หากต้องนึกถึงน้ำหอมผู้หญิงอันเลื่องชื่อที่สุดในโลก คุณจะนึกถึงน้ำหอมอะไรเป็นอันดับแรก? คิดว่าคุณผู้หญิงเกือบทุกคนจะต้องนึกถึง Chanel No.5 น้ำหอมสุดคลาสสิคตลอดการจากแบรนด์ฝรั่งเศสอย่าง Chanel ที่ใครหลายคนจะต้องเคยได้ยินชื่อหรือเห็นอยู่บ่อยครั้งตามโฆษณาและหน้านิตยสารแฟชั่นต่างๆ และเราก็เชื่ออีกล่ะว่า ถึงแม้ตัวคุณเองอาจจะไม่มีน้ำหอม Chanel No.5 เป็นของตัวเอง แต่คุณแม่หรือแม้แต่คุณยายของคุณจะต้องมีน้ำหอมขวดนี้เก็บอยู่ในห้องแต่งตัวแน่นอน สงสัยใช่ไหมล่ะ ว่าทำไม Chanel No.5 ถึงเป็นที่หลงใหลและคลั่งไคล้สำหรับผู้หญิงจากทุกยุคทุกสมัยกันนัก วันนี้เราจะมาไขข้อสงสัยของคุณ โดยจะเล่าถึงประวัติความเป็นมาของน้ำหอม Chanel No.5 ที่คุณเองอาจจะไม่เคยรู้มาก่อน
Chanel No. 5 คือน้ำหอมอันแรกของ Chanel ที่ออกวางจำหน่ายครั้งแรกเมื่อปี 1921 ซึ่งเป็นช่วงยุคสมัยที่น้ำหอมผู้หญิงส่วนใหญ่ถูกใส่โดยผู้หญิงระดับ high-class ที่มักนิยมใช้น้ำหอมกลิ่นดอกไม้ล้วนๆและโสเภณีชั่นสูงที่ชอบใส่น้ำหอมกลิ่นออกฉุนๆเพื่อยั่วยวนและดึงดูดเพศตรงข้าม Coco Chanel จึงรู้สึกว่าถึงเวลาแล้วที่จะปล่อยน้ำหอมกลิ่นที่มีความเป็นทันสมัยมากขึ้นและเป็นตัวแทนของจิตวิญญาณเสรีชนของคนยุค 1920s ออกมา โดยเธอได้รับความช่วยเหลือจาก Ernest Beaux นักปรุงน้ำหอมชื่อดังชาวรัสเซีย ซึ่งได้คิดค้นน้ำหอมออกมาทั้งหมดกว่า 80 กลิ่น เเละ Coco ก็ได้เลือกน้ำหอมหมายเลข 5 ซึ่งเป็นเลขที่มีความหมายต่อเธอมากที่สุดขึ้นมา น้ำหอมรุ่นนี้ถือว่าเป็นกลิ่นน้ำหอมที่พลิกวงการน้ำหอมในสมัยนั้น หนึ่ง เพราะเป็นครั้งแรกที่มีการตั้งชื่อน้ำหอมโดยใช้เลขเพียงตัวเดียวสอง เพราะน้ำหอมในสมัยนั้นมักสกัดจากพฤษาธรรมชาติ แต่ Chanel No. 5 กลับเป็นกลิ่นที่เป็นสารเคมี โดยใช้สารเคมีสังเคราะห์ชื่อ aldehydes ซึ่งให้กลิ่นซิตรัสผสมกลิ่นดอกไม้ กลิ่นจะค่อนข้างแปลกใหม่และก่อเกิดความรู้สึกเซ็กซี่ลึกลับน่าค้นหา Coco เคยกล่าวเอาไว้ว่าเธอไม่ต้องการให้น้ำหอมของเธอมีกลิ่นของดอกไม้ แต่ควรมีกลิ่นของผู้หญิง ซึ่งสร้างกระแสใหม่ในยุคนั้นได้สำเร็จจนถึงทุกวันนี้ และสาม เพื่อเน้นความสำคัญให้น้ำหอมอย่างเต็มที่ กล่องของน้ำหอมจึงถูกออกแบบให้คงความเรียบง่าย หากมองดูกล่องของ N°5 จะ เห็นความทรงจำของ Coco สะท้อนออกมาบนกล่องสีขาวขลิบดำเหมือนกับขอบหน้าต่างและระเบียงสีขาวในสถานรับเลี้ยงเด็กที่เธอเคยอยู่ในวัยเยาว์ และในส่วนของรูปลักษณ์และดีไซน์ของตัวขวดนั้น Coco ได้เน้นในเรื่องของความเรียบง่าย โดยต้องการให้ตัวขวดทำจากแก้วโปร่งใส ส่วนรูปลักษณ์และขนาดของขวดนั้น ไม่เป็นที่แน่ชัดว่าเธอได้แรงบันดาลใจมาจากไหนแน่ บ้างก็ว่าเธอได้ไอเดียมาจากขวดเครื่องอาบน้ำของแบรนด์เสื้อผ้าผู้ชายในสมัยนั้นอย่าง Charvet ของคนรักของเธอ และบ้างก็ว่าเธอได้แรงบันดาลใจมาจากรูปทรงของขวดวิสกี้ จะอย่างไรก็ตาม น้ำหอมชนิดนี้ได้มีการเปลี่ยนเเปลงในเรื่องของดีไซน์เพียง 5 ครั้ง โดยหลักๆแล้วจะเป็นในเรื่องของขนาดตัวหัวจุกขวดมากกว่ารูปทรงของตัวขวด ในช่วงปี 1950’s ขนาดของหัวจุกได้ถูกปรับเปลี่ยนให้มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิมจากรูปทรงดั้งเดิมของปี 1924 ต่อมาในช่วงปี 1970’s ขนาดของหัวจุกนั้นได้เพิ่มขนาดให้ใหญ่ยิ่งกว่าเดิมและหนากว่ามาก แต่พอมาในปี 1986 ขนาดของหัวจุกก็ได้ถูกปรับเปลี่ยนให้มีขนาดที่เล็กและกระทัดรัดลง คล้ายกับแบบดั้งเดิมเมื่อสมัยก่อน ซึ่งก็ถูกใช้มาจนถึงปัจจุบันนี้
คราวนี้มาพูดถึงเรื่องการตลาดของ Chanel No. 5 กันบ้าง เราขอเริ่มต้นในช่วงยุค 1950s กันเลยแล้วกัน เพราะนี่คือช่วงที่น้ำหอมตัวนี้ดังและได้รับความนิยมอย่างล้นหลามจริงๆ โดยต้องยกความดีความชอบให้กับ sex-symbol ของยุคอย่าง Marilyn Monroe ที่มาตอกย้ำความแรงของภาพลักษณ์ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์เย้ายวนใจของ Chanel No. 5 ด้วยประโยคสุด iconic ในบทสัมภาษณ์หนึ่งว่า “What do I wear to bed? Why, Chanel No. 5 of course” ซึ่งได้กลายเป็นสโลแกนโฆษณาที่ยอดเยี่ยมอันเป็นที่จดจำมาจนถึงวันนี้ และเป็นเหตุผลว่าทำไมผู้หญิงหลายล้านคนทั่วโลกถึงเลือกน้ำหอมนี้ให้เป็น “ที่สุดของน้ำหอมผู้หญิง” ต่อมาในช่วงปี 1960’s นิตยสารแฟชั่นระดับแถวหน้าของโลกอย่าง Vogue และ Bazaar ก็ได้ตอกย้ำในไอเดียนี้หนักกว่าเดิม เมื่อแอดโฆษณา รวมไปถึงคอลัมน์ในนิตยสาร ต่างนำเสนอ Chanel No. 5 ให้เป็น the “it” perfume หรือน้ำหอมที่ผู้หญิงทุกคน “ต้อง” มีเพื่อเพิ่มเสน่ห์ความเป็นผู้หญิงของตัวเอง เห็นได้ชัดจากคำโฆษณาที่ดังไม่แพ้กันจากยุคนั้นที่ว่า “Every woman alive wants Chanel No. 5″ และเรื่อยมาหลังจากยุค 1970’s ที่ Catherine Deneuve นักแสดงสาวจากฝรั่งเศส