Chillax ในครั้งนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ “Lady Brett” อีกหนึ่งร้านที่เกิดจากฝีมือของทีม Rocket Coffeebar ที่เนรมิตตึกแถวในซอยสาทร 12 ให้กลายเป็นร้านอาหารสุดฮิปได้ถึง 3 ร้าน 3 สไตล์ อย่าง Rocket Coffeebar สาขาแรก คาเฟ่เก๋ๆสไตล์สแกนดิเนเวียนที่เน้นเสิร์ฟ all day breakfast เป็นหลัก (ใครที่ยังไม่เคยได้มีโอกาสไป ลองอ่านรีวิวของเราก่อนได้ที่ https://www.dooddot.com/chillax-rocket-coffeebar-sukhumvit-49/) U.N.C.L.E ค็อกเทลบาร์สุดหรูที่ตั้งอยู่ชั้นบนของอาคาร และ “Lady Brett Tavern” ร้านอาหารน้องใหม่สุดในเครือ ที่เพิ่งเปิดบริการมาได้ปีกว่า เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งศูนย์รวมสำคัญของชาวสาทรเลยก็ว่าได้ ที่ต้องการมานั่งกิน ดื่ม ผ่อนคลายสบายอารมณ์ โดยที่ไม่ต้องไปไหนไกล
สำหรับชื่อ “Lady Brett” นั้น มีที่มาจากชื่อตัวละครหญิงในหนังสือ ‘The Sun Also Rises’ ของนักเขียนอเมริกันผู้โด่งดัง Ernest Hemingway ในปี 1926 ซึ่งในเรื่องเธอจะมีคาแรคเตอร์ของผู้หญิงสมัยใหม่ ชอบแสงสี ชอบเข้าสังคม มีความเป็นตัวของตัวเองสูง ซึ่งพอบวกกับสไตล์ของร้าน ที่ทางเจ้าของได้แรงบันดาลใจมาจากร้านเหล้าในศตวรรษที่ 20 ของมหานครนิวยอร์กด้วยแล้ว เข้ามาในร้านนี้ปุ๊ปจะรู้สึกเหมือนย้อนเวลากลับไปในยุค 1920s ทันที กับการตกแต่งด้วยไม้สีเข้ม เก้าอี้หนัง บาร์ขนาดใหญ่ยาวตรงด้านหน้า และแสงไฟสลัวๆที่หรี่ลง ทำให้สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายความเป็น New York Tavern จากยุคสวิงได้เป็นอย่างดี แต่ก็ยังมีความร่วมสมัย เข้าถึงได้ และที่สำคัญรู้สึกผ่อนคลาย และ cozy อบอุ่นนิดๆ พร้อมสำหรับการเอ็นจอยมื้อค่ำที่กำลังมาถึง
จากซ้ายไปขวา: Negrita 420 บาท, From London to Bangkok 330 บาท และ Conquistador 330 บาท
ก่อนที่เราจะสั่งอาหาร ขอสั่งดริ๊งค์มาดื่มให้ชื่นใจกันก่อนดีกว่า ที่ Lady Brett มีเครื่องดื่มให้เลือกสั่งอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นพวกม็อกเทล เบียร์ ไซเดอร์ ค็อกเทล ไวน์ และน้ำอัดลม น้ำผลไม้ หรือแม้กระทั่งชา กาแฟ สำหรับใครที่ไม่ถนัดดื่มแอลกอฮอล์ แต่มาถึงที่นี่ทั้งที เราไม่ขอพลาดชิมค็อกเทลที่มิกซ์ใหม่ขึ้นทั้งหมด โดยได้ Phillip Stefanescu บาร์เทนเดอร์ที่ส่งตรงมาจากสตอกโฮล์ม มาช่วยครีเอทเมนูเครื่องดื่มใหม่ๆที่ไม่ซ้ำใคร โดยในครั้งนี้ Phillip ได้แนะนำให้เราชิมถึง 3 ค็อกเทลด้วยกัน ได้แก่ “From London to Bangkok” ค็อกเทลชื่อเก๋ไก๋ ที่มีส่วนผสมของยิน แตงกวาสด โหระพา น้ำตาล และมะนาวจำนวนอีกเล็กน้อย แก้วนี้จะหอมอบอวลไปด้วยกลิ่นแตงกวา รสชาติของค็อกเทลจะออกหวานอมเปรี้ยวนิดๆ โดยรวมเป็นแก้วที่มีรสอ่อนๆ ดื่มเพื่อความสดชื่น ต่อด้วย “Negrita” ที่มีส่วนผสมของ tequila เหล้า aperol ส้ม และตกแต่งด้วยเปลือกเกรปฟรุต แก้วนี้จะมีความแรงขึ้นมาหน่อย มีรสชาติหวานอมขมนิดๆ หอมกลิ่นส้ม และปิดท้ายด้วย “Conquistador” ซึ่งเป็นอีกเวอร์ชั่นของ Sangria ที่ทางร้านคิดค้นขึ้นมาใหม่ กับส่วนผสมของโฮมเม้ด ไซรัป ไวน์แดง สตรอว์เบอร์รี่ แอปเปิ้ล และส้ม มีรสชาติของความหวานปนเปรี้ยวนิดๆกำลังดี ดื่มแล้วรู้สึกเย็นสดชื่นถึงใจ ความเหนื่อยทั้งหลายแหล่ที่สะสมมาทั้งวันนั้นหายเป็นปลิดทิ้ง
