งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ กำลังใกล้เข้ามาทุกทีๆ ถ้านักอ่านลองสังเกตดู แต่ละปีก็จะมีกระแสที่เริ่มเกิดขึ้นต่างกันออกไป อย่างปีที่แล้ว เรากล้าบอกได้เลยว่า หนังสือจากฝั่งสำนักพิมพ์แซลมอน สร้างการเคลื่อนไหวที่ชัดเจน ด้วยพ็อคเก็ตบุ๊คของคนรุ่นใหม่หลากหลายเรื่องราว ภาษาย่อยง่าย อ่านสนุก อ่านเพลิน เป็นที่ชื่นชอบของใครหลายๆคน เราเริ่มเห็นว่า “นักเขียน” เป็นคำที่ดูเจือจางลงไป เพราะคนอาชีพต่างๆทั้งฝั่งศิลปะหรือฝั่งใดๆก็เริ่มมาเขียนหนังสือกันเยอะขึ้น แต่สำหรับปีนี้เท่าที่เราดูๆมา รู้สึกว่าเทรนด์หนังสือภาพถ่ายกำลังมาแรงมากๆ เอาล่ะ หลากหลายสำนักพิมพ์เริ่มทำโฟโต้บุ๊คกันออกมา เราลองไปไล่ดูกันดีกว่าว่าแต่ละสำนักพิมพ์มีหนังสือใหม่อะไรออกมาบ้าง
สำนักพิมพ์ KOOB (Main Foyer X09)
สำนักพิมพ์ของนักเขียนขวัญใจมหาชน นิ้วกลม ปีนี้เขาและ ชิงชิง กฤชเทียมเมฆ มีหนังสือออกใหม่มาทั้ง 3 เล่ม ที่ตอนนี้แฟนๆหลายคนน่าจะกำลังเตรียมเก็บเงินซื้อเรียบร้อยกันแล้วล่ะเราว่า 2 เล่มแรกเป็นผลงานใหม่ของนิ้วกลม “เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่” และ “กาลครั้งหนึ่งสอนให้รู้ว่า” ยังคงเป็นงานเขียนที่ให้ข้อคิดและแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิต ตามสไตล์ของนักเขียนคนนี้ ในส่วนของ เหตุใดเราจึงยังมีชีวิตอยู่ พูดถึงแนวคิดที่ตัวผู้เขียนตั้งคำถามกับโลกใบนี้ ส่วนกาลครั้งหนึ่ง… เป็นการใช้นิทานและกวีประกอบกับภาพวาดประกอบลายเส้นดูสบายตาของ “จัง” ส่วนหนังสือของ ชิงชิง ที่ทำออกมาชื่อว่า “รักคือการขอบคุณกันและกัน” เป็นลายเส้นภาพวาดน่ารักๆและงานเขียนอ่านแล้วยิ้มได้ ใครที่รอคอยสามเล่มนี้อยู่ ไม่ต้องห่วง อีกสามวันเราไปเจอกันที่บูธแน่นอนจ้า!
