fbpx

CONTACT US

DOODDOT VIDEOS

#BehindBar : “Namsaah Bottling Trust” ชวนดื่มด่ำบรรยากาศของค็อกเทลบาร์สุดฮิป สไตล์ ‘Asian with a twist’ ใจกลางเมือง ที่ไม่เหมือนใคร และไม่มีใครเหมือน
date : 3.กันยายน.2015 tag :

Behind Bar NAMSAAH dooddot 1

“Sleep late, have fun, get wild, drink whiskey, and drive fast with nothing in mind except falling in love and not getting arrested”Hunter S. Thompson

กลับมาพบกันอีกครั้งกับคอลัมน์ Behind Bar ของเรา คอลัมน์ที่เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับร้านอาหาร บาร์ และคาเฟ่ ที่โดดเด่นในเรื่องของเครื่องดื่มโดยเฉพาะ รวมถึงคัลเจอร์และศาสตร์ในการทำ/ดื่มเครื่องดื่มแต่ละชนิดอย่างใกล้ชิด หากใครลืมไปแล้วว่าร้านแรกที่เราได้แนะนำกันไปคือร้านอะไร ก็อย่าลืมกลับไปอ่านกันได้ที่นี่ https://www.dooddot.com/behind-bar-vesper/ เอาล่ะ เรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า สำหรับร้านที่สองที่เราจะมาแนะนำคอดื่มทุกคนกันในครั้งนี้ ขอบอกว่าเป็นร้านที่เราไปแล้วรู้สึกติดใจมากๆ ทั้งในเรื่องของคอนเซ็ปต์ บรรยากาศการตกแต่ง (ที่บอกเลยว่าโคตรเฟี้ยว) และแน่นอนคือเรื่องของรสชาติค็อกเทล ที่เราเชื่อว่าถ้าคุณรู้ตัวว่าเป็นนักดื่มค็อกเทลตัวยง ต้องห้ามพลาดมาที่ร้านนี้เด็ดขาด เป็นยังไงคะ เริ่มรู้สึกกระหายอยากจะดริ๊งค์กันขึ้นมาหรือยัง ถ้าเมื่อกี๊คุณรีบกลืนน้ำลายไปหนึ่งอึก ก็อย่ารอช้าเลยค่ะ พวกเราไปทำความรู้จักกับ  “Namsaah Bottling Trust” กันเลย!

Namsaah Bottling Trust หรือ น้ำซ่า บอทเทอลิ่ง ทรัสต์ คือเอเชียนแกสโตรบาร์ (Asian gastro bar) ที่ตั้งอยู่ใจกลางย่านธุรกิจสำคัญแห่งหนึ่งของเมืองกรุงเทพฯอย่างย่านสีลม ซึ่งนี่คือร้านอาหารและบาร์ที่เป็นการรวมตัวกันระหว่างเชฟเอียน กิตติชัย เชฟมือทองชื่อดังของบ้านเรา Frederic Meyer ผู้เชี่ยวชาญด้านดนตรีชาวฝรั่งเศส Jeremy Opritesco นักการฑูตชาวฝรั่งเศส และ Justin Dunne กูรูทางด้านไนท์ไลฟ์จากแคลิฟอร์เนีย ผู้เคยดูแล Bed Supperclub อดีตไนท์คลับอันโด่งดังมากที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองกรุงเทพฯ แน่นอนว่าถ้าร้านนี้คือผลงานของเหล่า influencers ตัวฉมังทางด้านไลฟ์สไตล์ขนาดนี้ ประสบการณ์ที่ลูกค้าจะได้รับกลับไปจาก Namsaah Bottling Trust จะต้องไม่ธรรมดาแน่นอน

Behind Bar NAMSAAH dooddot 2

Behind Bar NAMSAAH dooddot 3

‘Namsaah Bottling Trust Mojito’

Behind Bar NAMSAAH dooddot 4

‘The Diplomat’s Barstool’

