ยังจำอารมณ์ตอนเด็กๆ เวลาเลิกเรียนแล้วรีบเก็บกระเป๋าพุ่งตัวไปยืนรอรถเข็นขายอาหาร สารพัดอย่าง โตเกียว ข้าวโพดปิ้ง ลูกชิ้นนึ่งหน้าโรงเรียนกันได้ไหมคะ เชื่อว่าหลายคนยังมีบ้างแหละที่คิดถึงโมเมนต์ของการยืนรออย่างใจจดใจจ่อนั้นได้ดี ไม่ว่าวันนี้จะอายุเท่าไรก็ตาม
‘แบกะดิน’ ร้านอาหารลำดับที่ 3 ของเชฟหนุ่มมาดนิ่ง แห่ง Le Du Wine Bar & Restaurant และร้าน Baan (บ้าน) ‘เชฟต้น-ธิติฏฐ์ ทัศนาขจร’ เมื่อเขาอยากพาทุกคนย้อนกลับสู่ความทรงจำนั้นอีกครั้ง ด้วยวิธีเรียบง่ายแต่ลึกซึ้ง กลั่นกรองผ่านมุมมอง ผ่านวัตถุดิบดีๆ และขั้นตอนสุดพิถีพิถัน กว่าจะเป็นอาหารที่เรียกว่า Modern Thai Street Food หรือเรียกให้เข้าใจง่ายไปอีกคืออาหารสตรีทฟู้ดไทยๆ ที่เราคุ้นเคยดีนั่นแหละ ไม่ว่าจะไก่ทอด ลาบเนื้อ ไข่ทอดชะอม ก็ถูกจับมา Twist ใส่ลูกเล่นอันนั้นนิด อันนี้หน่อย เพิ่มเติมเทคนิคการปรุงแบบอาหารฝรั่งให้พิเศษยิ่งขึ้น
ไม่รอช้า เริ่มที่เมนูเรียกย้ำย่อย ลาบเนื้อสด (320 บาท) ใช้ Local Beef ที่ผ่านกรรมวิธี Dry-Aged นานกว่า 30 วัน ทำให้เนื้อนุ่มแทบละลายในปาก นำมาปรุงแบบลาบเลือด ฟังแล้วอาจสยดสยอง แต่ขอบอกว่ามันไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้น ไม่มีกลิ่นคาวของเนื้อสักนิด แถมยังอบอวนกลิ่นหอมสมุนไพรไทยหลากหลายชนิด เช่น ใบมะกรูดซอย แตงกวาดอง เคล้ากับซอสมะขามรสเปรี้ยวอมหวาน ซอสมัสตาร์ดรสเผ็ดนิดๆ และซอสแตงกวาเย็น เป็นสตาร์เตอร์ที่ให้ความรู้สึกสดชื่นมาก
เชฟต้นบอกว่า ยำมะม่วงข้าวโพดย่าง (180 บาท) ‘มีสตอรี่’ เพราะได้แรงบันดาลใจมาจากร้านขายยำมะม่วงและร้านข้าวโพดปิ้งในซอยร้าน Le Du เลยปิ๊งไอเดีย จับทั้ง 2 อย่างมารวมกัน ออกมาเป็นยำมะม่วงรสเปรี้ยวจี๊ดคลุกเคล้ากับข้าวโพดย่างเกรียมกำลังดีหอมๆ ใส่พริกสด หอมแดง และเจลใบมะกรูดที่นำมาบดให้เนียนกริบแบบ Purée ตัดกับสีม่วงของดอกอัญชัน (อารมณ์แบบอาหารสไตล์มิชลินอย่าง Salveberg ที่ชอบเล่นกับสีสันฉูดฉาดเมามันมากในจานเดียว) ยังไม่ทันอิ่มพุงก็เสพความสวยจนอิ่มตา
ลาบเนื้อสด
ยำมะม่วงข้าวโพดย่าง
หัวไหล่หมูแกงแดง
หัวไหล่หมูแกงแดง (450 บาท) หัวไหล่หมูเนื้อนุ่มติดมันเล็กน้อย ตุ๋นแบบ Slow Cook แล้วนำมาย่าง ราดพริกแกงแดงผสมถั่ว และมันฝรั่งช่วยตัดความเผ็ด ซอสข้นนุ่มนวลอารมณ์คล้ายน้ำจิ้มหมูสะเต๊ะ กินกับไข่ยางมะตูมรมควันหอมๆ อร่อยล้ำ