สำนักพิมพ์ Salmon (Main Foyer X07)
ปีที่แล้วทำเอาคนอัดแน่นฮอลล์ เดินแทบไม่ได้เพราะต่อคิวซื้อหนังสือของแซลมอนมาแล้ว บรรดาคนเขียนหนังสือของสำนักพิมพ์ปลาฟอนต์ส้มจะกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง ปีนี้พวกเขามีหนังสือทำออกทั้งหมดหลากหลายเล่มมาก (ถึงตอนนี้ยังทยอยปล่อยมาเรียกน้ำย่อยเรื่อยๆไม่ซ้ำเลย) เราหยิบมาแนะนำทั้งหมด 3 เล่มที่ดูจะมีกระแสพูดถึงกันเป็นพิเศษ นำหน้ามาด้วย “Once Ubon a Time” ผลงานของ เบ๊น—ธนชาติ ศิริภัทราชัย คนถ่ายภาพและคนเขียนหนังสือที่ทำอะไรออกมาดูจะเป็นกระแสพูดถึงไปหมดทุกครั้ง มาพร้อมกับภาพถ่ายอุบลเมืองชิคๆของเขา หรือนักวาดภาพประกอบอย่าง Sarhed Toy ก็กลับมาพร้อมกับลายเส้นฮาๆ เนื้อเรื่องกวนๆอีกครั้งใน “KOREA DIARY มนุษย์โกอันยอง” เล่าเรื่องการเที่ยวเกาหลีครั้งนี้ โอเค สองเล่มแรกก็ว่าน่าสนใจแล้ว แต่สำหรับเราที่น่าจะอยากเห็นมากคือเล่มที่สาม ชื่อว่า “girl friend” เป็นโปรเจคต์พิเศษทำร่วมกับเพจ A Girl Like You (ดูแค่รูปในเพจก็น่าฮักค่อดๆล้าว) นำสามช่างภาพมาเจอกับสามสาวหน้าใสในเมืองไทย ทำโฟโต้บุ๊คนอนดูสบายตาในซัมเมอร์นี้ เห็นทีต้องไปต่อคิวอีกแล้วแหงมๆ ฮือ… ที่โซน Main Foyer ฮือ… บูธ X07 ฮือ แนะนำให้ลองดูรายละเอียดเล่มอื่นๆที่จะวางขายเช่นกันในเพจ Salmon Books ด้วยนะ มีอีกเพียบ
สำนักพิมพ์เคล็ดไทย (Zone C1 P02)
สำนักพิมพ์เก่าแก่ของบ้านเรา ที่หนังสือแปลของพวกเขาส่วนใหญ่มักจะมีเนื้อหาความรู้น่าสนใจ มองแว่บแรกอาจจะดูเป็นวิชาการหนักๆ แต่พวกเขาเขียนมาแบบย่อยง่าย อ่านสนุก สามารถเพิ่มรอยหยักสมองได้ดี สำหรับปีนี้หนังสือใหม่ของพวกเขามีเล่มที่น่าสนใจ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเนื้อหาวิชาการประวัติศาสตร์เหมือนอย่างเคย หนึ่งในนั้นคือ “เจ้าหญิงนินทา : เรื่องจริง (ไม่อิงนิยาย) จากประวัติศาสตร์อันยาวนาน” งานเขียนของ Linda Rodriguez McRobbie ที่ดูน่าสนใจ พูดถึงเรื่องของเจ้าหญิงที่อาจจะไม่ได้เหมือน “เจ้าหญิง” ในอุดมคติของใครหลายๆคน เล่าเรื่องราวแปลกแต่จริงที่เราไม่เคยรู้มาก่อนของเจ้าหญิงชื่อดังในโลก แปลโดย อลิสา สันตสมบัติ เราว่าเล่มนี้น่าจะเป็นหนังสืออ่านเวลาว่างได้เพลินๆ หยิบมาอ่านพลางๆ ได้ความรู้ด้วยสนุกด้วย
สำนักพิมพ์กำมะหยี่ (Planery Hall E01)