แต่ก่อนที่เราจะไปพูดถึงเรื่องคอนเซ็ปต์ของร้านนี้ เราขอมาคลายความสงสัยที่เราเชื่อว่าหลายคนจะต้องมีต่อชื่อร้านกันก่อนดีกว่า สาเหตุที่ร้านนี้มีชื่อว่า “Namsaah Bottling Trust” ก็เนื่องมาจากตัวตึกของร้านที่เป็นสไตล์โคโลเนียลเก่าแก่แห่งนี้ เคยเป็นบริษัทผลิตเครื่องดื่มโซดามาก่อน (คำว่า ‘น้ำซ่า’ มาจากคำสมัยโบราณที่เรียกน้ำอัดลมสมัยก่อน) นอกจากนี้ตัวอาคารดังกล่าวก็ยังเคยเป็นที่พักอาศัยของ aide-de-camp หรือ นายทหารองครักษ์สมัยก่อน อีกทั้งยังเคยเป็นที่ทำการของธนาคารแห่งหนึ่งเมื่อนานมาแล้วอีกด้วย ชื่อของร้านในปัจจุบันเลยมีนามสกุล ‘Bottling’ จากบริษัทผลิตเครื่องดื่มโซดา และ ‘Trust’ จากที่เคยเป็นสำนักงานเก่าของธนาคาร มาต่อท้ายอย่างเก๋ไก๋ไม่เหมือนใคร

ด้วยความที่ตัวตึกแห่งนี้เต็มไปด้วยประวัติ และความทรงจำอันเก่าแก่มากมาย ถึงแม้ว่าทั้งตึกจะถูกปรับปรุงใหม่ให้ดูสดใสยิ่งกว่าเดิมด้วยการทาสีชมพูสะดุดตาสำหรับภายนอกทั้งหมด แต่ถึงอย่างนั้นทางทีมก็ยังคงไว้ซึ่งโครงสร้างสไตล์โคโลเนียลเก่า และเสน่ห์ของกลิ่นอายแบบสมัยก่อนเอาไว้ การตกแต่งร้านจึงเน้นในความคลาสสิคของเฟอร์นิเจอร์วินเทจ รวมไปถึงการทาสีผนังของแต่ละห้องด้านในด้วยสีจัดจ้านๆ ทั้งสีแดง สีเหลือง สีฟ้า สีม่วง และวอลเปเปอร์ลวดลายต่างๆ เห็นแล้วจะรู้สึกได้ถึงความเป็นเอ็กโซติคแบบเอเชียนที่ผสมผสานเข้ากับความคลาสสิคของฝั่งตะวันตกที่ลงตัวได้ทันที อันเป็นที่มาของคอนเซ็ปต์ “Asian with a twist” ความเป็นเอเชียจากหลากหลายภูมิภาคของทั้งเมนูอาหาร และเมนูค็อกเทลฮิปๆไม่เหมือนใครให้ได้ลิ้มลองกัน

