เมื่อพูดถึงย่านเกษตรที่สามารถเดินทางต่อไปยังถนนเส้นงามวงศ์วาน ไปอีกฝั่งเจอแยกเกษตรเลี้ยวเข้าถนนพหลโยธิน หรือจะมุ่งหน้าไปแถวถนนเกษตร–นวมินทร์ก็ได้ หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าแต่ละจุดมีของดีของอร่อยตลอดเส้นทาง รวมถึงตามตรอกซอยต่างๆ และบริเวณใกล้เคียง เรียกได้ว่าถ้าลองไปครั้งแรกแล้วจะต้องอยากไปอีกเป็นครั้งที่สอง สามแน่ๆ แต่คงจะดีไม่น้อยหากเราได้พาตัวเองเข้าไปผูกติดย่านนี้อย่างลึกซึ้ง ด้วยการเลือกอยู่คอนโด “The Selected Kaset – Ngamwongwan by L.P.N.” ซึ่งนอกจากจะได้อยู่คอนโดแบบที่ต้องการในราคาเอื้อมถึงแล้ว ทำเลที่นี่ยังช่วยให้ชีวิตดี๊ดีตั้งแต่เรื่องกินไปจนถึงการเดินทางด้วย แถมยังได้สนุกกับการมีเวลาทัวร์กินของอร่อยในทุกวัน ลองมาดูซิว่าในหนึ่งวันย่านนี้เราจะไปฟินที่ไหนได้บ้าง
กินเช้า : FitB – Fuel in the Blank
เริ่มมื้อแรกยามเช้ากับร้านบรรยากาศดีในซอยงามวงศ์วาน 54 หรือซอยท่านผู้หญิงพหลฯ กันก่อน ขอบอกว่าพิกัดร้านนี้อยู่ใกล้คอนโดสุดๆ จากต้นซอยเข้ามาประมาณ 500 เมตร ร้านจะอยู่ซ้ายมือ โดยมีป้ายร้าน “Fuel in the Blank” ที่ทาสีและติดท่อบนกำแพงอิฐคุมโทนขาว–ดำ–เทาเป็นจุดสังเกต ภายในร้านตกแต่งสไตล์อินดัสเทรียลลอฟท์ แบ่งเป็น 3 โซน คือ โซน out door ด้านนอกจัดวางที่นั่งด้วยไม้ลังกับเบาะนุ่ม ร่มรื่นด้วยการจัดสวนลอยและสวนญี่ปุ่นที่เดินลัดเลาะไปด้านข้างได้ พื้นที่ที่เหลือแบ่งเป็นห้องแบบเคาน์เตอร์บาร์กับสองที่นั่ง ส่วนห้องสุดท้ายเป็นโต๊ะยาวนั่งได้หลายคน
มาถึงอาหารเช้ากันบ้างกับเมนู “ไข่กระทะ” ที่จัดเป็นเซ็ตคู่กับมินิครัวซองต์ รสชาติมะเขือเทศแทรกซึมเข้ากับไข่ดาวได้อย่างลงตัว แถมอิ่มอร่อยอยู่ท้องด้วยไส้กรอก หมู และเห็ดที่อยู่รอบๆ ไข่ดาวเสิร์ฟมาในกระทะใบเล็ก พร้อมจิบกาแฟในห้องกระจกที่สามารถมองไปเห็นสวนญี่ปุ่นได้ ทำให้กาแฟลาเต้ที่นุ่มละมุนอยู่แล้วรสชาติดีเพิ่มขึ้นไปอีก ส่วนใครอยากอิ่มเบาๆ จะจิบกาแฟกับครัวซองต์หรือพาย แค่นี้ก็ทำกิจกรรมอื่นต่อได้แล้ว
กินเร็ว : R.E.A.D Café
ร้านต่อมาคือ “R.E.A.D Café” อยู่ในซอยเดียวกันกับร้านแรก แต่อยู่ต้นซอยติดกับเทสโก้โลตัสเลยหาง่ายมาก ที่สำคัญร้านนี้เปิด 24 ชั่วโมงด้วยนะ เรียกว่านอกจาก 7-11 ก็มีร้านนี้เนี่ยแหละที่ชาว The selected Kaset – Ngamwongwan by L.P.N. จะได้ฝากท้องยามหิวได้ทุกเมื่อทุกเวลา ซึ่งภายในร้านตกแต่งเรียบง่ายมีมุมให้เลือกนั่งหลายแบบ ทั้งชั้นล่างเป็นโต๊ะเก้าอี้บาร์ทรงสูง หรือจะนั่งชั้นสองก็สามารถหยิบหนังสือมาอ่านและเคลียร์งานได้ด้วย เพราะลักษณะโต๊ะนั่งให้ความรู้สึกเหมือนมาอ่านหนังสือในห้องสมุดสมชื่อร้านเลย
