‘มูลนิธิพุทธจตุปาริสา’ มูลนิธิที่ส่งเสริมและสนับสนุนการทนุบำรุงพระพุทธศาสนา โดยการเผยแผ่คำสอนตามหลักพระธรรมตามไตรปิฎก ทั้งมุ่งเน้นให้พุทธบริษัท 4 เกิดความเข้าใจในบทบาทและหน้าที่ ในฐานะผู้ขับเคลื่อน และทะนุบำรุงศาสนาให้ยั่งยืนสืบไป จัดแสดง นิทรรศการพุทธ(ไร้)กาล : Buddha Time Through Time ชวนชาวพุทธตั้งคำถามต่อบทบาทหน้าที่ของตนเอง ต่อการสืบทอดพุทธศาสนาใ่ห้ดำรงอยู่สืบไปในเมืองไทย
โดยการจัดแสดงงาน 3 ส่วน ได้แก่ The Story of Buddha Catu Parisa ที่ต่อยอดจากผลงานแอนิเมชันที่คว้ารางวัล Merit – Animated Short Film จากงานเทศกาลภาพยนตร์ในนิวยอร์ก นำผู้ชมกลับสู่จุดกำเนิดพุทธบริษัท 4 ในสมัยพุทธกาล A Wise Calling โครงการจัดทำภาพยนตร์ที่จะสร้างแรงบันดาลใจ ให้แก่ผู้ผู้คนที่กำลังค้นหาคำตอบของชีวิตที่รอคอยมาแสนนาน ด้วยการเข้าถึงธรรมะของพระพุทธองค์ การจัดแสดงภาพผลงานถ่าย ผ่าน 3 มุมมองช่างภาพคนรุ่นใหม่ ประกอบด้วย ‘จีวร’ โดย สุนันท์ ล้อสมทรัพย์ ‘ต่างไม่แตกต่าง’ โดย ทศวรรษ วณิชกิจการชัย และ ‘Buddhist Devotion’ โดย วรรษมน ไตรยศักดา
กระบวนการถ่ายภาพของช่างภาพรุ่นใหม่ทั้ง 3 คน เป็นการเข้าไปใช้ชีวิตอยู่ใน ‘พุทธจตุปาริสาอุทยาน’ ได้เห็นวิถีปฏิบัติของภิกษุ ภิกษุณี และบรรดาผู้มีจิตศรัทธา พร้อมซึมซับธรรมะจากผู้รู้ในช่วงเวลาที่แตกต่างกัน จากประสบการณ์ชีวิตที่แตกต่างกัน นำมาสู่ผลลัพธ์ภาพถ่ายที่สะท้อนความงดงามและเรื่องราวออกมาคนละแบบ
สุนันท์ ล้อสมทรัพย์ ช่างภาพอิสระ อดีตช่างภาพหนังสือพิมพ์ ผู้ชื่นชอบการถ่ายภาพวิถีชีวิตที่สะท้อนความเป็นอยู่ของผู้คน ธรรมชาติ และความเชื่อ ผู้ถ่ายทอดความรู้สึกด้วยผลงาน ‘จีวร’ เธอเล่าว่า “เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้รู้ว่าภิกษุครองไตรจีวร คือมี 3 ชิ้น ภิกษุณีครองปัญจจีวร คือมี 5 ชิ้น จีวรแต่ละชิ้นที่เป็นมากกว่าแค่การนุ่งห่ม แต่แฝงไปด้วยพระธรรมวินัย หรือแม้แต่กระบวนการให้ได้มาซึ่งจีวร ก็มีวิธีปฏิบัติตามพระธรรมวินัยอยู่ มีเรื่องราวที่เล่าได้มากมาย ทำให้ทึ่งกับธรรมะของพระพุทธเจ้าว่า สามารถดำรงอยู่ในทุกวัตถุ ทุกการปฏิบัติในชีวิต”
ขณะที่ ทศวรรษ วณิชกิจการชัย ช่างภาพมืออาชีพ ที่ได้การยอมรับจากหลายเอเจนซี ด้วยการเล่าเรื่องราวผ่านมุมมองที่น่าสนใจ เน้นสื่อสารอารมณ์และความรู้สึก เจ้าของผลงาน ‘ต่างไม่แตกต่าง’ ทศวรรษผู้ผ่านการบวชเรียนมาเรียบร้อยแล้ว ก็เล่าถึงความประทับใจที่ได้เห็นการอยู่ร่วมของพุทธบริษัท 4 และได้เห็นการทำสังฆกรรมร่วมกันของภิกษุและภิกษุณี ว่า “การถ่ายทำในช่วงเช้ามืด แสงที่น้อยทำให้แยกแทบไม่ออกเลยว่ารูปใดเป็นภิกษุหรือภิกษุณี จนเมื่อฟ้าสว่างถึงได้เห็นรายละเอียดบางอย่างที่แตกต่างกัน เป็นแรงบันดาลให้อยากสื่อสารว่าในความหลากหลายของมนุษย์เต็มไปด้วยความแตกต่าง สิ่งมนุษย์มีไม่ต่างกันคือความปรารถนาที่หลุดพ้นจากความทุกข์ที่พระพุทธองค์ทรงเห็นว่าการเวียนว่ายตายเกิดนั่นแหละที่เป็นเหตุ จึงเสนอในภาพที่คนในภาพจะดูเหมือนกันก็ได้ หรือจะดูว่าต่างกันก็ได้ เป็นความขัดแย้งที่ทำให้ชวนคิด”
