สวัสดีจ้า… เหล่าผู้ประกอบการ นักธุรกิจ รวมทั้งว่าที่เจ้าของกิจการมือใหม่ หรือ SME สำหรับใครที่กำลังวางแพลนอยากส่งออกสินค้าต่างประเทศ เพื่อสานฝันให้คุณทำได้ และง่ายยิ่งขึ้น Big Money เตรียมสิ่งที่คุณต้องรู้ สรุปข้อมูลจากธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) มาอธิบายให้ฟังแล้วจ้ะ
1. มีสินค้าดีมีคุณภาพ และเตรียมเอกสารให้พร้อม
ปัจจุบันหลายประเทศคู่ค้าของไทยให้ความสำคัญกับมาตรฐานความปลอดภัยของสินค้ามากขึ้นเพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค ผู้ประกอบการจะต้องเข้มงวดในการควบคุมคุณภาพของผลิตภัณฑ์มากขึ้น ก่อนอื่นใดการที่เราจะส่งออกสินค้าไปต่างประเทศได้นั้น ต้องเข้าตามตรอกออกตามประตู พร้อมกับต้องทราบว่าสินค้าที่กำลังจะส่งออกโกอินเตอร์นั้นเป็นสินค้าประเภทไหน อยู่ภายใต้หน่วยงานใด เช่น สินค้าเกษตร สินค้าอาหาร สินค้าอุตสาหรรม สินค้าแฟชั่นหรือกีฬา สินค้าสุขภาพหรือความงาม สินค้าไลฟ์สไตล์ รวมทั้งกลุ่มธุรกิจบันเทิง ฯลฯ และเพื่อความเข้าใจเบื้องต้นในการขอใบรับรองในส่วนพิธีการศุลกากร ผู้เขียนขอเล่าตัวอย่าง กรณีอยากส่งออกข้าว จัดอยู่ในกลุ่มสินค้าเกษตร คุณจะต้องขออนุญาตประกอบการค้าข้าวกับกระทรวงพาณิชย์ กรอกเอกสารพร้อมส่งหลักฐาน คำขออนุญาตให้ประกอบการค้าข้าว (ค.ข.1) (ประเภทค้าข้าวส่งไปจำหน่ายต่างประเทศ ประเภทสีข้าว ประเภทขายส่ง ประเภทท่าข้าว และประเภทอื่น ๆ) ภายในเอกสารนั้นต้องกรอก ช่ือเจ้าของ ชื่อผู้จัดการ สถานที่ประกอบการค้าข้าว และข้อมูลจำเป็นอื่น ๆ ตามที่ระบุ หลังจากนั้นชำระค่าธรรมเนียมประมาณ 20,XXX บาท เพื่อออกหนังสืออนุญาตเพื่อจำหน่ายสินค้าในต่างแดนค่ะ อย่างไรก็ดี การส่งออกยังมีรายละเอียดเจาะลึกอีกมาก เช่น
- ผู้ส่งออกทั่วไป ได้แก่ บริษัท รัฐวิสาหกิจ สหกรณ์หรือกลุ่มเกษตรกรที่จัดตั้งตามกฎหมาย และมีวัตถุประสงค์ค้าข้าวส่งไปจำหน่ายต่างประเทศ จะต้องมีทุนจดทะเบียนไม่น้อยกว่า 5 ล้านบาท
- ต้องมีสถานที่เก็บข้าวสารที่มีความจุได้ไม่น้อยกว่า 500 ตัน กรณีบริษัทที่มีทุนจดทะเบียนไม่เกิน 20 ล้านบาท และไม่น้อยกว่า 1,000 ตัน กรณีบริษัทที่มีทุนจดทะเบียนเกิน 20 ล้านบาท
ทั้งนี้ รายละเอียด ขั้นตอน และเงื่อนไขในแต่ละธุรกิจไม่เหมือนกัน แนะนำศึกษาข้อมูลทั้งหมดที่ www.moc.go.th จะดีที่สุดค่ะ ขืนนำมาเล่าตรงนี้ทุกประเภทธุรกิจ รับรองว่า สามวันสามคืนก็อ่านไม่จบแน่ ๆ อิอิ
2. รู้จักประเทศที่จะส่งออกและศึกษากฎระเบียบให้ดี