สลัด Baby Cos 240 บาท
Hokkaido Scallops
Gambas 420 บาท
เรียกน้ำย่อยด้วยเครื่องดื่มกันไปแล้ว ทีนี้มาพูดเรื่องเมนูอาหารของที่นี่กันบ้าง ช่วงนี้ทาง Lady Brett เขาเพิ่งเปลี่ยนเมนูใหม่เป็นแบบสไตล์ ‘steakhouse BBQ’ ที่มีความพิเศษโดยการย่างบน Josper Charcoal Grill ที่นำเข้าจากประเทศสเปน เตานี้นอกจากจะทำหน้าที่ย่างแล้ว ยังสามารถอบได้ด้วย ทำให้พวกเนื้อที่เข้าเตานี้จะมีผิวสัมผัสที่ชุ่มฉ่ำหน่อยๆ และกักเก็บรสชาติของเนื้อได้เป็นอย่างดี ซึ่งสำหรับชุดเมนูบาร์บีคิวใหม่นี้ เชฟ Patrick Martens ได้ออกแบบมาให้เหมาะสำหรับคนที่มากินเดี่ยว หรือมากินกับเพื่อนๆกลุ่มใหญ่ โดยแนะนำให้เริ่มต้นมื้อด้วยการสั่งสลัด และพวก small dish มาอุ่นเครื่องกันก่อน ซึ่งสำหรับสลัด เรามีโอกาสได้ลองทาน “Baby Cos” ที่ประกอบไปด้วย ผักกาดหวาน เบคอนกรอบชิ้นโต ราดด้วยน้ำสลัดซีซ่าร์ และโรยหน้าด้วยพาร์เมซานชีส และ “Gambas” สำหรับ small dish กุ้งตัวใหญ่ผัดคลุกเคล้าด้วยน้ำมันกระเทียม พริก และมะนาว เสิร์ฟพร้อมขนมปัง sourdough bread บิดแล้วจิ้มกินเพลินๆ ต่อด้วยจานผัก กับ “Spicy Miso Eggplant” มะเขือม่วงราดด้วยซอสมิโสะ รสชาติเข้มข้น ออกหวานปนขมนิดๆ ทานเป็นเครื่องเคียงกับเมนูบาร์บีคิวได้ดี และปิดจ๊อบด้วยสเต็กหมู Pork Chops (220 แกรม) ที่เสิร์ฟพร้อมซอสสไปซี่บาร์บีคิว ที่มีส่วนผสมของเซซามี่ ถัวเหลือง และพริก หรือบาร์บีคิวซีฟู๊ดอย่าง “Hokkaido Scallops” (100 แกรม) เนื้อหอยสดๆ เสิร์ฟพร้อมถั่วพิสตาชิโอ ครีมเปรี้ยว (sour cream) เมล็ดทับทิม ดอกอัญชัน และวอเตอร์เครส สำหรับใครที่ชอบทานสเต็กเนื้อ หรือสเต็กไก่ ที่ร้านนี้ก็มีพร้อมเสิร์ฟให้เช่นกัน หรือถ้าคุณไม่ค่อยสันทัดเรื่องสเต็ก อยากสั่งอะไรที่เป็น comfort food ทานง่าย ในเมนูบาร์บีคิวนี้ก็มีเบอร์เกอร์ให้คุณเลือกสั่งได้เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นเบอร์เกอร์เนื้อ หมู หรือไก่
Spicy Miso Eggplant 140 บาท
สเต็กหมู Pork Chops 310 บาท
โดยรวมแล้วเมนูอาหารของที่นี่จะเน้นรสชาติที่เรียบง่าย ไม่หวือหวามากนัก แต่ทานแล้วรู้สึกเต็มอิ่มกำลังพอดี สำหรับใครที่กำลังมองหาร้านอาหารที่สามารถมานั่งทานอาหารแบบรีแลกซ์ๆ ในบรรยากาศ cozy ยามเย็นที่มีความเป็นส่วนตัวนิดหนึ่งหลังเลิกงาน ไม่ว่าจะมานั่งทานแบบสงบๆคนเดียว หรือมากับแก๊งเพื่อน ก็อย่าลืมมาลอง Lady Brett กันดูนะ
ตั้งอยู่ที่: 149 ซอยสาทร 12 สีลม บางรัก บางรัก กรุงเทพมหานคร 10500
เปิดบริการวันจันทร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา: 17:00 น. – 24:00 น.
Tel: 02 635 0405
Website: http://www.ladybrett.com/
Facebook: https://www.facebook.com/LadyBrettTavern
Writer: Thip S. Selley
Photographer: Pakkawat Tanghom
RECOMMENDED CONTENT
ถือเป็นอีกหนึ่งศิลปินที่มีผลงานเพลงสุดปังให้แฟน ๆ ได้ฟังตลอดทั้งปี 2021 จริง ๆ สำหรับศิลปินแร็ปเปอร์วายร้ายอย่าง “URBOYTJ” (ยัวร์บอยทีเจ) ที่ปีนี้เป็นปีทองของหนุ่มทีเจจริง ๆ เพราะไม่ว่าจะเพลงไหนก็ปังดังเปรี้ยงปร้าง