การจะเป็นศิลปินหรือนักดนตรีที่ประสบความสำเร็จได้ระดับโลกนั้น เรื่องฝีมือการทำเพลง แฟชั่นการแต่งตัว ลุคต้องเป็นเรื่องสำคัญที่มีผลมากอยู่แล้ว แต่หลายครั้ง (อาจจะทุกครั้งเลยด้วยซ้ำ) ที่ศิลปินในโลกนี้แจ้งเกิดด้วย Music Video ที่ดู Iconic และมีความเอกลักษณ์เป็นตัวของตัวเองสูง ต้องขอบคุณที่โลกยุคเราโตกันมานี้ พูดกันตามตรงก็เป็นยุคของ MTV, VH1 หรือ Channel [V] ครองอยู่พอสมควร เพราะฉะนั้นเพลงที่จะติดชาร์ตเป็นกระแสฮิตนั้น นอกจากจะมีเพลงดีเปิดในวิทยุ ยังต้องคำนึงถึงเรื่องมิวสิควิดีโอด้วย วันนี้เราจะมาดูกันว่า มิวสิควิดีโอที่มีไอเดียเจ๋งๆในการถ่ายทำ วันนี้เราเลือกเป็น ที่เราคิดว่าเข้าตากรรมการ จะมีเพลงอะไรบ้าง ไปดูกันเลยดีกว่า
Red Hot Chili Peppers – Californication (2000)
เฉลิมฉลองหลังจากที่โลกไม่แตก แล้วก็ Y2K ไม่กินหัวกบาลกัน โลกก็ได้พบกับสหัสวรรษใหม่พร้อมกันกับ MV เปิดตัวอัลบั้ม Californication วงร็อคแฟนเพลงทั่วโลกอย่าง RHCP ต้อนรับกาลกลับมาของมือกีตาร์อย่างเต็มภาคภูมิด้วย MV ภาพเกมสามมิติที่ดูแล้วเนียนสมจริงมากๆ (อ่าว สมัยนั้นทึ่งจริงๆนะ ทำเนียนขนาดนี้ได้ไง) โอเค ย้อนกลับไปมองตอนนี้อาจจะดูเป็นกราฟฟิกก้อนเหลี่ยม แต่ก็ชนะใจเราด้วยความคลาสสิคล่ะ เนื้อหาเหมือนเราเล่น GTA ภาคสมาชิกวง มาเจอกันหลังจากทำเควสต่าง ช็อตกีตาร์โซโล่ของ John Frusciante ระหว่างนั่งแมลงปอ นึกถึงว่าวันนี้เขาได้ออกวงไปแล้ว โอย เวลาผ่านไปเร็วเหลือเกินนน
Coldplay – Yellow (2000)
ถ้าฝั่งอเมริกันเขาขึ้นปี 2000 ด้วยภาพเกมแบบข้อข้างบน งั้นฝั่งเกาะอังกฤษเราเริ่มด้วยอาทิตย์วันใหม่ริมทะเลกันดีกว่า ผลงานที่ทำให้ Coldplay ดังกระฉ่อนไปทั่วโลก หลายคนที่เป้นแฟนๆอาจจะบอกว่า “อ้าว ทำไมไม่หยิบ MV The Scientst มาแนะนำล่ะ อันนั้นดูจะมีเทคนิคอะไรกว่า” จะบอกว่าเราก็ชอบเพลงนั้นเหมือนกัน แต่ที่ต้องเลือก Yellow ก็เพราะมันลงตัวไปซะทุกอย่างจริงๆ บรรยากาศที่เช้ามืดมีหนุ่มอังกฤษหน้าซื่อๆหัวเปียกน้ำค้าง นามว่า Chris Martin มาร้องเพลงจนสว่างให้เราฟัง ตอนครั้งแรกที่ดูก็ไม่รู้สึกอะไร พอเพื่อนมันทักว่า เห้ยเพลงๆเดียว ไมบ้านเขาพระอาทิตย์ขึ้นเร็วจัง แล้วย้อนมาประกอบกับ เออ ทำไมเขาดูร้องเพลงหน้าแปลกๆ ที่แท้ โออออ แกแฝงด้วยการฉายภาพแบบ Slow-Motion ที่ตอนถ่ายทำ Chris ต้องร้องเพลงเร็วกว่าปกติไปประมาณหนึ่ง แล้วค่อยมาทำภาพช้าให้เข้ากับเพลง นี่เป็นอีกหนึ่ง MV ที่ดูแล้ว Nostalgia ทุกครั้ง
