังคงเป็นสิ่งที่เอเอสวีให้ความสำคัญ โดยประกอบไปด้วยเนื้อผ้าคลาสสิคสไตล์มาสคิวลีน อย่างผ้าทอลายตาราง (Glen Plaid) และผ้าลายทาง (Stripe) ควบคู่ไปกับผ้าที่ให้ความรู้สึกอ่อนหวานซึ่งถือเป็นซิกเนเจอร์หลักประจำของแบรนด์อย่าง ผ้าโปร่ง (Tulle) และผ้าลูกไม้ (Lace) อีกทั้งในคอลเลคชั่นนี้ยังมีการหยิบยกเอาผ้ากำมะหยี่ (Velvet Fabric) ผ้าเลื่อม (Sequin Fabric) มารังสรรค์เป็นลุคต่างๆที่ช่วยเพิ่มประกายความโดดเด่นและมิติได้อย่างลงตัว โดยสีที่ปรากฏในซีซั่นนี้ประกอบไปด้วยโทนสีคลาสสิคของแบรนด์อย่าง สีขาว สีดำ สีกรมท่า และสีเขียว สอดแทรกความอ่อนหวานแบบเฟมินีนด้วยสีชมพู Sunkist Coral, สีแดง Ruby Wine และสีเหลือง Sunshine อีกทั้งยังมีสีที่ถ่ายทอดบรรยากาศการมาถึงของฤดูหนาวอย่างสีส้ม Apricot และสีม่วง Nostalgia Rose อีกด้วย

Techniques & Details

              สำหรับเทคนิคที่โดดเด่นในครั้งนี้ยังคงเป็นลูกเล่นที่น่าสนใจ ผ่านการนำดีเทลที่ขัดแย้งกันมาตกแต่งลงบนส่วนต่างๆของชุด เช่น การนำดีเทลแบบเฟมินีน อย่าง ระบาย (Ruffle) ผ้าโปร่งอัดพลีท (Tulle Pleat) และดีเทลการตกแต่งผ้าลูกไม้กดแถบริบบิ้นที่ปลายแขน (Grosgrain Lace Trim inlayed at the cuffs) ผสมสานลงบนซิลูเอทที่แตกต่าง เช่นการตกแต่งเทปปิเก้ลงบนผ้าโปร่งพาร์การ์ (Tulle Paka with Grosgrain Trim) เพื่อเสริมความสปอร์ตมาสคิวลีนให้กับ
เฟมินีนลุค นอกจากนี้ยังมีเทคนิคการกุ๊น (Trimming) และการตกแต่งเทปปิเก้หลากสี (Multi Color Grosgrain Trim) ก็ยังมีปรากฏให้เห็นบนส่วนต่างๆของเสื้อผ้าในคอลเลคชั่นประจำฤดูหนาวประจำปี 2018 ในครั้งนี้