ที่นี่คือสนามแข่งที่นักแข่งฟอร์มูล่าร์วันชื่อดังของโลกอย่าง Jackie Stewart เคยตั้งชื่อเล่นว่าเป็น ‘The Green Hell’ ด้วยความที่ว่าสนามแข่งแห่งนี้เต็มไปด้วยความท้าทายชนิดลืมหายใจ และอันตรายในทุกช่วงเส้นทาง
Nürburgring คือชื่อเรียกโดยรวมของ motorsport complex ขนาดใหญ่ยักษ์ที่สามารถรองรับผู้คนได้มากถึง 150,000 คน ตั้งอยู่ในเมือง Nürburg ของเยอรมนี เป็นสนามแข่งขันรถยนต์ระดับกังปรีซ์มาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 1984 และกลายเป็นสนามแข่งระดับตำนานมาจนถึงปัจจุบัน
ทำไมที่นี่จึงเป็นความฝันของเหล่าผู้มีใจรักความเร็ว …เราจะเล่าให้ฟัง
HISTORY of Nürburgring
ก่อนที่จะมาเป็นคอมเพล็กซ์ด้านมอเตอร์สปอร์ตแบบในทุกวันนี้ Nürburgring เป็นเพียงแค่ถนนสาธารณะที่พาดผ่านหมู่บ้านในแถบเทือกเขา Eifel ของเมือง Nürburg ช่วงราวคริสตศักราช 1920s ชมรมยานยนต์แห่งเยอรมนี (ADAD) ได้จัดการแข่งขันรถยนต์ประจำปีในชื่อ ‘Eifelrennen’ ขึ้น
ภายหลังเมื่อการแข่งขันได้รับความนิยม ถนนสาธารณะจึงถูกพัฒนาให้กลายเป็นแทร็กสำหรับแข่งขันความเร็วขึ้นมา ในปี 1927 การก่อสร้างแทร็กนี้ มีขึ้นเหมือนกับในหลายๆ เมืองในยุโรปที่มีการแข่งขันยานยนต์ความเร็ว อย่างเช่นต้นตำรับ ‘Targa Florio’ ที่เมือง Sicily ของอิตาลี
การแข่งขันครั้งแรกนั้น เป็นการแข่งขันของรถจักรยานยนต์พ่วงรถที่นั่ง ก่อนที่การแข่งขันรถยนต์จะจัดขึ้นในวันถัดมา และยังเปิดให้คนทั่วไปได้ทดสอบความเร็วและความท้าทายในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์อีกด้วย
สนามแห่งนี้ได้รับความนิยมจนกระทั่งถึงช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่สนามแห่งนี้ถูกปล่อยทิ้งร้าง ก่อนจะกลับมาอีกครั้งหลังจบสงคราม
TRACKS of Nürburgring
ถ้าดูจากแผนที่ จะเห็นว่า Nürburgring เป็นคอมเพล็กซ์ที่ประกอบด้านสนามแข่งหลายแบบซ้อนทับกันอยู่ แต่แบ่งออกจริงๆ ในปัจจุบันเป็นสองฝั่ง คือ Nordschleife (North Loop) ที่เป็นแทร็กที่ลัดเลาะไปตามภูมิประเทศ และ GP–Strecke ที่สร้างขึ้นใหม่ในปี 1984 เป็นแทร็กที่ใช้สำหรับการแข่งขันรายการระดับเมเจอร์และนานาชาติโดยเฉพาะ
แต่เดิมนั้น สนามแห่งนี้มีระยะทางครบลูปอยู่ที่ 28.265 กิโลเมตร เรียกว่า Gesamtstrecke (Whole Course) แบ่งเป็น Nordschleife (North Loop) ระยะทาง 22.810 กิโลเมตร และ Südschleife (South Loop) ระยะทาง 2.281 กิโลเมตร รวมถึงยังมี Zielshleife (Finish Loop) สำหรับเป็นส่วนพื้นที่ pit ของรถแข่งอีกด้วย
โดยแทร็ก Nordschleife นั้น ถูกตั้งชื่อเล่นว่า ‘The Green Hell‘ ด้วยความท้าทายของเส้นทางที่คดโค้งไปตามภูมิประเทศ พร้อมด้วยโค้งรูปแบบต่างๆ ที่วัดใจและวัดปฏิภาณไหวพริบของผู้ขับอยู่ทุกวินาที แต่ด้วยความที่มันเป็นแทร็กที่มีความอันตรายมาก ครั้งหนึ่งแทร็กนี้เลยโดนแบนจากเหล่านักแข่งฟอร์มูล่าวัน เพราะมีระยะทางต่อหนึ่งแล็ปที่มากเกินไป และจำนวนเจ้าหน้าที่ประจำจุดต่างๆ ของเส้นทางที่ไม่เพียงพอ เมื่อเกิดอันตรายหรืออุบัติเหตุ ความช่วยเหลือจึงไม่สามารถมาถึงได้อย่างทันท่วงที
และแม้ว่าแทร็ก Nordschleife จะมีความพยายามในการปรับปรุงสภาพเส้นทาง ความกว้างของแทร็ก ปรับความชันของเนิน สร้างรั้วป้องกันแล้วก็ตาม แต่ในที่สุดแทร็กนี้ก็ต้องปิดฉากลง ไปพร้อมกับการแข่งขันครั้งสุดท้ายในปี 1976
และนั่นก็เลยทำให้เกิดการก่อสร้างแทร็กใหม่ ในชื่อ GP–Strecke เพื่อใช้สำหรับการแข่งขันรถยนต์ฟอร์มูล่าร์วันโดยเฉพาะ โดยเริ่มเปิดสนามแข่งขันครั้งแรกในปี 1984