ได้มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับน้ำหอม Chanel No. 5 น้ำหอมตัวนี้ก็ได้ดาราระดับ A-list มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้อีกหลากหลายคน เริ่มตั้งแต่ Carole Bouquet นักแสดงสาวจากฝรั่งเศส ที่ได้เป็น “the face of Chanel” ประจำยุค 1990 ต่อมาในปี 2003 ที่คราวนี้ได้ Nicole Kidman นักแสดงสาวระดับท็อปของฮอลลีวูด ผู้มีภาพลักษณ์อันงามสง่า สมกับเป็นพรีเซ็นเตอร์ของ Chanel No. 5 เป็นที่สุด มาร่วมงานกับ Baz Luhrmann ผู้กำกับชื่อดังจากภาพยนตร์เรื่อง “Moulin Rouge”, “Australia” และ “The Great Gatsby” มากำกับโฆษณาตัวนี้ของ Chanel ส่วนพรีเซ็นเตอร์คนปัจจุบันของน้ำหอมตัวนี้ ก็คือ Audrey Tautou นักแสดงสาวชาวฝรั่งเศสผู้โด่งดังจากภาพยนตร์เรื่อง “Amélie” ที่พวกเรารู้จักกันดี แต่ที่เห็นจะเซอร์ไพรส์ทุกคนมากที่สุดเมื่อปีที่แล้ว ก็คือการได้ Brad Pitt มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ Chanel No. 5 ซึ่งเขาถือว่าเป็นพรีเซ็นเตอร์ชายคนแรกของประวัติศาสตร์ Chanel เลยทีเดียว และถึงแม้ว่าโฆษณาของ Brad Pitt จะได้รับคำวิจารณ์ที่ไม่ค่อยจะดีนัก แต่ Chanel ก็ทำให้พวกเรารู้แล้วล่ะว่า แม้แต่ Brad Pitt เองก็ยังหลงใหลผู้หญิงที่ใส่น้ำหอม Chanel No. 5 แล้วอย่างนี้จะไม่มีผู้หญิงคนไหนอยากได้น้ำหอมตัวนี้ไปใช้ได้ยังไง?
ส่วนหนึ่งคงจะต้องยกความดีความชอบให้กับแคมเปนโฆษณาต่างๆของ Chanel No. 5 ที่สร้างภาพลักษณ์ของน้ำหอมตัวนี้ให้เต็มไปด้วยความหรูหรา ลึกลับ เย้ายวนใจ และน่าค้นหาของเสน่ห์ของสตรีเพศมาอย่างยาวนานจนสำเร็จ แต่สุดท้ายแล้วคนที่สำคัญที่สุดที่พวกเราจะลืมไปไม่ได้เลยก็คือ Coco Chanel ที่ให้ความสำคัญกับการเป็นเป็นอิสระแห่งเพศหญิง เธอท้าทายสังคม โดยไม่เกรงกลัวต่อสิ่งใดๆ เธอคือผู้ปฏิวัติโลกแห่งแฟชั่นของหญิงสาวอย่างแท้จริง เพราะถ้าไม่มีเธอ พวกเราก็คงจะไม่มีน้ำหอมที่เปรียบเสมือนดั่งตัวแทนของความงดงามแห่งอิสตรีอย่าง Chanel No. 5
Writer: Thip S. Selley
RECOMMENDED CONTENT
พาเที่ยวในโตเกียว ซื้อรองเท้า ให้'สายวิ่ง' เก็บตก ที่เที่ยว ช้อปปิ้ง หลังจากงานวิ่ง Tokyo Marathon . INSIDER JOURNY EP5 : เมื่อ 'สายวิ่ง' เก็บตก Shopping หลัง วิ่งในงาน Tokyo Marathon . Dooddot x Running Insider x Runner’s journey