ทำงานมาทั้งสัปดาห์มีเวลาหยุดแค่เสาร์อาทิตย์ บอกเลยยังไม่เต็มอิ่ม แต่พอดูปฏิทินเดือนนี้กับเดือนหน้าค่อยใจชื้นขึ้นมาหน่อย เพราะมีวันหยุดยาวจ้า…หลายคนก็วางแพลนกันล่วงหน้าแล้วว่าจะนอนกลิ้งอยู่บ้าน บ้างก็เดินทางออกต่างจังหวัด หรือใครอยากขับรถเที่ยวในกรุงเทพฯ ชิลล์ๆ แบบถนนโล่งก็เช็คลิสต์ที่เที่ยวกันไป
แต่มีสิ่งนึงที่ไม่อยากให้ทุกคนมองข้าม นั่นคือการดูแลรถยนต์คู่ใจของเรา เพราะไม่ว่าจะทริปสั้นระยะใกล้ หรือยาวไปต่างจังหวัดหลายกิโลเมตร ก็ต้องตรวจสอบเช็คสภาพรถก่อนออกเดินทางทุกครั้ง อ่อ! แล้วที่สำคัญ ห้ามปัดความรับผิดชอบให้ศูนย์บริการรถยนต์ตรวจสอบทุกอย่างแทนเรา โดยที่เราไม่สนใจเช็คเบื้องต้นก่อนโดยเด็ดขาด ซึ่งวิธีง่ายๆ ในการตรวจเช็ครถ พร้อมกับเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้รถจะมีอะไรบ้างไปดูกัน
เดินทางใกล้หรือไกลไม่ควรพลาด
ก่อนนำรถไปเข้าศูนย์อยากให้ทุกคนเช็ครถแบบง่ายๆ เพื่อดูปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นพิเศษก่อนนำรถไปเข้าศูนย์ เพื่อจะได้ซ่อมทันเวลาและตรงจุด เริ่มจาก ระบบเบรกและหม้อน้ำ หากรู้สึกว่าเบรกไม่หนึบก็สงสัยได้เลยว่าอาจจะต้องเปลี่ยนผ้าเบรก หรือถ้าให้ชัวร์ก็เช็คระดับน้ำมันเบรกให้อยู่ในระดับที่กำหนด เนื่องจากช่วง 40,000 km. หรือครบ 2 ปี เราต้องเปลี่ยนน้ำมันเบรกกับตรวจดูหม้อน้ำอยู่แล้ว นอกจากใครที่จะเดินทางออกต่างจังหวัด แล้วรถยนต์ใช้งานมาค่อนข้างหนักก็ควรเช็คก่อนเดินทาง
ที่ปัดน้ำฝนและไฟรถยนต์ เป็นจุดที่มองเห็นง่าย ดังนั้นเราจะรู้ได้ทันทีหากส่วนนี้ชำรุดเสียหาย และถ้าถึงเวลาเปลี่ยนแล้วจริงๆ ก็เริ่มจดลิสต์ส่วนนี้เพื่อบอกกับทางศูนย์ฯได้เลย ต่อมา กระจกข้างและกระจกมองหลัง สิ่งนี้ก็มองเห็นได้บ่อยไม่แพ้กัน โดยเฉพาะกระจกมองข้างที่ต้องพับเก็บและกางออกในลักษณะพร้อมใช้งานอยู่ตลอดเวลา นอกจากจะต้องปรับระดับให้เหมาะในการมองแล้ว เรายังต้องเน้นเรื่องทำความสะอาดเพื่อความปลอดภัยตอนขับขี่ หรือถ้าให้แนะนำ ก็เคลือบกระจกรอบคันไปเลย เวลากระจกโดนน้ำฝนจะได้ไม่เป็นคราบจนทำให้มองทางไม่ชัดนั่นเอง
เลือกยางรถยนต์ที่ดี มีชัยไปกว่าครึ่ง
