“เล่นหุ้นมันเครียด”
“เล่นทีไรไม่เห็นจะกำไร มีแต่ขาดทุน!”
หลายคนคงคิดแบบนี้ และต้องจมอยู่กับความผิดหวัง แต่ความเป็นจริงแล้วเหรียญมันมีสองด้านครับ มีด้านมืด ก็ต้องมีด้านสว่างเป็นธรรมดา เราลองมาดู 5 แนวคิดเล่นหุ้นอย่างสบายใจ มีอะไรบ้างติดตามกันเลยครับ
กลยุทธ์แรก “ลงทุนในสิ่งที่เราเข้าใจ”
หลายคนเล่นหุ้นไม่เคยรู้เลยว่า หุ้นที่เราซื้อทำกิจการอะไร มียอดขายเท่าไร มีอัตราการทำกำไรสุทธิเท่าไร มีหนี้สินมากน้อยแค่ไหน ต้องจ่ายดอกเบี้ยปีๆ หนึ่งเท่าไร เป็นธุรกิจที่ดีหรือไม่ อยู่ในกระแสหรือเปล่า? คำถามเหล่านี้หากเราไม่ได้ลงมือศึกษาหาความรู้ นั่นเป็นเพราะเราไม่เข้าใจกิจการที่เราลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “พื้นฐานของหุ้น” การที่เราจะรู้พื้นฐานของหุ้นเราต้องเข้าใจธุรกิจ การลงทุนในสิ่งที่เข้าใจนั้นจะช่วยให้เราลงทุนได้อย่างสบายใจ อะไรที่เราไม่เข้าใจก็ไม่จำเป็นต้นลงทุนนะครับ
กลยุทธ์ที่สอง “ต้องซื้อธุรกิจที่ดีในราคาปานกลาง”
วอเรนต์ บัฟเฟตต์ ปรมาจารย์การลงทุนระดับโลก เคยกล่าวเอาไว้ว่า… จงซื้อธุรกิจที่ดีในราคาปานกลาง ดีกว่าซื้อธุรกิจที่ไม่ดีในราคาถูก … ธุรกิจที่ดีนั้นเราสังเกตได้ไม่ยาก ธุรกิจที่ดีเป็นธุรกิจที่คนนิยมบริโภค–ใช้บริการ และมีแนวโน้มที่คนยังคงใช้บริการอยู่เรื่อยๆ ธุรกิจประเภทนี้จะสร้างกระแสเงินสดอย่างสม่ำเสมอ มีการเติบโตอย่างสม่ำเสมอ และเป็นผู้ชนะในขอบข่ายการทำธุรกิจของตน เมื่อเราเจอธุรกิจดีแล้ว สิ่งสำคัญก็คือ ต้องซื้อในราคาที่เหมาะสม หากเราซื้อธุรกิจที่ดีในราคาที่เหมาะสม รับรองว่าการลงทุนของเราจะสบายใจ ไม่เครียดอย่างแน่นอนครับ
กลยุทธ์ที่สาม “ซื้อธุรกิจที่มีหนี้น้อย แต่สร้างกระแสเงินสดได้สม่ำเสมอ”
กลยุทธ์นี้นักลงทุนต้องทำการบ้านเสียหน่อยครับ… แต่ก็ไม่ได้ยากเย็นจนเกินไป นักลงทุนต้องมองหาหุ้นที่มีหนี้น้อยๆ ยิ่งน้อยยิ่งดี มีเงินสดในบริษัทมาก และสร้างกระแสเงินสดได้อย่างสม่ำเสมอ … ธุรกิจที่ตรงกันข้าม คือ มีหนี้เยอะ ไม่มีเงินสด กระแสเงินสดติดลบ หรือไม่สม่ำเสมอ เป็นธุรกิจที่ควรหลีกเลี่ยง และถ้าเราลงทุนกับธุรกิจที่ไม่ดีเราก็จะนอนไม่หลับในยามที่ตลาดผันผวนนั่นเอง
กลยุทธ์ที่สี่… “ลงทุนระยะยาว”
กลยุทธ์นี้ง่ายแสนง่าย… คือการลงทุนระยะยาว ให้กิจการสร้างมูลค่าในตัวมันเอง และทบต้นไปเรื่อยๆ เราเห็นกรณีศึกษามามากมาย กับหุ้นที่ดีเมื่อเวลาผ่านไป กำไรเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ราคาหุ้นก็จะปรับตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ ลงทุนระยะยาวจะช่วยให้เกิดการ “ทบต้นของมูลค่ากิจการ” หากเราไม่ถอนเงินออกมาก่อน เงินที่ทบต้นจะสร้างมูลค่าในระยะยาวอย่างที่เราคาดไม่ถึง แถมสบายใจอีกด้วยครับ
กลยุทธ์ที่ห้า “จงคิดว่า… เราเป็นมือใหม่อยู่เสมอ”
คนที่เป็นมือเก่า… มักจะดูแต่กระดานหุ้น ดูแต่ราคาหุ้น แต่ความรู้สึกของการเป็นมือใหม่จะกระชุ่มกระชวย มีความกระตือรือร้นที่จะหาความรู้ มองกิจการจริงๆ ไม่ได้มองแค่ “เงาของกิจการ” นั่นคือ “ราคาหุ้น” … ว่าที่จริงราคาหุ้นก็เป็นเพียงแค่เงาสะท้อนตัวกิจการ หากเราลงทุนไปนานๆ เราจะติดอยู่แค่ราคาหุ้น แต่การที่เรารู้สึกเป็นมือใหม่อยู่เสมอ จะทำให้เรากระตือรือร้น อยากศึกษากิจการ วิเคราะห์พื้นฐาน ก่อนลงทุนจริงๆ
กลยุทธ์ทั้งห้าที่ผ่านไป… หากเราทำได้ การลงทุนของเราจะยั่งยืน มั่นคง และที่สำคัญทำให้เรา “สบายใจ” ได้อย่างไม่ต้องสงสัยอะไรเลยล่ะครับ… อย่างน้อยเราควรลงทุนด้วยความรู้ ไม่ใช่เล่นพนันนะครับ
Content by : NAIWAENTAMMADA
RECOMMENDED CONTENT
น่าจับตามองมากที่สุด สำหรับศิลปินคู่หูอินดี้ป๊อปอย่าง “Landokmai” (ลานดอกไม้) ประกอบด้วย “อูปิม - ลานดอกไม้ ศรีป่าซาง” (ร้องนำ) และ “แอนท์ - มนัสนันท์ กิ่งเกษม” (กีตาร์, คอรัส) สังกัดค่ายเพลง What The Duck (วอท เดอะ ดัก) ด้วยความชัดเจนโดดเด่นทางด้านดนตรีที่ผสมผสานความเป็น Dream-pop และความวินเทจแบบ Lo-fi ไว้ด้วยกันได้อย่างมีเสน่ห์