Blue Label Ghost and Rare ‘Port Dundas’ ลิมิเต็ด อิดิชั่น รีลีสที่ 5 จากโรงกลั่นที่ปิดไปแล้วอายุมากกว่า 200 ปี
ทำไมต้องลิมิเต็ด อิดิชั่น ?
ต้องเล่าให้ฟังก่อนว่า Blue Label ตัว ลิมิเต็ด อิดิชั่น เป็น Blended Whiskey ที่มาจากโรงกลั่นหลายๆโรง และในทุกรีสีล ก็จะมีโรงกลั่นที่หายาก เก่าแก่หรีอปิดไปแล้ว มาเป็นส่วนผสมอยู่ และถูกควบคุมอย่างใกล้ชิดโดย มาสเตอร์เบลนเดอร์ของ จอห์นนี่ วอล์กเกอร์
Johnnie Walker Blue Label Ghost and Rare Port Dundas เป็นลิมิเต็ด อิดิชั่น ของ Blue Label รีลีสที่ 5
ต่อจาก Johnnie Walker Blue Label Ghost and Rare Pittyvaich (2021) รีลีสที่ 4
Johnnie Walker Blue Label Ghost and Rare Glenury Royal (2019) รีลีสที่ 3
Johnnie Walker Blue Label Ghost and Rare Port Ellen (2018) รีลีสที่ 2
และ Johnnie Walker Blue Label Ghost and Rare Brora (2017) รีสีลตัวแรก ซึ่งแต่ละอิดิชั่น แม้จะมีความแตกต่างในรสชาติ แต่ความพิเศษที่เหมือนกันคือ สัมผัสนุ่มลึกของวิสกี้จากโรงกลั่นที่ปิดตัวไปแล้ว
ดร.เอ็มมา วอล์กเกอร์ มาสเตอร์เบลนเดอร์ของ จอห์นนี่ วอล์กเกอร์
Blue Label Ghost and Rare หรือซีรี่ส์ลิมิเต็ด อิดิชั่น รีลีสที่ 5 ในชื่อ “Johnnie Walker Blue Label Ghost and Rare Port Dundas” ที่ผ่านการบ่มและกลั่นมาอย่างยาวนานจากโรงกลั่น Port Dundas หนึ่งในโรงกลั่นเก่าแก่อายุกว่า 200 ปี และดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลกซึ่งปิดตัวไปแล้ว ณ เมืองกลาสโกว์ สก็อตแลนด์
ซึ่งเป็นลิมิเต็ด อิดิชั่น ตัวแรกที่รังสรรค์โดยดร.เอ็มมา วอล์กเกอร์ มาสเตอร์เบลนเดอร์ของ จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ และทีมผู้เชี่ยวชาญผลิตวิสกี้ ที่ได้คัดสรรวิสกี้ Blue Label ที่ผ่านการบ่มอย่างยาวนานและกลมกล่อมในถังไม้โอ๊ค ซึ่งในจำนวน 10,000 ถัง มีเพียง 1 ถังที่มีคุณสมบัตินำมาคัดสรรสำหรับ Blue Label ได้ เพื่อรสชาติที่ละมุนนุ่มลึก พร้อมแผ่กระจายทั่วต่อมรับรส ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นวานิลลา แอปเปิ้ล ลูกพีช เบอร์รี่ กลิ่นสโมค และอีกมากมายที่แม้คุณเองก็คงยากที่จะอธิบายต่อสัมผัสลุ่มลึกนี้ ทั้งหมดนี้ไม่เพียงเพื่อให้ Johnnie Walker Blue Label Ghost and Rare “Port Dundas” มีความเป็นเอกลักษณ์พิเศษ แต่ยังสะท้อนคาแรคเตอร์ของนักดื่มที่เปี่ยมไปด้วยพลังและกล้าดึงความพิเศษของตนเองออกมา
RECOMMENDED CONTENT
แซมรู้สึกว่ายังเป็นแค่จุดเริ่มต้นเล็กๆ ของแซมมากๆ แซมยังเป็นคนนึงที่แซมมองเรื่องดนตรีเป็นเรื่องของความสนุกอยู่ แซมชอบที่จะได้ทดลองเพลงต่างๆ วิธีการเขียนต่างๆ เหมือนกับดนตรีมันยังเป็นงานอดิเรกของแซมด้วย แล้วพอเราได้ออกมาทำเป็น Job ด้วยจริงๆ มันก็แฮปปี้ดี ไม่รู้ว่าจะเรียกตัวเองว่าศิลปินเต็มตัวได้ไหม แต่ว่าก็ทำอยู่เรื่อยๆ