Behind Bar NAMSAAH dooddot 5

Behind Bar NAMSAAH dooddot 6

เกริ่นมาเสียยาว เรามาพูดถึงไฮไลท์ของร้านนี้กันเลยดีกว่า นั่นก็คือตัวค็อกเทลบาร์ และเมนูเครื่องดื่มที่มีให้เลือกกว่า 30 เมนู ของที่นี่ มองจากภายนอกคุณอาจจะรู้สึกว่าร้านนี้ดูน่ารักกุ๊กกิ๊กจังเลย เป็นสีชมพูสีสันสดใส แต่ขอโทษ เพราะพอเราก้าวเข้าไปในร้านนั้นอย่างกับหลุดเข้าไปอีกโลกหนึ่ง คล้ายๆกับผับใต้ดินที่มีความเอ็กซ์คลูซีฟสำหรับแขกวีไอพีเท่านั้น หรือถ้าใครเคยดูเรื่อง True Blood ซีรี่ส์แวมไพร์สุดฮิตจากอเมริกา ก็ให้นึกถึงไนท์คลับที่ชื่อ Fangtasia ที่แวมไพร์อีริคเป็นเจ้าของ อารมณ์จะดาร์กๆประมาณนั้นเลย ชั้นล่างทั้งชั้นที่เป็นส่วนของบาร์จะมืดมาก มีแต่แสงไฟสีแดงสลัวๆตรงบริเวณบาร์ และแสงเทียนอีกนิดหน่อยที่พอจะให้ความสว่างได้บ้าง เรียกว่าพอเข้าไปปุ๊ปต้องขอเวลาปรับสายตานิดหนึ่ง แน่นอนว่าสิ่งแรกเลยที่คุณจะเห็นก็คือค็อกเทลบาร์ ด้านบนผนังข้างหลังบาร์มีหัวของแรดสีชมพูติดไว้อย่างโดดเด่น มีแสงสปอตไลท์ส่องเอาไว้เลย ด้านขวามือถัดเข้าไปข้างในก็จะเป็นบูธ DJ ที่มีหุ่นคล้ายๆหุ่นใส่ชุดซามูไรตั้งตระหง่านอยู่ (ตกแต่งได้จีดจ๊าดจริงๆร้านนี้) ส่วนฝั่งตรงข้ามก็จะเป็นห้องเล้านจ์สำหรับแขกที่อยากมานั่งพูดคุย ดื่มเป็นการส่วนตัวหน่อย ห้องนั้นก็ตกแต่งได้เปรี้ยวไม่เบาเหมือนกัน ทั้งโต๊ะที่ทำจากกล่องสมบัติไม้ โซฟาเบาะนุ่มสีเข้ม วอลเปเปอร์ลายดอกไม้เอ็กโซติค และโปสเตอร์หนังไทยสมัยก่อน แต่โดยรวมแล้วก็ยังให้ความรู้สึกกึ่งๆเป็น gentlemen’s club ได้อยู่เหมือนกัน

Behind Bar NAMSAAH dooddot 7

Behind Bar NAMSAAH dooddot 8

‘The Dragon Initiative’

เอาล่ะ ได้ชมการตกแต่งของร้านไปพอหอมปากหอมคอแล้ว ทีนี้ก็ได้เวลามาลิ้มรสค็อกเทลของร้าน Namsaah กันเสียที (ผู้อ่านบอก นักเขียนเกริ่นเรื่องนู้นเรื่องนี้ไม่จบสักที เมื่อไหร่จะเข้าเรื่องเมนูค็อกเทลซะทีเนี่ย!) อย่างที่บอกไปข้างต้นว่าที่นี่มีเมนูค็อกเทลกว่า 30 เมนูให้เลือกดื่ม แต่ละชื่อนี่เก๋ไก๋ ฮิปๆ ไม่น้อย ถ้ามีโอกาสได้มาร้านนี้อีกทีต้องขอลองสั่งเสียหน่อย อย่างเช่น ‘Sex on the BTS’, (อื้อหือ!) ‘Krungthep Cosmo’, ‘Mekhong Zombie’ (ดูชื่อก็รู้แล้วว่าต้องแรงชัวร์) และ ‘Sathorn Dirty Vodka Martini’ เป็นต้น หรือถ้าใครอยากจะ stick to พวก classic cocktails ที่นี่เขาก็มีเสิร์ฟให้คุณเหมือนกัน เช่น Negroni, Long Island Ice Tea และ Whiskey Sours รวมถึงพวกคลาสสิค ดริ๊งค์ อย่างไวน์แดง ไวน์ขาว แชมเปญ และเบียร์

ส่วนค็อกเทลที่เราได้มีโอกาสลิ้มลองทั้งหมด 4 แก้วด้วยกันนั้น พี่หทัยทิพย์ Bar Manager ของที่นี่บอกว่าจะเน้นไปที่รสชาติแบบ ‘Asian flavor twists’ หรือค็อกเทลที่มีรสชาติและส่วนผสมที่เป็นเอเชียนๆหน่อย เริ่มกันที่แก้วแรกกับ ‘The Diplomat’s Barstool’ (360 บาท) ค็อกเทลที่มีส่วนผสมของ Sparkling Wine / เหล้า Amaretto และ Chinese 5 Spices พร้อมเสิร์ฟมาอย่างสวยงามในแก้วแชมเปญ ดื่มแล้วรู้สึกหวานสดชื่น ไม่แรงมาก เหมาะสำหรับสาวๆ มีหอมกลิ่นเครื่องเทศนิดๆ ซึ่งหลักๆแล้วน่าจะมาจากขอบแก้วที่บาร์เทนเดอร์ได้โรยผงเครื่องเทศจีนเอาไว้ รสชาติจะออกเค็มๆนิดๆ เข้ากันได้ดีกับความหวานของตัวเหล้า ดื่มได้เพลินดีเหมือนกัน

