เป็นที่รู้กันว่าซอยอารีย์นั้นเต็มไปด้วยร้านอาหารและคาเฟ่เก๋ไก๋มากมาย แถมยังมีร้านเปิดใหม่ที่ผุดขึ้นมาถี่ยิบจนพวกเราต้องคอยอัพเดทให้ทัน เพราะฉะนั้นอย่าเพิ่งเบื่อกันหากวันนี้เราจะมีร้านอาหารเปิดใหม่ในซอยอารีย์มาแนะนำกันอีกแล้ว นั่นก็คือร้าน “O’Glee” (โอกลี) ที่ว่ากันว่าสำหรับใครที่เป็นคอเบียร์ตัวจริง ต้องห้ามพลาดร้านนี้เด็ดขาด เพราะที่นี่เขามาพร้อมกับเมนูเบียร์จากต่างประเทศนานาชนิด แถมหน้าร้านก็ดูสวยและโดดเด่นมากๆ เห็นครั้งแรกทำให้นึกถึงผับอังกฤษขึ้นมาทันที ดังนั้นสำหรับคอลัมน์ Chillax ในครั้งนี้ เราจะขอพาทุกคนไปทำความรู้จักกับร้านอาหารน้องใหม่ในซอยอารีย์ที่ว่านี้กัน บรรยากาศและรสชาติของอาหาร รวมทั้งเครื่องดื่มจะเป็นยังไงนั้น ลองเขยิบเข้ามาใกล้ๆ แล้วไปทำความรู้จักพร้อมๆกันเลย
“O’Glee” คือร้านอาหารของคุณพีชและครอบครัว ที่เริ่มเปิดมาได้ตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 2014 โดยมีไอเดียอยากที่จะเปิดร้านอาหารที่มีบรรยากาศสบายๆเป็นกันเอง ลูกค้าทุกคนเข้ามาแล้วมีความสุขและรู้สึกอบอุ่น รวมถึงการได้รับบริการที่ทั่วถึงและดีที่สุดจากพวกเขา ซึ่งความตั้งใจเหล่านี้ได้ถูกสะท้อนออกมาในการจัดและตกแต่งร้าน ที่ตัวร้านถือว่ามีบริเวณที่ไม่ได้กว้างมาก รวมถึงจำนวนโต๊ะที่มีอยู่ไม่เกินสิบโต๊ะ เพื่อให้ลูกค้าทุกคนที่มานั่งสั่งอาหารแล้วได้รับการเอาใจใส่และทั่วถึงจากครอบครัวจริงๆ ช่วงแรกๆที่เราเข้ามานั่งร้านนี้ และมองการตกแต่งร้านโดยรอบ เรานึกถึงผับอังกฤษเป็นอย่างแรกก่อนเลย เพราะตัวร้านดูโดดเด่นด้วยการใช้ผนังอิฐแดงโดยรอบ และที่สำคัญ ทางหน้าร้านก็ได้ใช้ผนังไม้สีเขียวเข้มตัดกับกระจกตลอดทั้งแนว ทำให้คนสามารถมองเข้ามาเห็นภายในตัวร้านได้ทั้งหมด รวมถึงป้ายชื่อร้าน O’Glee ที่ดูยังไงก็ต้องทำให้นึกถึงพวกผับไอริช แต่พอนั่งไปได้สักพัก เราก็รู้สึกว่าไปๆมาๆบรรยากาศของร้านนี้ก็ดูมีเสน่ห์แบบบ้าน cottage house หรือบ้านสไตล์ชนบทในอังกฤษอยู่เหมือนกัน เนื่องจากเฟอร์นิเจอร์อย่างโต๊ะอาหารและเคาน์เตอร์บาร์ของร้านทำจากไม้ทั้งหมด รวมถึงการใช้ไฟส้มที่หรี่ลงมาหน่อย จึงทำให้บรรยากาศของร้านนี้ดูมีความอบอุ่น เหมือนได้เข้ามานั่งทานอาหารในบ้านที่โอบล้อมไปด้วยไออุ่นของเตาผิงในหน้าหนาว ถือเป็นร้านอาหารที่มีเอกลักษณ์อันโดดเด่นไม่แพ้ร้านไหนในซอยอารีย์เลย
สำหรับเมนูอาหารร้านนี้ มีทั้งอาหารฝรั่งและไทยเอาใจลูกค้าทั้งสองฝั่ง เริ่มต้นที่ “เฟรนช์ฟรายส์กระเทียม” (120 บาท) ที่เป็นหนึ่งในจานยอดฮิตของที่นี่ เชื่อว่าไม่ว่าจะเป็นลูกค้าคนไทยหรือฝรั่งก็ต้องชอบจานนี้กันทั้งนั้น เพราะเฟรนช์ฟรายส์นั้นทอดกรอบออกมาเป็นสีเหลืองทองดูน่าทานมากๆ ยิ่งคลุกเคล้ากับกระเทียมเจียวและชีสพาเมซานด้วยแล้ว ยิ่งทำให้จานนี้หอมฟุ้ง ยั่วน้ำลายยิ่งนัก ส่วน “ยำไก่กรอบ” (140 