“นอกจากเป็นประตูสู่การเรียนรู้ มอบประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมและเปิดวิสัยทัศน์ให้กว้างไกลยิ่งขึ้นแล้ว นิทรรศการหนึ่งๆ จะได้รับการยกย่องว่าประสบความสำเร็จอย่างสูงก็เมื่อมันสามารถช่วยให้ผู้เข้าชมได้สำรวจความคิดใหม่ๆ ที่ไม่เคยรู้มาก่อน กระทั่งก่อเกิดเป็นแรงบันดาลใจ” หวาง ยิ่วกง, ผู้อำนวยการแผนกพระราชวัง, พิพิธภัณฑ์พระราชวัง
Cartier และ Palace Museum จะร่วมกันจัดแสดงนิทรรศการ “ก้าวข้ามขอบเขต: หัตถศิลป์และการบูรณะของคาร์เทียร์และพิพิธภัณฑ์พระราชวัง (Beyond Boundaries: Cartier and the Palace Museum Craftsmanship and Restoration Exhibition)” ภายในหอศิลป์ประตูอู่เหมิน (Meridian Gate Gallery) ของพิพิธภัณฑ์พระราชวังในกรุงปักกิ่งตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2562 เป็นต้นไป
หลังจากความสำเร็จของนิทรรศการ “Cartier Treasures” ที่จัดขึ้นเมื่อ 10 ปีที่แล้วภายในหอศิลป์ประตูอู่เหมิน ซึ่งอยู่ทางประตูทิศใต้ของพระราชวังต้องห้าม นิทรรศการเชิงวัฒนธรรมครั้งใหม่นี้จะเฉลิมฉลองสายสัมพันธ์ฉันมิตรระหว่างคาร์เทียร์กับประเทศจีนด้วยแรงบันดาลใจและความรู้ความชำนาญที่มีร่วมกัน ภายในนิทรรศการ งานสร้างสรรค์ของคาร์เทียร์และวัตถุโบราณของพิพิธภัณฑ์พระราชวังที่ถูกจัดวางเคียงข้างกันในนิทรรศการครั้งนี้ จึงเปรียบดั่งคำเชื้อเชิญให้ร่วมเดินทางผ่านห้วงของกาลเวลาและสถานที่ เพื่อชื่นชมในความเชื่อมโยงทางวัฒนธรรมระหว่างทรัพย์สมบัติอันล้ำค่าของโลกตะวันออกและตะวันตก
นิทรรศการ “ก้าวข้ามขอบเขต: หัตถศิลป์และการบูรณะของคาร์เทียร์และพิพิธภัณฑ์พระราชวัง” จะเผยเรื่องราวใน 3 บริบทและนำเสนอการตีความทั้งตามลำดับเหตุการณ์และในเชิงอรรถบทไปพร้อมๆ กันผ่านมุมมองที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความรู้ความชำนาญ ที่ยึดโยงทุกสิ่งในนิทรรศการไว้ด้วยกัน ผู้ที่ได้รับมอบหมายให้ออกแบบพื้นที่ภายในนิทรรศการนี้คือ นาตาลี ครินีเยร์ (Nathalie Crinière) จินตนาการของเธอล้อไปกับลวดลายจากฝีแปรงของศิลปินอักษรวิจิตร เป็นสิ่งที่ทำให้ภาพรวมของนิทรรศการนี้มีความสอดคล้องและต่อเนื่องกันเป็นอย่างดี ด้วยการนำเสนอประสบการณ์อันน่าดื่มด่ำสลับกับภาพเคลื่อนไหว สถานที่จัดนิทรรศการแห่งนี้ได้ขยายพื้นที่จัดแสดงเพิ่มเป็น 3 เท่าของพื้นที่เดิมในช่วงของการปรับปรุงสถานที่ครั้งใหญ่เร็วๆ นี้ รวมพื้นที่สำหรับนิทรรศการครั้งนี้ถึง 2,700 ตร.ม. ซึ่งคาร์เทียร์ถือเป็นเกียรติอย่างสูงกับการเป็นแบรนด์แรกที่ได้จัดแสดงภายในพื้นที่ใหม่ของสถานที่แห่งนี้