NORDSCHLIEFE of Nürburgring
แทร็ก Nordschleife แม้ว่าจะไม่ถูกใช้ในการแข่งขันรถยนต์สูตรหนึ่งอีกต่อไปแล้ว แต่ผู้คนก็ยังพูดถึงแทร็กนี้ และอยากจะมาสัมผัสประสบการณ์ความท้าทายนี้กันจนถึงปัจจุบัน และในที่สุด แทร็กนี้ก็กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งในปี 2005 โดยเปิดให้เป็นเส้นทางแข่งขันความเร็วทุกประเภท (แน่นอน ยกเว้น F1)
ตามสองข้างทางของแทร็กนี้ นอกจากจะมีเจ้าหน้าที่และสิ่งจำเป็นที่เป็นมาตรฐานแล้ว ยังมีการสร้างที่พักชมการแข่งขัน รวมถึงร้านอาหารตามโค้งและเส้นทางต่างๆ สร้างงานสร้างรายได้ให้กับชุมชนที่แทร็กนี้พาดผ่านเป็นอย่างมาก
นับตั้งแต่ปี 2005 เป็นต้นมา ไฮไลต์การแข่งขันสำคัญของแทร็ก Nordshleife นี้ก็คือรายการ 24h Nürburgring กับการแข่งขันขับรถความเร็วประเภททีม มีผู้เข้าร่วมมากกว่า 200 คัน โดยในหนึ่งทีมมีสมาชิกได้สูงสุด 4 คน เพื่อผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนในการทำแล็บ หรือรอบบนแทร็กนี้ให้มากที่สุดภายในเวลา 24 ชั่วโมง
ปัจจุบัน หากไม่มีการแข่งขัน (ซึ่งมีน้อยมาก เพราะสนามคุณภาพแห่งนี้เป็นที่จับจองของรายการแข่งขันทั้งฟอร์มูล่าร์วันและกังปรีซ์มากมาย) แทร็กนี้จะกลายเป็นสนามทดสอบรถยนต์รุ่นต่างๆ โดยหลายบริษัทก็ใช้รายการการแข่งขันต่างๆ ที่จัดขึ้นในสนามแห่งนี้ เป็นที่ทดสอบสมรรถภาพและประสิทธิภาพของรถรุ่นใหม่ๆ อีกด้วย
และนั่นก็เลยทำให้โอกาสที่คนทั่วไปที่ไม่ใช่นักแข่ง จะได้สัมผัสกับความท้าทายของสนามแข่งแห่งนี้นั้นอยู่ในระดับยากยิ่ง ชนิดที่ต้องจองล่วงหน้ากันเป็นปีๆ เพราะคิวเต็มตลอด และใครๆ ก็อยากมาสัมผัสความตื่นเต้นและความท้าทายระดับตำนานนี้กันทั้งนั้น
หากใครที่สนใจอยากไปทดลองขับรถ BMW M4 สปอร์ตคาร์ที่ขึ้นชื่อเรื่องความเร็วที่สนามแข่งรถระดับตำนานนี้ เราขอชวนให้สมัครเข้าร่วมทริป The Ultimate BMW M Track Experience – Nürbergring สิทธิพิเศษสำหรับสมาชิกโปรแกรม The Ultimate JOY Experience เท่านั้น!
โดยที่นอกจากทริปนี้ จะให้คุณได้ซิ่งไปกับ BMW M4 เผชิญความยากและความท้าทายของสนาม Nürbergring ได้ลองเข้าโค้งแคบ โค้งหักศอก โค้งกระทันหัน ที่พร้อมจะทำให้เราได้พบกับสถานการณ์สุดตื่นเต้นตลอดเวลาแล้ว เรายังจัดเต็มให้ทุกความ exclusive
ทั้งเยี่ยมชม BMW Welt โลกแห่งยนตรกรรมชั้นนำของ BMW ฝึกอบรบและทดสอบการขับขี่ตามหลักสูตรของ BMW Driving Experience ต้นฉบับกับอินสตรัคเตอร์มืออาชีพที่ BMW Driving Academy Maisach รวมถึงการได้เที่ยวตระเวนเมืองดีงามของเยอรมันอย่างมิวนิคและโคโลจ์นอีกด้วย
สมาชิก The Ultimate JOY Experience ก็เตรียมตัวสมัครเข้าร่วมทริปนี้ ในวันที่ 8 มิถุนายน เวลา 9.00 น. เป็นต้นไป ได้ที่นี่
เจ้าของรถ BMW ทุกท่านสามารถสมัครสมาชิกโปรแกรม The Ultimate JOY Experience ได้ฟรี ที่ www.bmwultimatejoy.com
แล้วเตรียมรับสิทธิประโยชน์มากมายไม่รู้จบ พร้อมด้วยประสบการณ์แห่งความ JOY แบบที่สุดและ exclusive กว่าที่ไหนๆ ได้เลย
#TheUltimateBMWMTrackExperience #MTrackExperience #BMWUltimateJOY #TheUltimateJOYExperience #BMWPrivilege
RECOMMENDED CONTENT
เป็นโจทย์ที่เรียกได้ว่าท้าทายสำหรับวงการเอเจนซีโฆษณาเลยทีเดียว เมื่อผู้นำดิจิทัลไลฟ์สไตล์และลอยัลตี้แพลตฟอร์ม ภายใต้กลุ่มเซ็นทรัล “The 1 (เดอะ วัน)” ต้องการสื่อสารไปยังสมาชิกบัตร The 1 กว่า 19 ล้านคน เพื่อย้ำเตือนสิทธิ์ที่สมาชิกทุกคนพึงได้รับบนแอปพลิเคชั่น The 1 ผ่านผลงานโฆษณาชิ้นแรกครั้งแรกในรอบปี