บาท) ที่ได้ลองทานนั้น น่าจะเป็นที่โปรดปรานของลูกค้าคนไทยเป็นอย่างดี เพราะถือว่าดีกรีความแซ่บนั้นจัดจ้านมากทีเดียว เนื้อไก่กรอบนอกนุ่มในที่คุลกเคล้ากับน้ำยำนั้นแซ่บได้ใจ ยิ่งมีเม็ดมะม่วงหิมพานด์เป็นส่วนประกอบด้วยแล้ว ยิ่งทำให้จานนี้เป็นจานที่กินกับแกล้มกับเบียร์ได้เพลินๆ ต่อด้วย “สปาเก็ตตี้ผัดพริกแห้งเบคอน” (180 บาท) สปาเก็ตตี้แบบไทยๆ ที่มีรสชาติเผ็ดจางๆของพริกแห้ง และกลิ่นหอมของเบคอน ที่นำไปทอดออกมาได้เหนียวนุ่มกำลังพอดี ถือเป็นจานเปิดที่มีรสชาติกลมกล่อม ไม่จัดจ้านอะไรมาก เสร็จแล้วตบท้ายด้วย “ฟิช แอนด์ ชิพช์” (220 บาท) เมนูอาหารยอดฮิตที่ลูกค้าต่างชาติทุกคนมาที่ร้านนี้แล้วต้องสั่ง จานนี้ถือเป็นหนึ่งในจานโปรดตลอดกาลของเราเช่นกัน เพราะฉะนั้นเวลาจะสั่งจานนี้ทีไร เราจะให้ความสำคัญกับความกรอบนอกนุ่มในของเนื้อปลาเป็นพิเศษ ฟิช แอนด์ ชิพส์ ของร้านนี้ถือว่าอร่อยมากทีเดียว เนื้อปลานั้นมีเนื้อนุ่มลิ้น ส่วนเนื้อแป้งก็กรุบกรอบแบบพอดีเลย มีความกรอบนอกนุ่มในอย่างที่ควรเป็น ยิ่งบีบมะนาว และจิ้มทาร์ทาร์ซอสด้วยแล้วยิ่งฟิน ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมลูกค้าฝรั่งทุกคนที่มาร้านนี้แล้วต้องสั่ง เพราะทั้งหน้าตาและรสชาติของฟิช แอนด์ ชิพส์ ที่นี่น่าจะทำให้พวกเขานึกถึงบ้านได้ไม่ยาก กินแล้วทำให้นึกถึงวันวาน ขนาดเราเองระหว่างทานยังอดคิดถึงช่วงเวลาที่เคยอยู่อังกฤษไม่ได้
คราวนี้มาพูดถึงเรื่องเมนูเบียร์ของร้านนี้กันบ้าง ที่ O’Glee มีเบียร์กว่าห้าสิบชนิดให้คุณได้เลือกดื่มตามใจชอบ ยกตัวอย่างเช่นยี่ห้อ “Blanche De Namur” (230 บาท) เบียร์ขาวจากประเทศเบลเยียม ที่ใช้ยีสต์หมักลอยผิว เป็นเบียร์เอลที่ทำจากข้าวสาลี ด้วยส่วนผสมของเปลือกส้ม ซึ่งส่งผลให้เบียร์มีความเปรี้ยวปนขมแบบผลไม้ และผักชีฝรั่งซึ่งช่วยเพิ่มความจัดจ้านในแบบสมุนไพร เมื่อดมกลิ่นเบียร์ตัวนี้ก็จะได้รับรู้ถึงกลิ่นของความหวานและหอมลึก “La Corne Blonde” (260 บาท) เบียร์ขาวจากประเทศเบลเยียมอีกเช่นกันที่ใช้ฮอปส์ถึง 2 ตัวในการหมัก มีรสชาติออกไปทางขม แต่มีกลิ่นหอมและรสชาติที่นุ่มละมุนลิ้น และสดชื่นในการดื่ม และ “Monk’s Stout” (235 บาท) เบียร์ดำจากประเทศอังกฤษ ที่มีฟองเบียร์หนานุ่มเป็นสีแทน มีรสชาติไม่ค่อยหวานนัก มีกลิ่นหอมอบอวลคล้ายโลหะและข้าวมอลต์จางๆ ดื่มแล้วให้ความรู้สึกถึงความดื่มด่ำในรสชาติของแร่ธาตุ และความอุ่นร้อนนิดๆตอนดื่มเข้าไป ส่วนเบียร์ที่เรามีโอกาสได้ดื่มคือ “Gulden Draak” (255 บาท) และ “Chainbreaker White IPA” (275 บาท ต่อ pint) ซึ่งเบียร์อย่างแรกนั้น แค่เห็นตัวแพ็คเกจจิ้งของขวดก็น่าสนใจแล้ว ด้วยรูปทรงขวดขนาดป้อมเป็นสีขาวอันโดดเด่น ตัวอักษรสีแดงสไตล์โบราณ และรูปมังกรสีทอง ทำให้รู้สึกได้ทันทีเลยว่าเบียร์ขวดนี้ต้องดุ ไม่ธรรมดาแน่ๆ และเราก็คิดไม่ผิดจริงๆ เริ่มด้วยสีของเบียร์ที่ออกไปทางสีเหลืองอมส้มอำพัน ส่วนฟองจะออกไปทางสีแทนอ่อนๆในปริมาณที่ค่อนข้างเยอะ เรื่องของกลิ่นนั้นออกไปทางแรงนิดนึง แต่จะโดดเด่นไปด้วยกลิ่นผลไม้เข้มๆ อย่างมอลต์ แล้วก็ลูกพลัม ส่วนรสชาตินั้นถือว่าค่อนข้างขมและดาร์กทีเดียว กับส่วนผสมของ วานิลา คาราเมล และมะเดื่อ ดื่มแล้วรู้สึกนุ่มละมุน มีกลิ่นหอมอบอวลอยู่เต็มไปหมด ทำให้ไม่รู้สึกถึงความเข้มของแอลกอฮอล์มากนัก ถือว่าเหมาะมากสำหรับใครที่อยากลองดื่มเบียร์รสชาติเข้มข้นดูสักครั้ง รับรองว่าดื่ม Gulden Draak เข้าไปแล้วจะติดใจ ส่วน Chainbreaker นั้นเป็นเบียร์สดที่ดื่มง่ายขึ้นมาหน่อย เบียร์นี้ส่งตรงจากอเมริกา มีรสชาติที่ไม่เข้มมาก ออกไปทางขมอ่อนๆ และมีกลิ่นหอมชื่นใจของซีตรัส ดื่มแล้วจะรู้สึกเฟรช กระปรี้กระเปร่า เหมาะสำหรับคนที่เป็นมือใหม่เรื่องดื่มเบียร์ หรือคนที่ชอบดื่มเบียร์เพลินๆชิลล์ๆตลอดมื้ออาหาร
นี่เป็นแค่เสี้ยวหนึ่งของตัวเลือกยี่ห้อเบียร์ต่างๆที่ทาง O’Glee มีพร้อมที่จะเสิร์ฟคุณ ซึ่งถ้าคุณอยากรู้ข้อมูลเพิ่มเติม หรือต้องการคำแนะนำในการเลือกดื่มเบียร์ ทางคุณพีชและครอบครัวก็พร้อมที่จะให้ข้อมูลและคำปรึกษาเสมอ แนะนำว่าถ้าคุณอยากมีโต๊ะนั่งกิน ดื่ม สบายๆ ให้มาตั้งแต่ตอนห้าโมงครึ่งตอนร้านเปิด หรือโทรจองโต๊ะมาก่อนเลย เพราะถ้าคุณดันมาในวันที่ลูกค้าแน่นเอี๊ยด คุณอาจไม่มีโต๊ะนั่ง ต้องยืนรอข้างนอกก็เป็นได้ วันที่เราไป ลูกค้าก็นั่งกันเต็มหมดทุกโต๊ะเช่นกัน แต่ก็ไม่แปลกใจแม้แต่น้อยว่าทำไมร้านนี้ถึงมีลูกค้าไหลมา เทมา ไม่ขาดสาย เพราะนอกจากบรรยากาศร้านที่แสนจะอบอุ่น น่ารัก รสชาติอาหารที่อร่อยถูกปาก และเมนูเบียร์อย่างดี ที่มีให้เลือกอย่างหลากหลายแล้ว เราก็สัมผัสได้ถึงความจริงใจ และความเอาใจใส่ที่ทางคุณพีชและครอบครัวมีต่อลูกค้าที่มาทุกคนเป็นอย่างดี
ถือเป็นหนึ่งในร้านอาหารที่มีสไตล์เป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่นในซอยอารีย์ ที่เหมาะแก่การมานั่งแฮงค์เอาท์พูดคุย กิน ดื่ม จิบเบียร์เย็นๆหลังเลิกงาน ในบรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นกันเอง
ตั้งอยู่ที่: ซอยอารีย์ 1
เปิดบริการวันจันทร์-เสาร์ ตั้งแต่เวลา: 17:30 น. – 24:00 น.
Tel: 02 619 5354
Facebook: https://www.facebook.com/pages/Oglee-โอกลี/173247892885561
Writer: Thip S. Selley
Photographer: Pakkawat Tanghom
RECOMMENDED CONTENT
เปิดตัวแล้วกับคอลเล็คชั่น OBEGRÄNSAD/ อูเบแกรนซัด ผลงานการร่วมออกแบบระหว่างอิเกียและ Swedish House Mafia วงดนตรีอิเล็กทรอนิกชื่อดังสัญชาติสวีเดน พร้อมให้คุณสร้างสรรค์ผลงานที่บ้านอย่างไร้ขีดจำกัดตามแรงบันดาลใจของการออกแบบคอลเล็คชั่นนี้ โดยคำว่า OBEGRÄNSAD/ อูเบแกรนซัด ซึ่งเป็นภาษาสวีเดนมีความหมายว่า “ไร้ขีดจำกัด”