fbpx

CONTACT US

DOODDOT VIDEOS

“Banksy” ศิลปิน Street Art ชื่อดังชาวอังกฤษมีการเคลื่อนไหวใหม่ออกมาภายใต้โปรเจคต์ “Better out than in” กับผลงานที่ชื่อว่า “Shoe Shine”
date : 21.ตุลาคม.2013 tag :

หลังจากที่เพิ่งเอางานตัวเองไปขายริมถนนที่ Central Park เมื่อประมาณอาทิตย์ที่แล้ว ภายใต้โปรเจคต์ที่มีชื่อว่า “Better out than in” ล่าสุดศิลปิน Street Art ชื่อดัง “Banksy” ก็ยังไม่หยุดป่วน New York (ตลอดเวลาที่เขาอยู่ที่นี่ เขาทำงานออกมากี่ชิ้นกันแล้วนะ?) คราวนี้เป็นผลงานรูปปั้นคุณ Ronald McDonald ตัวตลกชุดเหลืองผมแดงที่ชอบนั่งหน้าร้าน McDonald นั่นล่ะ แต่ไม่ได้มาเป็นแค่รูปเหมือนธรรมดานะ ตัวตลกตัวนี้ไม่ได้ใจดีเหมือนเดิมอีกต่อไป แถมมาพร้อมกับรองเท้าสีแดงที่ขนาดใหญ่เบ้อเริ่ม! โดยจะเวียนจัดแสดงหน้าร้าน McDonald ทุกๆสาขาในเมือง New York ให้ครบ และแต่ละครั้งที่นำไปวางจะมีเด็กหนุ่มแต่งตัวมอซอมานั่งขัดรองเท้าให้ด้วย (นับว่ากล้ามากๆ แหย่ถึงถ้ำเสือเลยทีเดียว)

หลายเสียงต่างก็ลงความเห็นว่าผลงานชิ้นนี้มันเป็นการเสียดสีสังคมในโลกยุคทุนนิยมเวลานี้ได้อย่างถึงกึ๋น นาย Ronald ที่ปกติใจดียิ้มหวานรับแขกอยู่หน้าร้าน ภาพเบื้องหลังนี้กลับแสดงให้เห็นใบหน้าบึ้งตึง ยืนเท้าสะเอว ราวกับว่าถ้าเจ้าหนุ่มนี่ขัดรองเท้าไม่เงาวับล่ะก็ น่าดู! (พากษ์เสียง) งานชิ้นนี้ถ้ามองในมุมบ้านเรามันอาจจะดูไม่ได้ Impact เท่าไร แต่กับบ้านเมืองเขา ภาพการเป็น Shoeshine Boy หรือเด็กขัดรองเท้าให้กับคนมีเงินมันเป็น Contrast ที่แยกระหว่างความจนกับรวยได้ชัดมากๆ (อาจจะคล้ายกับปัญหาเด็กเช็ดกระจกตามสี่แยกบ้านเราเพียงแต่เช็ดรองเท้าของเขาดูสร้างสรรค์และเป็นอาชีพมากกว่าเยอะ) แล้วครั้งนี้ด้วยความที่เป็นตัวละครหุ่นปั้นจัดแสดงแบบมีปฎิสัมพันธ์กับมนุษย์จริงๆ มันเลยเป็นผลงานที่เห็นครั้งเดียวก็รู้สึกกินใจทันที ซึ่งน่าเศร้าเพราะสัญญะคู่นี้มันเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในสังคมทุกวันนี้มากๆ คงต้องยกความดีความชอบให้กับ Banksy เต็มๆ กับการเสียดสีสังคม กัดจิกได้อย่างเจ็บแสบที่เป็นเอกลักษณ์ประจำตัวเขาไปแล้ว… หลังจากที่เห็นเขาย้ายไปอยู่ New York แล้วสร้างงานออกมามากมายขนาดนี้ ก็แอบหวังเล็กๆนะให้เขาย้ายมาอยู่เมืองไทยบ้านเราบ้าง รับรองว่าพี่แกคงได้ทำงานออกมาด่าสังคมเพลินจนลืมประเทศอื่นเลยแน่ๆ

CREDIT: The Independent

RECOMMENDED CONTENT

14.ธันวาคม.2020

‘School Town King’ แร็ปทะลุฝ้า ราชาไม่หยุดฝัน เป็นหนังสารคดีที่สร้างจากเรื่องจริงของ ‘บุ๊ค’ เด็กหนุ่มวัย 18 และ ‘นนท์’ วัย 13 ผู้เติบโตมาในชุมชนคลองเตย หรือที่ใครๆ ต่างรู้จักในอีกชื่อหนึ่งว่า ‘สลัมคลองเตย’ นอกจากความยากจนที่มาพร้อมกับสถานะทางสังคมที่เลือกไม่ได้แล้ว ทั้งบุ๊คและนนท์ยังไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับระบบการศึกษา รวมทั้ง หลักสูตรการเรียนการสอนที่เน้นแต่ความสำเร็จเชิงวิชาการก็ยิ่งทำให้เด็กเรียนไม่เก่งอย่างพวกเขาขาดความสนใจในชั้นเรียนลงไปเรื่อยๆ  ระบบการศึกษาที่น่าจะเป็นความหวังและเท่าเทียมกันของเด็กทุกคน กลับยิ่งบีบบังคับและผลักไสให้พวกเขาเป็นแค่ ‘คนนอก’ ของสังคมไปโดยปริยาย