อ้าวๆๆ ไหนสาวก Murakami ขอเสียงหน่อย รู้รึยังว่าปีนี้พวกเรามีเรื่องให้ต้องเสียเงินกับสำนักพิมพ์หนังสือสันม่วงกันอีกแล้วนา แหม่ ก็อยู่ดีๆกำมะหยี่ก็ไปหยิบเอางานรวมเรื่องสั้นของ Haruki Murakami มาพิมพ์ครั้งใหม่ออกมาพร้อมกันถึง 3 เล่ม! แถมเท่านั้นยังไม่พอ ยังมีภาพหน้าปกและภาพประกอบด้านในเป็นผลงานของศิลปินไทยลายเส้นสะดุดตาอีกด้วย!! เอาล่ะสิ เงินหมดแน่งานนี้!!! แม่!!!!! เริ่มตั้งแต่ “เส้นแสงที่สูญหาย เราร้องไห้เงียบงัน (Firefly, Barn Burning and other stories)” มาพร้อมภาพประกอบของ ปิยพัชร์ จีโน (Art Jeeno) / “คำสาปร้านเบเกอรี (The Second Bakery Attack)” มาพร้อมภาพประกอบของ วิมลพร รัชตกนก / และเล่มที่สาม “ปีศาจแห่งเล็กซิงตัน (Lexington Ghosts)” มาพร้อมภาพประกอบของ โลเล ใครที่มีพิมพ์เก่าอยู่แล้ว เป็นไรแน่นอน เพราะต้องซื้อใหม่ครับ แนะนำเลย ส่วนใครอยากมองหางานพิมพ์ครั้งแรก เล่มใหม่ ก็มีวรรณกรรมแปล “นักล้วง (Suri – The Thief)” ของ ฟุมิโนริ นาคามุระ ที่หลายคนอ่านแล้วบอกว่าสนุกมากๆ ครับ เจอกัน
สำนักพิมพ์ Sunday Afternoon วางขายบูธ Typhoon Studio (Planery Hall E03)
สำนักพิมพ์บ่ายวันอาทิตย์ หนึ่งในเครือของ Typhoon Studio ปีนี้มีสามเล่มใหม่พิมพ์ครั้งแรกสดๆจากเตาหมดเลย ไม่รู้สิ แต่ทำไมพอเห็นหนังสือของสำนักพิมพ์นี้ทีไร เรารู้สึกว่ามันมีกลิ่นอายของ Sunday Afternoon ชัดเจนเหลือเกิน กล่าวคือ วรรณกรรมที่ดูเหมือนจะธรรมดา หากมองผ่านก็อาจมองข้าม แต่เมื่อใช้เวลากับมันแล้วจะรู้ว่าพวกเขาคัดเลือกมาอย่างดีขนาดไหน (อาจเป็นเพราะหน้าปกเรียบๆซื่อๆด้วยมั้ง 🙂 ) เล่มแรกเป็นผลงานของ George Orwell “Burmese Days” แปลไทยเป็น “พม่ารำลึก” โดย บัญชา สุวรรณานนท์ เล่มที่สองเป็นฝั่งญี่ปุ่นกันบ้าง “หญิงสาวในแสงตะวัน” เขียนโดย โอซามุ โคชิงายะ แปลโดย น้ำทิพย์ เมธเศรษฐ และเล่มสุดท้ายเป็น Take Me to Osaka โดย ปาลิดา พิมพะกร ผู้เขียนคนนี้แฟนๆคนอ่านคงทราบกันดีว่าเธอเป็นเหมือนเซียนเขียนหนังสือเกี่ยวกับญี่ปุ่น มีเล่มไหนออกมาทีไร ก็อ่านเพลินทุกที เราเชื่อว่าเล่มนี้เองก็เช่นกัน เอาล่ะ ไปตามหาสามเล่มนี้ได้เลยที่บูธ Typhoon Studio
สำนักพิมพ์สามัญชน (Main Foyer X06)
สำนักพิมพ์ที่หนังสือของพวกเขาเป็นเหมือนยาขมชั้นดี หลากหลายเล่มและการตีพิมพ์งานแปลของนักเขียนระดับโลกที่ดูจากภายนอกอาจจะดูหนักหน่วงอ่านยาก แต่ถ้าลองได้ใช้เวลาคงสามารถทำให้คนเป็นคนมาได้แล้วนับไม่ถ้วน และในงานหนังสือปีนี้พวกเขาก็มีเซอร์ไพรซ์ให้เราตั้งตารอ ไม่น้อยหน้าเพื่อนๆวรรณกรรมรุ่นเยาว์ในบูธอื่นๆเหมือนกัน กับการวางจำหน่าย “ช่อการะเกด 56 (ฉบับเฉพาะกิจ)” นิตยสารที่นักอ่านชาวไทยทราบกันดีว่า หัวนี้มีเล่มใหม่ออกมาทีไร หยุดวงการขนาดไหน อาจจะหายหน้ากันไปนาน แต่ไม่ได้หายจากไปไหน เล่มนี้รวมเอานักเขียนร่วมสมัยหลายคน มาแสดงออกทางความคิดกันแบบไม่มีอั้น มีข้อแม้คือห้ามสั่งจอง ห้ามวางแผงขายที่ไหน ต้องมาเจอมาซื้อกันที่บูธ ที่งานหนังสือปีนี้เท่านั้น ตีพิมพ์ออกมาทั้งหมดจำนวน 500 เล่ม ตามคำกล่าวของผู้ทำคือ ขายจนกว่าจะขายหมด หรือไม่ก็จบสัปดาห์หนังสือ จบแล้วจบกัน ใครที่อยากเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์วรรณกรรมไทย เล่มนี้จะเป็นอีกแรร์ไอเทมที่คุณควรมีไว้ครอบครองแน่นอน