ชิ้นงานที่นำมาจัดแสดงมากกว่า 800 ชิ้นจากช่วงราชวงศ์หมิง (ปี ค.ศ. 1368-1644) จวบจนถึงปัจจุบัน ได้รับการเลือกสรรจากคาร์เทียร์คอลเลคชั่น (คาร์เทียร์คอลเลคชั่น คือ ผลงานของคาร์เทียร์ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ซึ่งคาร์เทียร์ประมูลกลับนำมาเก็บไว้เพื่อประโยชน์ทางด้านศิลปะวัฒนธรรม), หอจดหมายเหตุของคาร์เทียร์, คอลเลคชั่นวัตถุโบราณของพิพิธภัณฑ์พระราชวังและสถาบันต่างๆ ของภาครัฐ อาทิ พิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโปลิตัน (Metropolitan Museum of Art) นิวยอร์ก, หอศิลป์แห่งชาติออสเตรเลีย (National Gallery of Australia), สำนักงานพิพิธภัณฑ์กาตาร์ (Qatar Museums) และพิพิธภัณฑ์นาฬิกานานาชาติ ณ เมืองลาโช–เดอ–ฟง (Musée international de l’horlogerie de La Chaux-de-Fonds) ตลอดจนคอลเลคชั่นส่วนตัวและราชวงศ์ต่างๆ
ชื่อของนิทรรศการ “ก้าวข้ามขอบเขต (Beyond Boundaries)” กระตุ้นให้เปิดกว้างและคิดถึงพลังที่เกิดจากการแลกเปลี่ยนเช่นนี้ เป็นดั่งคำเชื้อเชิญให้ก้าวข้ามสิ่งใดๆ ก็ตามที่เป็นการแบ่งแยก มิเพียงแค่การจัดแบ่งประเภท เขตแดน ทวีป หรือการกำหนดขอบเขตต่างๆ เท่านั้น แต่ยังหมายรวมถึงสิ่งใดก็ตามที่ดูเหมือนเป็นสิ่งตายตัว หยุดนิ่งและมิอาจเปลี่ยนแปลงได้ อาทิ ความรู้ ความเชื่อมั่น นิยาม หรืออุปาทานต่างๆ ทั้งนี้เพื่อเปิดพื้นที่อิสระเพื่อก่อให้เกิดวิสัยทัศน์ใหม่แห่งการสร้างสรรค์
ภายในนิทรรศการ จัดแสดงทั้งหมด 3 ส่วน ดังนี้
- West Wing: แรงบันดาลใจจากประเทศจีน
- Central Wing: สัญลักษณ์แห่งอำนาจ
- East Wing: ท่องไปในโลกแห่งความทรงจำผ่านเรือนเวลา
นิทรรศการ“ก้าวข้ามขอบเขต” จะเผยให้เห็นถึง ความเฟื่องฟูในการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม และเจตนารมณ์ในการแบ่งปันวิสัยทัศน์ที่มีร่วมกัน เชื่อมร้อยวัฒนธรรมที่แตกต่างด้วยจิตวิญญาณที่เคารพและเข้าใจซึ่งกันและกัน อีกทั้งปกป้องตลอดจนเพิ่มพูนมรดกทางวัฒนธรรมเพื่อส่งต่อ เพื่อชนรุ่นหลังอีกด้วย
นิทรรศการก้าวข้ามขอบเขต: หัตถศิลป์และการบูรณะของคาร์เทียร์และพิพิธภัณฑ์พระราชวัง เปิดให้เข้าชม ตั้งแต่ วันที่ 1 มิถุนายน – 31 กรกฎาคม 2562 ในวันอังคาร – อาทิตย์ (ยกเว้นวันจันทร์และวันหยุดประจำชาติ) เวลา 08:30 – 17:00 โดยเปิดให้เข้าชมได้รอบสุดท้าย เวลา 16:00 และผู้เข้าร่วมงานสามารถซื้อตั๋วสำหรับเข้าชมพิพิธภัณฑ์พระราชวัง ในราคา 60 หยวน หรือประมาณ 270 บาท (สำหรับผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป เสียครึ่งราคาและเด็กส่วนสูงต่ำกว่า 120 ซม. ไม่เสียค่าเข้า)
RECOMMENDED CONTENT
Midea Group จับมือกับ “บาส-นัฐวุฒิ พูนพิริยะ” ผู้กำกับมากฝีมือจากภาพยนตร์เรื่องฉลาดเกมส์โกง และ เจ. วอลเตอร์ ธอมสัน กรุงเทพฯ สร้างสรรค์ผลงานโฆษณา จากเรื่องจริงสร้างแรงบันดาลใจให้ลุกขึ้นสู้เพื่อความฝันของนางแบบสาวชาวบราซิล Paola Antonini ที่ประสบอุบัติเหตุต้องใส่ขาเทียม