ขณะที่ช่างภาพประจำสำนักข่าวที่มีความสนใจในประเด็นความหลากหลายทางเพศ อย่าง วรรษมน ไตรยศักดา ช่างภาพอาสาที่อายุน้อยที่สุดที่มาร่วมในโปรเจคนี้ ผู้ได้สัมผัสกับสิ่งที่ไม่เคยได้เห็นมาก่อนในชีวิต ถ่ายทอดผลงานออกมาในชื่อ ‘Buddhist Devotion’ กล่าวว่า “ภาพที่ถ่ายทอดออกมา คือ บรรยากาศพิธีอุปสมบทของสามเณรี โดยภิกษุณีซึ่งได้รับการอุปสมบทจากศรีลังกา ถือเป็นพิธีหาชมได้ไม่ง่ายนัก สามเณรีรูปนี้ได้รับฉายาว่าวิสังขารคตสังวรญาณวิวัฏฎมหินทรสังคมติตตาธรรมปาละเถระวาทะพละโพธิสามเณรี ซึ่งท่านจะจำพรรษาอยู่ที่พุทธจตุปาริสาตลอดการเข้าพรรษานี้”
ผู้แทนการจัดงาน นาเดีย หลิน เลขาธิการมูลนิธิพุทธจตุปริสา (ประเทศไทย) กล่าวว่า “การเปลี่ยนแปลงของวัฒนธรรม ความเจริญของบ้านเมือง และวิถีชีวิต อาจทำให้ชาวพุทธหลงลืมบทบาทหน้าที่ของตัวเองในฐานะศาสนิกชน ซึ่งจะส่งผลต่อการสืบทอดพระพุทธศาสนาในเมืองไทย งานนิทรรศการนี้จึงมุ่งให้ผู้เข้าชมเกิดแรงบันดาลใจตั้งคำถามต่อสิ่งดังกล่าว ซึ่งจะนำมาสู่การวางตนให้เหมาะสม และหันกลับมาศึกษาปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้า ซึ่งจะนำมาสู่การสร้างความยั่งยืนต่อไป
งานนิทรรศการนี้เล่าเรื่องบนไทม์ไลน์ ย้อนไปตั้งแต่การก่อกำเนิดพุทธบริษัท 4 ในสมัยพุทธกาล ไล่เรียงเหตุการณ์ต่างๆ มาจวบจนปัจจุบัน เป็นการท้าทายความเชื่อของใครหลายคนที่เชื่อว่ายุคพุทธกาลสิ้นสุดลงไปแล้ว โดยทางมูลนิธิเชื่อว่าเราสามารถนำโลกเข้าสู่พุทธกาลได้เสมอ ตราบใดที่เรายังเดินตามคำสอนของพุทธะ จึงเป็นที่มาของชื่อนิทรรศกาลว่า พุทธ(ไร้)กาล สอดคล้องไปกับพุทธวจนะที่ว่า อกาลิโก คือ ธรรมะหรือคำสอนของพระพุทธองค์อยู่เหนือกาลเวลา”
นิทรรศการ พุทธ(ไร้)กาล : Buddha Time Through Time จัดแสดงระหว่างวันที่ วันที่ 23 กรกฎาคม – 4 สิงหาคม 2562 ณ ชั้น 5 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร แยกปทุมวัน ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
RECOMMENDED CONTENT
หลังจากเปิดตัวอัลบั้มล่าสุด “Nectar” เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Joji ได้ประกาศการแสดงสดผ่านสตรีมมิ่งของเขาที่มีชื่อว่า The Extravaganza ซึ่งเป็นกิจกรรมสตรีมสดที่ไม่เหมือนใครเป็นครั้งแรก และจะเป็นค่ำคืนที่สุดพิเศษและน่าจดจำอีกหนึ่งคืน โดยจะออกอากาศทั่วโลกในวันที่ 24 ตุลาคม เวลา 9.00 น.