Behind Bar NAMSAAH dooddot 9

Behind Bar NAMSAAH dooddot 10

ขั้นตอนการเผาเปลือกส้ม เพื่อให้ได้กลิ่นหอมสดชื่นเวลาดื่ม

Behind Bar NAMSAAH dooddot 11

‘Roasted Tangerine Negroni’

ต่อด้วย ‘The Dragon Initiative’ (290 บาท) ที่มีส่วนผสมของ Wild Turkey Bourbon (วิสกี้ชนิดหนึ่งที่มีการหมัก) / Kaffir Lime Leaves / Maple Syrup และแตงโม แก้วนี้เสิร์ฟพร้อมน้ำแข็งเป็นก้อนๆ มีกลิ่นหอมของใบมะกรูดนำมาเลย รสชาติออกหวานปนขมนิดๆ เป็นแก้วที่ไม่แรงมาก ดื่มแล้วรู้สึกสดชื่นหายเหนื่อยไปเลย ยิ่งพอกัดชิ้นแตงโมที่เสียบไม้เล็กๆมาด้วย ก็ยิ่งรู้สึกผ่อนคลายอย่างบอกไม่ถูก เหมือนกำลังได้ทานขนมไปด้วยในตัว

ตามมาติดๆด้วยแก้วที่สาม กับ  ‘Roasted Tangerine Negroni’ (290 บาท) ค็อกเทลที่มีส่วนผสมของ Beefeater Gin / Campari / Vermouth / Fresh Tangerine Juice แก้วนี้จะเสิร์ฟพร้อมน้ำแข็งแบบ ice ball ที่พี่บาร์เทนเดอร์ค่อยๆเฉาะให้เป็นทรงกลมสวยงามตรงบาร์ให้เราเห็นเลย พอนำมาใส่แก้วปุ๊ป เทส่วนผสมอย่างอื่นลงไป ก็ค่อยๆคนน้ำแข็งให้วนรอบแก้วเพื่อความเย็นที่จะอยู่ได้นานกว่าน้ำแข็งแบบก้อนทั่วไป ปิดท้ายด้วยแผ่นส้มเขียวหวาน (tangerine) ที่นำมาเผาไฟอ่อนๆ ตกแต่งไว้บนแก้ว เพื่อดื่มแล้วจะได้กลิ่นหอมสดชื่น แก้วนี้เป็นแก้วที่แรงไม่เบาเหมือน จิบไปไม่กี่อึก เราขอวางแก้วนี้ยาวๆเลย เพราะไม่สามารถสู้รสชาติของมันได้จริงๆ ถึงแม้จะมีรสออกหวานหน่อยๆ และกลิ่นหอมของเปลือกส้มจางๆ เราก็ขอบายกับความขมของเหล้าในแก้วนี้ สมแล้วที่เป็นแก้วสำหรับให้ผู้ชายดื่ม