หลังจากนำรถไปตรวจเช็ค และทางศูนย์แจ้งว่าจะต้องเปลี่ยนยางก่อนออกเดินทาง เราก็ต้องเลือกยางยี่ห้อที่คุณภาพดี และเหมาะกับรถยนต์ของเราด้วย เพราะยางรถยนต์ถือเป็นหัวใจหลักของการเดินทาง ไม่ว่าเที่ยวระยะสั้นหรือทางไกล ต้องใส่ใจดูแลช่วงล่างเป็นพิเศษ ยิ่งพอครบกำหนดตรวจเช็คตามระยะที่ต้องทำทุก 6 เดือน หรือ 5,000 กม.แล้ว การเลือกยางรถยนต์ที่มีประสิทธิภาพดี ก็จะทำให้เรามั่นใจได้เรื่องความปลอดภัยขณะขับขี่ได้อย่างเต็มที่ เช่นเดียวกับที่ยางรถยนต์ Continental Tyres Gen6 หนึ่งในผู้นำด้านการผลิตยางรถยนต์ระดับโลกจากเยอรมัน ที่ได้พัฒนาเทคโนโลยีจนเป็นที่ยอมรับ แถมยังใส่ใจผู้ใช้รถด้วยการแบ่งยางรถยนต์เป็น 2 รุ่น เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานรถยนต์ในแต่ละประเภท
อย่างรุ่น ComfortContact CC6 ที่เน้นเจาะกลุ่มผู้ใช้รถยนต์ขนาดเล็กหรือ Eco Car โดยเฉพาะคนที่ส่วนใหญ่ขับอยู่แต่ในกรุงเทพฯ ทั้งวันทำงานหรือแม้แต่วันหยุดก็สามารถเลือกใช้ยางรุ่นนี้ได้ เนื่องจากทุกคนที่นั่งอยู่ในรถจะสัมผัสได้ถึงความเงียบเมื่อรถวิ่ง พร้อมการขับขี่ที่นุ่มสบายด้วย ‘Whisper Compound’ ช่วยลดแรงสั่นสะเทือนจากถนน จึงไม่หงุดหงิดเวลาเข้าซอยแล้วเจอลูกระนาด อีกทั้งยังมีอายุการใช้งานยาวนาน และช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงด้วย
ต่อมาคือรุ่น UltraContact UC6 ที่เอาใจคนขับรถขนาดกลาง และนักเดินทางออกต่างจังหวัดตัวยง เพราะด้วยการควบคุมที่สมบูรณ์แบบจึงให้ทั้งความรู้สึกนุ่มนวลและปลอดภัยแม้จะขับอยู่บนถนนที่เปียก ด้วยร่องบนดอกยางแบบ ‘Aqua Channel’ ที่ช่วยไล่น้ำออกจากร่องดอกยาง เพิ่มประสิทธิภาพในการรีดน้ำได้ดีขึ้น ที่สำคัญขอบลายดอกยางหลบมุมแบบเพชร ยังช่วยให้ระยะเบรกสั้นกว่าไม่ว่าจะบนถนนแห้งหรือเปียก แถมใครที่อยากขับรถขึ้นเขา ฝ่าทางโค้งต่างๆ ก็มั่นใจได้ด้วยส่วนผสมแบบเพชรที่ปรับปรุงใหม่ เพิ่มการยึดเกาะถนนและย่นระยะการเข้าโค้งได้เป็นอย่างดี แถมมีอายุการใช้งานนาน เราจะได้ไม่ต้องกังวลว่าถ้าเที่ยวต่างจังหวัดบ่อยต้องเปลี่ยนยางบ่อยตาม
เป็นยังไงบ้างหลังจากได้อ่านข้อมูลก่อนไปตรวจเช็คสภาพรถและเลือกเปลี่ยนยาง ถ้าใครพร้อมออกเดินทางแล้วก็อย่ารอช้า รีบออกไปหาประสบการณ์ใหม่ๆ ทั้งใกล้และไกลแถมขับขี่ไปด้วยความปลอดภัยได้เลย วันหยุดรอเราอยู่!
วางจำหน่ายที่ร้านตัวแทนจำหน่าย Continental Tyres ทั่วประเทศ
- ComfortContact CC6 สำหรับขนาด 13″ – 17″ ราคาเริ่มต้นเส้นละ 1,900 บาท
- UltraContact UC6 สำหรับขนาด 16″ – 17″ ราคาเริ่มต้นเส้นละ 4,000 บาท
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 02-232-1800
Website : www.continental.co.th
Facebook : www.facebook.com/ContinentalTH
—
RECOMMENDED CONTENT
ROLL-ROYCE จับมือ HERMÈS สร้างสรรค์ PHANTOM ORIBE ด้วยง […]