Kylie Minogue – Come Into my World (2001)
ผลงานของ Michel Gondry ผู้กำกับชาวฝรั่งเศสที่มีงาน Music Video เจ๋งๆเยอะสุดในโลกแล้วล่ะมั้ง!? (เดี๋ยวลิสต์นี้ก็จะต้องเจอชื่อเขาอีกแน่ๆ) ชิ้นนี้ร่วมงานกับศิลปินป๊อบสาวคนสวย Kylie Minogue ที่เพลงของเธอเองก็มักจะมีกลิ่นอายล้ำๆสนุกๆแตกต่างจาก Diva ทั่วๆไป ภาพที่ออกมาตอนแรกก็นึกว่าเป็นการเดินตามถ่าย Kylie ในกิจวัตรสี่แยกเมืองยุโรปธรรมดาๆ แต่พอวนเข้าลูปเพลงท่อนนึงเท่านั้นล่ะ อ้าว นี่มัน Inception ก่อนที่จะมีหนังออกมาซะอีก! ซึ่งการใช้เทคนิคลูปของ Gondry แน่นอนไม่ได้ทำเอาเท่ หรือทำเพราะ Fancy เท่านั้น ถ้าลองสังเกตว่ามันเข้ากันกับธีมของเพลง ที่ดูเป็นโลกสมมุติคู่ขนานสักอย่างของเธอ แล้วเราก็ค่อยๆเข้าไปเป็นส่วนนึงทีละนิดๆ บวกกับทำนองเสียงดนตรีที่ให้อารมณ์ดูมีกลิ่นอิเล็กทรอนิกส์ล้ำๆนิดๆ เข้ากันโคตรๆ ถ่ายทำในปารีสใช้เวลา 15 เทค นักแสดงตัวประกอบ 50 คน ในการได้เอฟเฟกต์จักรวาลคู่ขนานที่ต้องการ เอ้า กราบ จ้า กราบ!
Fatboy Slim – Weapon of Choice (2001)
อะไรมันจะดูแล้วเป็นยุค 2000 ไปได้กว่า MV นี้อีก ส่วนตัวเราชอบวิดีโอตัวนี้มากถึงมากที่สุด เพราะมันสุดแสนจะเรียบง่าย แต่ดูแล้วโคตร Weird โคตรงง เปิดมาด้วยภาพของลุงใส่สูทผูกไทร์คนนึง นั่งหมดอาลัยตายอยากอยู่บนเก้าอี้ แล้วมูดบรรยากาศเหมือนเป็นตึกอาคารหลังเลิกงาน ในย่านชานเมืองอเมริกันสักแห่ง (มันรู้สึกแบบนั้นจริงๆนะ) เสร็จแล้วลุงก็ลุกขึ้นมาเต้น โชว์ลีลาทั่วตึก เป็นครั้งแรกๆที่ทำให้โลกเริ่มเข้าใจว่า ลุงที่ชื่อ Christopher Walken แกเป็นคนต๊องๆต๋วงๆพิลึกดีจริงๆ กำกับโดย Spike Jonze ผู้กำกับคนเดียวกับเรื่อง Her (2013), Being John Malkovich (1999), Where the Wild Things Are (2009) ถึงว่าล่ะโคตร Weird เลยจริงๆ นี่ใครจะรู้มั้ยเนี่ย ดึกๆดื่นๆคนกลับบ้านหมดแล้ว มีลุงเต้นอยู่แบบนี้ แต่เห็นเต้นๆงี้ ได้รางวัลวิดีโอยอดเยี่ยมจากหลายเวทีเลยนะครับ
R.E.M – Imitation of Life (2001)