ส่งออกไม่ยากอย่างที่คิด หากคุณขออนุญาตแล้ว มีผู้ขาย (ผู้ส่งออก) จะต้องมีผู้ซื้อ (ผู้นำเข้า) เพื่อส่งออกสินค้าได้อย่างสมบูรณ์ คุณจะต้องรู้กฎระเบียบ เช่น รายละเอียดหีบห่อ ฉลากสินค้า ภาษาที่อธิบายตรงฉลากสินค้า ส่วนผสมในอาหาร หรืออื่น ๆ นอกจากนี้คุณจะต้องรู้จักมารยาทการติดต่อธุรกิจ รวมทั้งมารยาทในแต่ละประเทศ ซึ่งเป็นสิ่งเล็กน้อยที่สำคัญมาก !! ห้ามละเลยโดยเด็ดขาด เพราะนี่จะช่วยให้ธุรกิจส่งออกของคุณราบรื่น ค้าขายได้ยาวนาน เช่น การติดต่อธุรกิจกับชาวญี่ปุ่นจะต้องโค้งคำนับ 45 องศา แลกนามบัตร ส่งมอบนามบัตรด้วยมือทั้งสองข้าง พร้อมกับอ่านนามบัตรด้วยท่าทีที่สนใจ จ้องนามบัตรก่อนวางบนโต๊ะอย่างตั้งใจ ส่วนใหญ่ผู้อาวุโสจะเดินนำ และนั่งอยู่ด้านในห้อง เพื่อให้ผู้น้อยนั่งใกล้ประตู อย่างไรก็ดี ห้ามมาเลทเด็ดขาด !! นี่เป็นตัวอย่างบางส่วนเท่านั้นค่ะ
3. ข้อมูลการตลาดต้องแน่นไว้ก่อน
หากมีตลาดมีคู่ค้า คุณต้องรู้จักพฤติกรรมลูกค้า เช่น ชาวกัมพูชาไม่ชอบรอ และไม่ชอบการสะสมแต้ม ชอบซื้อแล้วได้รับสิทธิพิเศษเลย จะมีโอกาสตัดสินใจซื้อมากกว่า ชาวเวียดนามชื่นชอบอาหารสดใหม่มากกว่าอาหารแช่แข็ง เป็นต้น อย่างไรก็ดี คุณสามารถทดลองตลาดด้วยการออกโรดโชว์ ร่วมงานจัดแสดงสินค้าในต่างประเทศ ออกพบเจอลูกค้า และพาร์ทเนอร์ธุรกิจตัวจริง เพื่อศึกษาตลาดให้มากขึ้น สร้างความมั่นใจ มองหาแนวทางการตลาดที่ใช่แบบไม่คิดเองเออเอง หรือคิดแทนลูกค้าตรงนี้สำคัญมว๊าก อ่ะ ถ้าไม่สะดวกลองขายผ่านออนไลน์ก็ได้นะ เดี๋ยวนี้ดีมีอีคอมเมิร์ซให้ทดลองใช้ เช่น Alibaba, Ebay หรือ Amazon ก็ย่อมได้
4. บริหารความเสี่ยงให้ดี
หลังจากดำเนินการทุกอย่าง คุณต้องรู้จักการบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราที่มีความผันผวนตลอดเวลา คุณสามารถใช้บริการสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า (Foreign Exchange Forward Contract) กับธนาคาร เพื่อตกลงอัตราแลกเปลี่ยนล่วงหน้าตามที่เรากำหนด ก็จะช่วยลดความเสี่ยงได้เปราะหนึ่ง อย่างไรก็ดี ต้องดูสัญญาให้ดีนะจ้ะ บริหารความเสี่ยงการขนส่ง ไม่ว่าจะส่งสินค้าทางไหนต้องเลือกสิ่งที่คุ้มทุน คุ้มค่ากับเราที่สุดนะคะ เช่น ควรส่งวัสดุก่อสร้างทางเรือเพราะไม่ด่วนและไม่เสียต้นทุนสูงมากนัก รวมทั้งต้องบริหารความเสี่ยงหากถูกเบี้ยวไม่จ่ายเงิน ด้วยการเลือกเครื่องมือการชำระเงินให้เหมาะสม เพื่อตามเรื่องได้ง่าย ส่วนใหญ่นิยมทำเรื่องผ่านธนาคารเป็นหลัก
นี่ก็เป็นสิ่งที่ต้องรู้ฉบับเบื้องต้น !! ที่ต้องศึกษาไว้ล่วงหน้า เตรียมพร้อมก่อนส่งออกให้ได้อย่างเซียนล่ะจ้ะ อยากให้ผู้เขียนนำเรื่องราวส่งออกไปประเทศไหนมาเล่าให้ฟังอีก สามารถบอกกันได้นะคะ
___
ที่มา: exim.go.th, ditp.go.th
เรื่อง: Butter Cutter
RECOMMENDED CONTENT
ปฏิเสธไม่ได้ว่าในปี 2563 กระแสรักสุขภาพ เป็นหนึ่งกระแสที่ผู้คนหันมาให้ความสำคัญและใส่ใจกันอย่างมาก ภาพยนตร์โฆษณาชุด “Bok choy” ถือเป็นภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่จาก สสส. ที่ได้รับเสียงตอบรับที่ดีทั้งในและนอกประเทศในขณะนี้