BEAMS  > ‘NORTH IDENTITY’

BEAMS เครื่องแต่งกายลำลองสำหรับผู้ชาย ภายใต้แนวคิด “BASIC (เรียบง่าย) และ EXCITING (น่าตื่นเต้น)”  สำหรับคอลเลคชั่นฤดูกาล AW 18/19 นำเสนอในธีม ‘NORTH IDENTITY’ หรือเอกลักษณ์ของชาวเหนือ โดยได้แรงบันดาลใจจากสไตล์สตรีทที่เกิดขึ้นในชนชั้นคนทำงานที่อยู่ทางตอนเหนือของประเทศอังกฤษ อย่างเมืองแมนเชสเตอร์และลิเวอร์พูลช่วงปี 1990 ถึงปี 2000 ซึ่งจะได้พบกับไอเท็มที่เป็นเอกลักษณ์ บ่งบอกถึงความเป็นอังกฤษ อย่างเสื้อโอเวอร์โค้ท หมวกแก๊ป
ล่าสัตว์ ผ้าลายตาราง tartan และผ้าลายตาราง glen check จับคู่กับชุดกีฬาอย่างยูนิฟอร์มฟุตบอล และผสมผสานกับชุดทำงาน โดย BEAMS ได้เลือก 4 แนวคิดหลักที่มีกลิ่นอายความเป็นอังกฤษ ได้แก่ ชุดแบบดั้งเดิม ชุดกีฬา ชุดทำงาน และชุดทหาร พร้อมกับใส่ความสนุกสนานและการใช้งานได้จริงแบบ BEAMS ลงไป ออกมาเป็นคอลเลคชั่นที่เป็นสไตล์แปลกใหม่

BEAMS PLUS > ‘All you need is IVY’ 

BEAMS PLUS นำเสนอสไตล์ที่บ่งบอกถึงยุคทองของอเมริกาในช่วงกลางยุค 40s ถึงกลางยุค 60s ประกอบไปด้วยชุดสไตล์อเมริกันดั้งเดิม ชุดทำงาน ชุดกีฬา และชุดทหาร และนำมาปรับให้ทันสมัยขึ้น เป็นไอเท็มเบสิคสำหรับยุคปัจจุบัน โดยธีมของฤดูกาล AW 18/19 คือ ‘All you need is IVY’ เริ่มจากการนำไลฟ์สไตล์ของนักศึกษา Ivy League ในยุค 60s (กลุ่มสถาบันการศึกษาที่มีความเป็นเลิศ ตั้งอยู่ทางชายฝั่งตะวันออกของอเมริกา) ที่มีอิทธิพลอย่างมากต่อวัยรุ่นญี่ปุ่น ผสมผสานสไตล์ไอวี่ยุค 80s ที่มีกลิ่นอายแบบยุโรป นำมาปรับให้ดูทันสมัย คอลเลคชั่นนี้ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นการใส่รายละเอียดความดั้งเดิม และความสวยงามตามต้นฉบับ ผนวกกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ออกมาเป็นชุดสูทลายตาราง BLACKWATCH, เสื้อคลุมตัวนอกผ้าแจ็คการ์ดที่มีดีเทลตัดต่อผ้าทวีด, เสื้ออวอร์ดแจ็คเก็ตกันลม, เสื้อเชิ้ตปรินต์ดิจิตอลลาย patchwork และอีกมากมาย

VAPORIZE > ‘STAR BOY’

แบรนด์ VAPORIZE ภายใต้การดุแลลของ James Iha อดีตมือกีต้าร์จากวง Smashing Pumpkins นำเสนอการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างแฟชั่นและดนตรี ‘Star Boy’ คือธีมของคอลเลคชั่น AW 18/19 ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากผู้นำทางสไตล์ดนตรียุค 90s อย่างสไตล์แฟชั่นของ Bobby Gillespie จากวง Primal Scream และ Thom Yorke จากวง Radiohead และสไตล์ชุดกีฬาของ Drake ออกมาเป็นการนำเสนอสไตล์ที่โดดเด่นของดนตรียุค 90s ผ่านมุมมองของ VAPORIZE พบกับเสื้อเชิ้ตแบบผูกและแจ็คเก็ตหนังสัตว์ที่แสดงถึงแฟชั่นที่เป็นที่นิยมในยุคนั้น รวมถึงกลิ่นอายชุดกีฬาจากชุดแทร็คสูทและไอเท็มผ้าไนลอน รวมถึงการเล่นสีโดยแต่งแต้มด้วยสีส้มหรือสีเขียวมะกอกบนสีพื้นสีเดียว

Ray BEAMS > ‘BREAK the RULES’