ออกตัวก่อนว่าวิดีโอตัวนี้เจ๋งมากๆ มาถึงคิวของวงร็อค Alternative รุ่นเก๋า ขวัญใจคนอายุ 25+ หลายๆคน หลังจากที่เพิ่งมีข่าวแตกวงไปเมื่อสามสี่ปีที่ผ่านมา (เสียใจมากๆ) วันนี้เรามาย้อนดู MV ของ R.E.M กันหน่อยดีกว่า คงเป็นเพลงไหนไปไม่ได้ นอกจาก Imitation of Life ผลงานที่จริงๆแล้วถือว่าค่อนข้าง Underated พอสมควร (ไม่ค่อยมีคนกล่าวถึงเท่าที่ควรจำเป็น) ผลงานของ Garth Jennings ถ่ายทำใน Los Angeles มีบ้านมีสระว่ายน้ำ ใช้เทคนิค Pan & Scan เหมือนเวลาเราต้องการจะจับภาพเลื่อนซูมเข้าปรับขนาดจอ Michael Stipe นักร้องนำเล่าว่า “คุณเชื่อไหม เราถ่ายทำฟุตเทจทั้งหมดแค่ 20 วินาทีเท่านั้น แต่มันมาถูกย้อน ถูกฉายซ้ำ ยืดให้เป็นวิดีโอ 3 นาทีได้” วิดีโอทั้งหมดเป็นเหมือนภาพนิ่งที่เคลื่อนไหวได้ มีเลเยอร์จัดวางสวยงาม แต่ที่สำคัญคือเขาทำได้ไงให้มันเป๊ะ ต้องลองดูถึงจะเข้าใจ
The White Stripes – Fell in Love with a Girl (2001)
อ่ะ ขออัญเชิญเฮีย Gondry มาอีกสักเพลง อันนี้เป็นตัวที่ทำให้กับดูโอ้ร็อคบลูส์ดิบๆ The White Stripes ที่ตอนปล่อยออกมาให้โลกเห็นครั้งแรก คนก็พากันพูดเป็นเสียงเดียวกัน ว่านี่มันคือมิวสิควิดีโอที่เจ๋งที่สุดแล้วล่ะมั้งเนี่ย อันนี้เหมือนกับว่าจะต่อเลโก้กันจริงๆนะ เป็นภาพเลโก้ทั้งเพลง ซึ่งถ้าดูแบบเอารายละเอียดอาจจะงงๆ ต้องถอยมาดูภาพกว้างๆถึงจะเห็นภาพว่า เป็นภาพอะไรทั้งเพลง แต่ยอมรับเลยนะ จากวันนั้นถึงวันนี้ พอมาเปิดดูอีกทีก็ยังอ้าปากค้างได้ มันไม่ใช่แค่ Stop Motion เท่านั้นนะ แต่ยังเป็นตัวเลโก้สามมิติ มีฉากหน้าฉากหลังด้วย สุดยอดจริงๆ
Fatboy Slim – Ya Mama (2001)
ย้อนกลับไปช่วง MTV ยุครุ่งเรือง มี MV ของ Fatboy Slim ทีไร เป็นต้องห้ามเปลี่ยนช่องทุกที อันนี้ก็เป็นเพลงที่ Iconic มากๆเช่นกัน หลายคนอาจจะเรียกว่าชื่อเพลง Push the Tempo (เพราะมันเป็นท่อนที่เราฟังออกชัดสุดแล้ว) MV ตัวนี้แก่นสารดูจะไม่มีอะไรมาก หนุ่มเคราเฟิ้มอยู้ในบ้านน่าจะแถบอเมริกาใต้หรือแอฟริกา แกได้ม้วนเทปมาม้วนนึง แล้วก็ใส่หูฟัง เท่านั้นล่ะ เรื่องก็เกิด เพื่ออรรถรสในการรับชม เราจะไม่เล่าอะไรไปมากกว่านี้ ลองเปิดกันดูเลยดีกว่า อยากรู้ว่าตอนถ่ายทำกันมันจะเรื้อนขนาดไหนนะ พุชเดอะเทมโป้ พุชเดอะเทมโปโป เรสเดอะเทมโป!