สำนักพิมพ์มติชน (Zone Plaza)
มาถึงมุมของสำนักพิมพ์ใหญ่กันบ้าง ปีนี้มาพร้อมกับธีมจักรวาลระหว่างบรรทัด ที่จะพาคุณไปท่องความรู้แบบต่างๆจากหนังสือหลากหลายสไตล์ของสำนักพิมพ์ เอาที่พิมพ์ใหม่ครั้งแรกสดๆร้อนๆ เราคัดมาแนะนำสองเล่มนั่นคือ “ประวัติย่อของตัวผม (My Brief History)” โดย Stephen Hawking งานเขียนชีวประวัติของ นักฟิสิกส์ Stephen Hawking ที่เพิ่งจะมีหนังเรื่อง The Theory of Everything เข้าโรงฉายและเป็นที่ชอบของใครหลายคนไปหมาดๆ ใครที่ยังอินกับหนังไม่จบ ก็มาอ่านเล่มนี้ต่อได้ และอีกเล่มหนึ่งก็อินกับหนังเช่นกัน “The Science of Interstellar ทะลุมิติวิทยาศาสตร์กับอินเตอร์สเตลลาร์” โดย Kip Thorne นักฟิสิกส์ที่อยู่เบื้องหลังแนวคิดทำหนังเรื่องนี้นี่ล่ะ สองเล่มนี้จะพาผู้อ่านไปล้วงความลับวิทยาศาสตร์อวกาศ ตามธีมของมติชนปีนี้เลย แอบได้เห็นลายเส้นของศิลปินหญิง ยุรี เกนสาคู มาร่วมแจมวาดโปสเตอร์มนุษยอวกาศด้วยแล้ว รู้สึกเลยว่าปีนี้งานหนังสือจะต้องคึกคักมากๆ
สำนักพิมพ์เม่นวรรณกรรม บูธ Alternative Writers (Planery Hall G02)
ผลงานของกลุ่มนักเขียนทางเลือก ที่ปีนี้อาจจะไม่มีเล่มใหม่ออกมาให้เห็น แต่แฟนๆก็ไม่ต้องน้อยใจไป เพราะมีการตีพิมพ์แบบ Limited ของหนังสือเล่มดัง “ความโดดเดี่ยวทั้งมวลที่ไม่มีใครสังเกตเห็น” ผลงานของ นิวัติ พุทธประสาท เป็นพิมพ์ครั้งที่ 2 ที่มีการปรับนิดๆหน่อยๆ เรื่องของขนาดฟอนต์ แก้คำผิด แก้ไขภาพประกอบที่ไม่ชัด แต่ที่สำคัญคือวางขายจำนวนจำกัดในงานนี้เท่านั้น! ใครที่เป็นแฟนของนักเขียนคนนี้อยู่ก็สามารถแวะเวียนไปจับจองเป็นเจ้าของกันได้ หรือยังไงก็ยังมีอีกหลายเล่มที่น่าสนใจในบูธนี้ เราว่าใช้เวลาไปยืนดูสักแว่บ ก็ไม่เสียหลาย สำหรับงานของ Alternative Writers ทางเลือกใหม่ของเมืองไทย
สำนักพิมพ์สวนเงินมีมา (Zone C1 O17)
ปีนี้ถึงแม้ว่า สำนักพิมพ์ผีเสื้อ จะไม่มีวรรณกรรมเยาวชนแปล เล่มใหม่หรือปกใหม่ออกมาเลย ใครที่เป็นแฟนๆชอบอ่านไม่ต้องเสียใจไป เพราะทางสำนักพิมพ์สวนเงินมีมา มีหนึ่งเล่มที่น่าสนใจ นั่นคืองานวรรณกรรมฉบับแปลของ “Maïté coiffure” ของ Marie-Aude Murail (มารี-โอ๊ด มูรัย) นักเขียนผู้หญิงชาวฝรั่งเศส ที่มีงานเขียนวรรณกรรมเยาวชนน่าสนใจมากมาย เรื่องนี้มีชื่อไทยว่า ห้องแต่งผมไมเต้ แปลโดย เย็นตา เรื่องราวที่ทั้งสนุกและได้แง่คิด ใครที่กำลังมองหาแรงบันดาลใจดีๆ ลองหยิบหนังสือเล่มนี้มาอ่านดู รับประกันว่าอาจจะช่วยได้ไม่มากก็น้อยล่ะ