Ray BEAMS เครื่องแต่งกายสไตล์ลำลองสำหรับผู้หญิง ภายใต้แนวคิด “The Way of Chic” นำเสนอสไตล์ที่ผสมผสานการแต่งกายตามกระแสเข้ากับไอเท็มชิ้นเบสิค สนับสนุนให้ผู้หญิงมีไลฟ์สไตล์ และการแต่งกายที่ดูดี สำหรับคอลเลคชั่นในฤดูกาล AW18/19 ใช้ธีม ‘Break the Rules’ เต็มไปด้วยดีไซน์ล้ำๆ การใช้ผ้าไนลอนเนื้อแวววาวและสีเมทัลลิค การเล่น
เลเยอร์และการเล่นกับแพทเทิร์นอย่างมีสไตล์ โดยใช้สี ขนาด และเนื้อผ้า ทำให้คอลเลคชั่นนี้ออกนอกกรอบ แปลกใหม่ และดูสนุกจากการจับคู่สิ่งที่เป็นขั้วตรงข้ามทางเคมีและรูปลักษณ์กันมาไว้ด้วยกัน

RBS

RBS เป็นไลน์ที่แตกย่อยออกมาจาก Ray BEAMS ตั้งแต่คอลเลคชั่น SS 2015 มุ่งสร้างสรรค์การแต่งกายร่วมสมัยด้วยสไตล์เรียบๆ แบบไม่ต้องพยายาม นำมาตกแต่งด้วยชิ้นส่วนวัสดุในสไตล์ที่อยู่ระหว่างความลำลองและความดั้งเดิม คอลเลคชั่น AW 18/19 เน้นเสื้อผ้าที่มีโครงสร้างดูยาว โดยใช้การออกแบบสร้างเส้นแนวตรง อาทิ เสื้อแขนพอง ไอเท็มยาวลากพื้น และการผ่าสูง

BEAMS BOY > ‘TRADITIONAL ODYSSEY’ 

BEAMS BOY แบรนด์เครื่องแต่งกายลำลองสำหรับผู้หญิงที่ชื่นชอบเครื่องแต่งกายผู้ชายแบบต้นตำรับโดยเน้นการใช้งานและความคงทน ปีนี้ BEAMS BOY เฉลิมฉลองการก้าวเข้าสู่ปีที่ 20 ในฤดูกาลนี้จึงยังคงใช้ธีม ‘Traditional Odyssey’ ต่อเนื่องจากฤดูกาลก่อน โดยเป็นการเล่าย้อนกลับไปสู่สไตล์ดั้งเดิมของแบรนด์และปรับให้เข้ากับอนาคต นำเสนอสไตล์ผสมผสาน โดยใช้เอกลักษณ์แบบบริทิชเป็นแนวคิดตั้งต้น และผสมหลากหลายดีไซน์เข้าไปในสไตล์แบบดั้งเดิม พบกับการจับคู่ที่แปลกใหม่ระหว่างความคลาสสิคอย่างลายตาราง tartan และลายแพทเทิร์น Nordic กับสไตล์พังค์ ร็อค และสไตล์รุ่นใหม่แบบอื่นๆ แต่งแต้มด้วยสีสันอย่างสีแดงสนิม สีเหลือง สีน้ำเงิน และสีเขียว และยังมีการไล่สีของ 4 เฉดสีนี้ นอกจากนี้ BEAMS BOY ยังมีไอเท็มพิเศษฉลองครบ 20 ปีอีกมากมายให้จับตามอง

maturely > ‘MUSE’

maturely มีภายใต้แนวคิด ‘Mode Trad’ ซึ่งเป็นการผสมผสานความดั้งเดิมเข้ากับความร่วมสมัย โดยศึกษาประวัติเครื่องแต่งกายแบบดั้งเดิมจากทั่วโลกแล้วนำมาปรับให้เป็นสไตล์ร่วมสมัยสำหรับปัจจุบัน ธีมของฤดูกาล AW 18/19 คือ ‘Muse’ คอลเลคชั่นที่เต็มไปด้วยจินตนาการแฝงกลิ่นอายเรโทร โดยได้รับแรงบันดาลใจจากเหล่าเจ้าหญิงในเทพนิยาย ผู้หญิงแกร่งชาวอเมริกัน และบรรดาผู้หญิงที่เป็นไอคอนตลอดกาลอย่าง มาริลิน มอนโร ใส่จิตวิญญาณความคลั่งไคล้ในแฟชั่นผ่านเทคนิคการต่อผ้าแบบวินเทจและดีไซน์แบบไม่สมมาตร จับคู่กับเครื่องประดับสีเมทัลลิคและนีออน ที่แสดงถึงจิตวิญญาณที่เป็นอิสระของบรรดา muses และพลังงานแห่งความกล้าหาญและขี้เล่นของพวกเธอ