The Chemical Brothers – Star Guitar (2002)
แห่ๆ Michel Gondry อีกข้อจ้า ทำให้กับ The Chemical Brothers ด้วยภาพที่ออกมาสุดแสนจะ Simple และ Minimal เราว่ามันเป็นเรื่องสากลเลยไหมนะ อะไรที่ minimal น้อยๆ Less is More ดูทีไรมันขนลุกทุกที MV เปิดมาด้วยภาพเหมือนเรากำลังนั่งอยู่บนรถไฟข้ามเมืองสักอย่าง แล้วก็ทิ้งเราไว้อย่างนั้น กับเพลง เห็น Country Side โรงงาน นั่นนี่ แต่เอ๊ะ เห้ย เห้ยยย เ*ย โออออ กราบบบบบบ ถ้าอยากรู้ว่าเราหมายถึงอะไร ลองดูแล้วสังเกตเอ็มวีดีๆ จะทึ่งเลย ว่า Gondry นี่แกเป็นอัจฉริยะไปแล้ว
Arctic Monkeys – I Bet You Look Good in the Dance Floor (2005)
ไล่ๆมา มีแต่คนใช้ความคิดสร้างสรรค์ดีๆเจ๋งๆกันหมดเลยใช่ไหม เราว่าตอนที่วิดีโอนี้ของ Arctic Monkeys ออกมา มันเป็นการตอกหน้าทุกคนเต็มๆหมดเลย กับการมั่นใจในฝีมือ 4 หนุ่มเมืองเชฟฟิลด์ ที่ในเวลานั้นก่อนออกเทป พวกเขาก็ครองอาณาจักร mySpace เป็นที่กล่าวขานพูดถึงกันทั่วไปหมดแล้ว แล้วเอ็มวีเปิดตัวควรจะทำยังไงน่ะเหรอ? ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมาก ก็แค่เซตเวทีเล็กๆ จัดเซตแอมป์ กีตาร์ กลอง เบส ให้พร้อม แล้วก็ถ่ายทำเล่นกันสดๆดังๆไปเลย ที่สำคัญเราไม่รู้ว่าเขาคิดมารึเปล่า แต่การถ่ายทำด้วยกล้องฟิล์มถ่ายหนัง มันช่วยให้เกิดมูดที่ตอนโผล่มาปี 2005 ท่ามกลางกระแสดิจิตอล CGI ของทุกคน ของธรรมดาแบบนี้มันเลย เห้ย มันเท่มากๆ ทั้งสี่คนแต่งตัวง่ายๆแต่ฝีมือเล่นดนตรีแน่นปั๊ก ครับ อีกหนึ่งวงตำนานใน Generation เรานี่ล่ะ (สรุปจริงๆแล้วเขาไม่มีทุนก็เลยถ่ายแค่นี้ จบ)
Fujiya & Miyagi – Ankle Injuries (2006)
ลูกเต๋า ทำอะไรได้มากกว่าที่คุณคิด เมื่อคุณได้ดูมิวสิควิดีโอตัวนี้ของวงอิเล็กทรอนิกส์นอกกระแสจากอังกฤษ Fujiya & Miyagi ที่ถึงตอนนี้เราก็ยังไม่รู้ว่าใครเป็นคนกำกับ MV ตัวนี้ขึ้นมา แล้วก็ยังไม่ชัวร์ว่ามันเป็นการวางด้วยมือ หรือทำ CGI แต่ถ้าวางด้วยมือนี่เราคงต้องกราบเลยจริงๆ เพราะมันน่าจะมีเป็นแสนเฟรมได้มั้งน่ะ! ถึงจะทำภาพออกมาได้เนียนขนาดนี้ ลองเปิดดูแล้วเรารับรองว่าคุณจะต้องทึ่ง เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างว่าถ้า MV เจ๋ง ได้ชัยไปกว่าครึ่งเลย ทำให้ภาพลักษณ์ของวงนี้ดูหล่อ (แบบ Pixel) ขึ้นมาทันที