Behind Bar NAMSAAH dooddot 12

Behind Bar NAMSAAH dooddot 13

มาถึงแก้วสุดท้ายซึ่งเป็นแก้วโปรดของเราเลย ‘Namsaah Bottling Trust Mojito’ (240 บาท) กับส่วนผสมของ Havana 3 Years Rum / Mint และ Lime แก้วนี้รสชาติยังคงเสน่ห์ของโมฮิโต้ไว้อย่างเหนียวแน่น กับความซ่าที่มีกลิ่นของใบมิ้นท์ที่ให้ความรู้สึกสดชื่น ดื่มง่ายเพลินๆ รสไม่แรง อันเป็นที่ถูกใจของคอค็อกเทลทั่วโลก แต่! มีกิมมิคอยู่ตรงที่เสิร์ฟพร้อมกับขนมเยลลี่โค้ก! แค่เห็นตอนที่พี่บาร์เทนเดอร์ค่อยๆตักขนมเยลลี่มาวางเป็นทอปปิ้งบนแก้วก็รู้สึกฟิน เหมือนเด็กเพิ่งได้ของเล่นใหม่ แหม่…ใครจะไปคิดว่าเจ้าขนมเยลลี่โค้กที่พวกเราชอบเคี้ยวกินหยับๆตั้งแต่เด็กๆ รสชาติมันจะเข้ากั๊นเข้ากันกับความซ่าของโมฮิโต้ได้ขนาดนี้ พี่หทัยทิพย์บอกว่า ในเมื่อตึกของร้านนี้เคยเป็นบริษัทผลิตเครื่องดื่มโซดามาก่อน ทางร้านเลยเกิดไอเดียทำแก้วค็อกเทลนี้ขึ้นมา ใส่ขนมเยลลี่โค้กลงไปหน่อย เพื่อให้เข้ากับเรื่องราวความเป็นมาของทางร้าน อืม…กู๊ด ไอเดีย จริงๆค่ะพี่!

หนุ่ม สาว คนไหนที่กำลังมองหาแหล่งแฮงเอาท์แห่งใหม่ ที่สามารถมานั่งทานอาหารก็ได้ (ชั้นบนของร้านเป็นโซนรับประทานอาหารแบ่งออกเป็นห้องๆ) ดื่มก็ดี หรือจัดปาร์ตี้ก็ยิ่งดีกว่า เราขอแนะนำร้าน Namsaah Bottling Trust แห่งนี้ ที่สามารถตอบโจทย์คุณได้อย่างแน่นอน ยิ่งถ้าคุณเป็นพวกชอบหาร้านนั่งดื่ม ที่มาพร้อมกับบรรยากาศ การตกแต่งไม่เหมือนใครด้วยล่ะก็ Friday night นี้ถ้าคุณยังไม่มีแพลนไปไหน ก็รีบชวนเพื่อนๆไปเปิดจินตนาการ และประสบการณ์การดื่ม ละลายความเครียดจากการทำงานหนักมาทั้งสัปดาห์ให้หมดไปได้เลย ที่ Namsaah Bottling Trust แห่งนี้

Behind Bar NAMSAAH dooddot 14

ตั้งอยู่ที่: 401 สีลม ซอย 7 ถนนสีลม บางรัก กรุงเทพฯ 10500 (BTS ช่องนนทรี)
เปิดบริการวันทุกวัน ตั้งแต่เวลา: 17:00 น. – 02:00 น.
Tel: 02 636 6622
Website: http://www.namsaah.com/
Facebook: https://www.facebook.com/namsaahbottlingtrust

Writer: Thip S. Selley
Photographer: Kongkarn Sujirasinghakul

RECOMMENDED CONTENT

14.ธันวาคม.2020

‘School Town King’ แร็ปทะลุฝ้า ราชาไม่หยุดฝัน เป็นหนังสารคดีที่สร้างจากเรื่องจริงของ ‘บุ๊ค’ เด็กหนุ่มวัย 18 และ ‘นนท์’ วัย 13 ผู้เติบโตมาในชุมชนคลองเตย หรือที่ใครๆ ต่างรู้จักในอีกชื่อหนึ่งว่า ‘สลัมคลองเตย’ นอกจากความยากจนที่มาพร้อมกับสถานะทางสังคมที่เลือกไม่ได้แล้ว ทั้งบุ๊คและนนท์ยังไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับระบบการศึกษา รวมทั้ง หลักสูตรการเรียนการสอนที่เน้นแต่ความสำเร็จเชิงวิชาการก็ยิ่งทำให้เด็กเรียนไม่เก่งอย่างพวกเขาขาดความสนใจในชั้นเรียนลงไปเรื่อยๆ  ระบบการศึกษาที่น่าจะเป็นความหวังและเท่าเทียมกันของเด็กทุกคน กลับยิ่งบีบบังคับและผลักไสให้พวกเขาเป็นแค่ ‘คนนอก’ ของสังคมไปโดยปริยาย