ถ้าคุณขอดื่มอะไรแบบเซฟๆ ที่แบกะดินมีไวน์และคลาสสิกค็อกเทลทั้ง 14 ตัวสแตนด์บายรออยู่แล้ว แต่ถ้าเบื่อความจำเจ อยากลอง ‘เล่น’ กับอะไรใหม่ๆ แนะนำให้เดินไปที่บาร์อย่ารีรอ แล้วสั่ง แสนแสบ (320 บาท) ค็อกเทลชื่อไท๊ยไทยที่มีเหล้าเบสเป็น Scotch Whiskey Amarena Cherry และใช้ไข่ขาวมาตีเป็นโฟม ผสมน้ำเลมอนสดเพื่อดับกลิ่นคาวของไข่ สีชมพูอ่อนดูเป็นสาวหวาน แต่แอบแซบตรงที่เวลาเสิร์ฟ คุณพี่บาร์เทนเดอร์เล่นเอาพริกแห้งที่เราใช้ทำกับข้าวหย่อนลงไปในแก้วหน้าตาเฉยแล้วโชลีลาจุดไฟพรึ่บ! ก่อนเราจะห้ามไว้ทัน เรียกว่าเผาพริกเผาเกลือใส่ซะงั้น แค่การพรีเซนต์ก็ชนะเลิศค่ะ
ส่วน Wake up in Bangkok (220 บาท) สีเหลืองสดใสคือน้ำเสาวรสสดกับ Ginger powder ราสป์เบอร์รี่ และจิน น่าจะเหมาะกับสายแข็งนิดนึง เพราะใช้ Absinthe เหล้าเขียวดีกรีแรงในตำนานที่เขาว่ากันว่าแม้แต่ศิลปินเลื่องชื่ออย่างลุงเฮมมิงเวย์หรือแวนโก๊ะก็เคยติดหนึบหนับมาแล้ว ด้วยระดับแอลกอฮอล์สตรองถึง 70% นำไป Burn กับน้ำตาลในลูกเสาวรสผ่าครึ่งวางสวยๆ อยู่บน ขอบแก้ว เวลาดื่มก็แค่เทลงไปผสมกับตัวค็อกเทลในแก้ว เปรี้ยวหวานสดชื่นดีอยู่หรอก แต่ถ้าซดโฮกหมดแก้วก็น่าจะมึนเอาเรื่องอยู่นะคะคุณ
แสนแสบ
Wake up in Bangkok
บรรยากาศงานวัดยุคคุณแม่ยังสาว กระโปรงบาน-ขาสั้น กำแพงสังกะสีที่เพ้นต์รูปนางกวักสาวกวักมือรัวๆ ชวนให้เข้าร้าน ลายผนังที่ถอดมาจากปลาตะเพียนสาน กระจกสีรูปว่าว หรือ แม้กระทั่งโหลปลากัด เล้าไก่ คือรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ แฝงอารมณ์ขันอยู่ทั่วทุกมุมร้าน มองไปทางไหนก็ทำให้ยิ้มอ่อนได้ไม่ยาก
Baa Ga Din
ซอยสุขุมวิท 31
คลองตันเหนือ เขตวัฒนา
กรุงเทพฯ 10110
Website: http://baagadin.com/
Writer: Wednesday Adam
RECOMMENDED CONTENT
Netflix ผู้นำบริการสตรีมมิงความบันเทิงระดับโลก ประกาศฉายภาพยนตร์ไต้หวันเรื่อง Your Name Engraved Herein (ชื่อที่สลักไว้ใต้หัวใจ) โดยภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์แนว LGBTQ ที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาลของไต้หวัน