OK Go – Here it Goes Again (2006)
วิดีโอที่มีคนพยายามทำตามเยอะที่สุดแล้วล่ะมั้ง เพราะถ้าเอาเรื่องมุมกล้องมันถ่ายทำแสนจะง่ายแสนง่าย ตั้งกล้องไว้นิ่งๆพอ เพียงแต่จุดสำคัญคือฝีเท้าของผู้แสดงต้องฝึกมาดีมากๆ ซึ่งในที่นี้ก็คือสมาชิกวง OK Go ทั้งสี่คนนี่ล่ะ จริงๆแล้วพวกเขามีผลงานอัลบั้มแรกที่มาในลุคหล่อๆวงร็อค Alternative อเมริกันจ๋าๆ แต่พอมาถึง MV ตัวก่อนหน้านี้ที่ชื่อว่า A Million Ways ที่ดูก็รู้ว่าน่าจะทำกันเอง กล้อง Handy Cam ถ่ายหลังบ้าน แต่ออกแบบท่าเต้นกันมาอย่างดีเยี่ยม สองหล่อสองติ๋มสเต็ปพริ้วไหลดั่งสายน้ำ หลังจากนั้นเราเดาว่าทางวงคงคุยกัน เห้ย ต่อไปนี้เราทำ MV เอาดีทาง Long Take แบบนี้เลยดีกว่า ท่าจะรุ่ง! (ล่าสุดต้นปีที่ผ่านมานี้ก็ Long Take แบบสเกลใหญ่ที่เป็นที่พูดถึงกันทั่วโลกออนไลน์) แต่ Here it Goes Again ที่เราแนะนำนี้มันคือคลาสสิค มีคน 4 คน คาแรคเตอร์หล่อ 2 หัวล้าน 2 แล้วก็เครื่องวิ่งออกกำลังกาย สร้าง MV เจ๋งๆได้ตัวนึงแล้ว
Justice – D.A.N.C.E. (2007)
ใครที่ชอบดูงานกราฟฟิก หรือดูงาน Typo สนุกๆ ต้องวิดีโอนี้เลย ผลงานของศิลปินดูโอ้อิเล็กทรอนิกส์สัญชาติฝรั่งเศส เพลงนี้ก็ได้รางวัลมากมาย เปิดขึ้นมาต้องร้องอ๋อบ้างล่ะ ถ่ายทำง่ายๆเป็นภาพสองคนขาวดำเดินใน Backstage หรือในผับ สักอย่าง ใส่เสื้อยืดขาวดำ แต่งานหนักมันมากองตอนคน Edit นี่ล่ะ ที่ต้องใช้กราฟฟิก การ์ตูนเข้ามาเล่นทั้ง MV เราว่าหลังจากวิดีโอตัวนี้ออกมา คงทำให้บ้านเราเกิดไอเดียขายเสื้อยืดลายกราฟฟิกจัดๆแบบนี้กัน ใครที่ไม่มีเสื้อยืดถูกใจสักที ก็ลองกด Pause แล้วก็ก็อปเอาไปทำเสื้อยืดได้เลย
MGMT – Time to Pretend (2007)
มาถึง MV ที่หลายคนมอบให้เป็นวิดีโอที่พิศดารที่สุดประมาณหนึ่ง เส้นบางๆระหว่างจินตนาการที่บรรเจิดกับกัญชากำลังเมาได้ที่ วงดนตรีแนว Psychedellic ที่ดนตรีและภาพลักษณ์ของพวกเขามักจะมีความหลุดโลก แต่ก็กระชากใจสาวๆได้เสมอๆ เพลงฮิตของพวกเขาเพลงนี้ ถูกใช้ประกอบในหนังมากมาย แสดงถึงจิตวิญญาณคนหนุ่มสาวค้นหาตัวเอง แต่ MV นี่สิ บรรดาคอมเมนต์ในยูทูปก็แซวๆกันว่า สมมุติว่างบถ่ายทำมีอยู่ 100% เราเดาว่า 5% เอามาใช้ถ่ายทำ ส่วนอีก 95% ใช้จ่ายไปกับกัญชาหรือยาหลอนประสาทมาใช้ระหว่างออกกองแน่นอน