สำนักพิมพ์บางลำพู วางขายบูธของ Writer (Planery Hall G05)
ปีนี้สำนักพิมพ์บางลำพู ของนักเขียนไทยร่วมสมัย “วรพจน์ พันธุ์พงศ์” ได้ส่งหนังสือใหม่ออกมาทั้งหมด 2 เล่ม “อย่างน้อยที่สุด” และ “ปรารถนา” เล่มหนึ่งเป็นการพิมพ์ใหม่ครั้งที่ 3 ของ บทสัมภาษณ์กับผู้กำกับหนัง เป็นเอก รัตนเรือง นักทำหนังที่มีลายเซ็นการทำหนังอันชัดเจน (เราว่าถ้าเปรียบเทียบสองแขนงศิลปะแล้ว ทั้งคู่จัดเป็นศิลปินที่มีลายเซ็นชัดไม่ต่างกันเลย) ส่วนอีกเล่มคือผลงานตีพิมพ์ใหม่ ความเรียงชื่อเรื่องว่า “ปรารถนา” หน้าปกเป็นผลงานภาพวาดสีน้ำของ ตะวัน วัตุยา นี่ก็เป็นศิลปินภาพเขียนที่มีผลงานโด่งดังไปถึงต่างประเทศอีกเช่นกัน ใครที่เป็นแฟนงานของนักเขียนคนนี้ ลองไปตามหาดูในงานได้ ที่มีวางให้เห็นแน่ๆที่แรกก็คือที่บูธ Writer ล่ะ
สำนักพิมพ์ a book (Planery Hall L34)
ปีนี้ a book ดูจะมาแรงแต่ไกล กับการรวบรวมเอานักเขียนหน้าใหม่ที่เป็นที่จับตามองและชื่นชอบของใครหลายๆคนบนโลกออนไลน์ มาทำหนังสือเล่มของพวกเขากัน จากที่ปล่อยวารสาร abooker journal มาเรียกน้ำย่อยกันมาพักใหญ่ๆแล้ว (ใครที่ยังไม่ได้อ่านลองไปหาหยิบกันได้) หนึ่งในนั้นคือหนังสือ “Gluta Story” เรื่องราวหมาน้อยกลูต้า (และน้องกอลลั่ม) เซเลปโลกออกไลน์ที่งานนี้เจ้าของ สรศาสตร์ วิเศษสินธุ์ ลงมือจับปากกาเขียนบอกเล่าเองกับมือ แถมมีรูปถ่ายสวยๆด้วยฝีมือของเขาเองประกอบในเล่มด้วย เท่านี้ก็น่าจะทำให้แฟนๆเจ้ากลูต้าตั้งตารอกันใหญ่แล้ว นอกจากนั้นยังมี “ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา” โดย อาย กมลเนตร / “Walking on the Sun ทุกๆ วันบนดวงอาทิตย์” โดย ชนพัฒน์ เศรษฐโสรัถ หนังสือรวมภาพถ่ายและงานเขียนของช่างภาพ a day ที่ใช้ชีวิตอยู่ประเทศญี่ปุ่น / “อยู่ญี่ปุ่นอย่างหมาป่า” โดย นัท ศุภวาที โอย และอีกหลากหลายเล่มเลย นี่แค่สี่เล่มเท่านั้นนะ พี่อะบุ๊คเขาขนมาเป็นสิบๆ ลองไปติดตามอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมกันได้ที่เพจของ a book แล้วไปเจอกันที่บูธเด้อลา
Writer: Pakkawat Tanghom
RECOMMENDED CONTENT
เรียกได้ว่าเป็นศิลปินสาวฮิปฮอปหน้าใหม่ที่น่าจับตา เพราะเธอพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าไม่จำเป็นต้องแสดงให้เห็นใบหน้าใดๆ ของเธอเลย ผลงานเพลงของเธอเท่านั้นที่เป็นดั่งเวทมนตร์ให้ทุกคนได้จดจำ