Weezer – Pork and Beans (2008)
วงร็อคมาดซื่อๆจากฝั่งอเมริกัน มาพร้อมกับมิวสิควิดีโอซื่อๆเช่นกัน Pork and Beans เป็นเหมือนการเอาพวกบรรดา Meme ที่เป็นกระแสอินเตอร์เน็ตในยุคนั้นมายำ ทั้งเด็ก Nerd อ้วนใส่อารมณ์กับคอม หนุ่มเกย์ที่ใจสลายตอนทุกคนว่าบริทย์นี่ของเธอ คาราเต้ที่ทำอะไรมั่วไปหมด ชายใส่เสื้อทับกันทุกๆวัน และอีกมากมาย เป็น MV ที่ช่วยให้เห็นภาพสังคมอินเตอร์เน็ตในยุคนั้น ทำให้เราคิดเหมือนกันว่า เออ ขนาดแค่ย้อนไปหลัง 7 ปีที่แล้ว เทียบกับปัจจุบันโลกยังเปลี่ยนไปขนาดนี้ ลองนึกภาพ Youtube ในยุคนั้นยังมีอะไรที่สมัยนี้ยังไม่มีแล้วโลกก็ยังดูช้ากว่านี้มาก จากที่ตอนแรกเรานึกว่าเอาฟุตมายำๆขำๆ แต่สักพักคนในอินเตอร์เน็ตเริ่มร้องเพลงด้วย สุดท้ายมีฉากเฉลยรวมที่ทาง Weezer เล่นดนตรีอยู่ในห้องเดียวกับทุกคน แปลว่าเขาลงทุนให้มาเจอกัน ถ่ายทำ MV กันเลยทีเดียว
The xx – Islands (2010)
เดินทางมาถึงข้อสุดท้ายปี 2010 เราขอจบที่ MV ของ The xx วงอินดี้ร็อคจากเกาะอังกฤษ ขวัญใจคอเพลงนอกกระแสหลายๆคน กับซิงเกิ้ลในอัลบั้มเปิดตัวของพวกเขา เพลง Islands มาพร้อมมิวสิควิดีโอเท่ๆ ที่ตอนแรกดูเหมือนจะเป็นการฉายภาพซ้ำไปซ้ำมาของคนเต้น แล้วก็สมาชิกวงมานั่งเก๊กๆกันบนโซฟา แต่พอสักพัก เห้ย คนเต้นเต้นเหมือนเดิม แต่ทำไมวง The xx แกนั่งไม่ซ้ำกันเลย แล้วก็ร้องเพลงแต่ละท่อนตลอดเวลาด้วย จนพอดูตอนจบถึงเข้าใจว่า การเต้นข้างหลังเป็นการ Choreograph มาอย่างดี มีเนื้อหาสัญลักษณ์อยู่ด้วย (เราว่าคนทั้งโลกก็กดวนดูหลายรอบจน 22 ล้านวิวนี่ล่ะ) วิดีโอกำกับโดย Saam Farahmand คนทำ MV ให้กับวงอินดี้มาแล้วมากมาย อาทิเช่น Simian Mobile Disco หรือ Klaxons ถ่ายทำกันด้วย Tracking Shot เลื่อนเข้าเลื่อนออกล้วนๆ วนเป็นลูป ตอนที่กล้องแพนออกมา แล้วเห็นหน้า xx แต่ละคนนิ่งๆ อูย โคตรเท่โคตรหล่อ
Writer: Pakkawat Tanghom
RECOMMENDED CONTENT
ภาพหายากที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อนเมื่อ Harrison Ford หลุดขำ กลางรายการให้สัมภาษณ์รายการทีวีของอังกฤษ This Morning เกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของเขา #BladeRunner2049