เมนูแนะนำช่วงเที่ยงเอาใจคนชอบอาหารจานเดียวร้านนี้มีให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นของกินเล่นทั้งไก่ทอด และเฟรนช์ฟรายด์ โดยทีเด็ดอยู่ที่เมนูข้าวไข่ข้นที่สามารถเลือก topping อย่างแฮม ชีส เบคอน หมูทอดซอสครีมเห็ด หรือจะสั่งเมนูสุดครีเอทต้องข้าวราดผัดกะเพราสามหมูก็ดีไปอีกแบบ นอกจากนี้ยังมีข้าวหน้าหมูชาชูไข่ออนเซ็น กับยำแซลมอนสีสันสวยงามรสชาติจัดจ้านถูกใจคนที่ชอบความแซ่บด้วยนั่นเอง
–ข้าวซอยลำดวนฟ้าฮ่าม
ใครเบื่อข้าวแล้วอยากกินเส้นบ้างมาร้านนี้ “ข้าวซอยลำดวนฟ้าฮ่าม” สาขาวิภาวดี 58 จากเกษตรวิ่งเข้าถนนวิภาวดีเพื่อมากินของอร่อยอย่างอาหารเหนือที่ดังไกลมาจากเชียงใหม่และเปิดมากว่า 70 ปีแล้ว ซึ่งตอนนี้ก็มีหลายสาขาหนึ่งในนั้นคือร้านนี้ ตัวร้านก็สร้างความรู้สึกเหมือนได้ไปกินถึงภาคเหนือ เพราะทั้งดนตรีและรูปแบบการแต่งร้าน รวมถึงหลังคาทรงจั่วประดับกาแล หรือไม้ที่มีลักษณะไขว้กัน โดยรสชาติอาหารของทางร้านจะเป็นสูตรดั้งเดิมตั้งแต่ ข้าวซอยไก่ ขนมจีนน้ำเงี้ยว แกงฮังเล ยำหมูกรอบ บอกเลยว่าแต่ละอย่างดีต่อใจมากจริงๆ ใครชอบกินน้ำพริกหนุ่มที่นี่ก็มี กินคู่กับแคบหมูเป็นความเข้ากันอย่างบอกไม่ถูก แต่ก่อนจะมาอยากให้กะเวลามาให้ทันก่อนร้านจะปิดตอน 15.00 น.
กินสองเวอร์ชั่น : A Little While
เอาใจคนรักอาหารไทยโบราณ แต่บางครั้งก็ต้องการกินอาหารไทยฟิวชั่นบ้างกับร้าน “ A Little While” ร้านเรือนกระจกสุดอบอุ่นท่ามกลางธรรมชาติที่รายล้อมด้วยต้นไม้หลายชนิด ที่นี่มีทั้งหมด 3 ห้องคือ ห้องขาวตกแต่งแนววินเทจ จำลองความรู้สึกเหมือนนั่งโต๊ะอาหารในบ้านตัวเอง โดยมีโซนห้องครัวแบบเปิด ต่อมาเป็นห้องดำจะเท่กว่าห้องแรกผนังด้านหนึ่งติดกระจกจึงมองเห็นบ่อน้ำและบรรยากาศด้านนอกอย่างเต็มที่ สุดท้ายเป็นห้องแดงซึ่งถือเป็นห้องที่เปิดรับแสงได้มากที่สุด เพราะมีหลังคาด้านบนใสและผนังด้านหนึ่งก็ติดกระจกเช่นกัน
มาถึงอาหารที่รับรองว่าต้องถูกใจทุกคนแน่ๆ เนื่องจากมีอาหารไทยโบราณชื่ออาจจะไม่ค่อยคุ้นหูนักแต่รับรองรสชาติความอร่อย อย่างอาหารกินเล่นในชื่อ แสร้งว่า หรือแม้แต่ “หมูโสร่ง” ความกรอบของเส้นหมี่ที่ห่อหมูปรุงเครื่องเทศกระเทียมพริกไทยรสชาติจัดจ้านกินกับน้ำจิ้มหวาน ทำให้สนุกเพลินมาก หรือจะเป็นเมี่ยงปลาทูจัดมาในรูปแบบค็อกเทลจัดแบ่งไว้เป็นคำๆ และที่ขาดไม่ได้คืออาหารไทยฟิวชั่นกับ แกงคั่วสับปะรดหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ได้รสกลมกล่อมจากความเปรี้ยวของสับปะรดบวกความมันของกะทิ สุดท้ายเป็นสปาเก็ตตี้หมูกรอบพริกกระเทียม จัดเต็มหมูกรอบแผ่นใหญ่ หอมกลิ่นพริกกระเทียมเข้าเส้น
กินชิลล์ : ตลาดหัวมุม เกษตร–นวมินทร์
ปิดท้ายด้วยการมาเดินเล่นรับลมเย็นๆ ยามค่ำคืนกันที่ตลาดหัวมุม เกษตร–นวมินทร์ รับรองว่าใครมาแล้วจะต้องอยากมาเดินซ้ำ เพราะที่นี่ถูกแบ่งเป็นหลายโซนทั้งร้านขายของวินเทจ เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายแฟชั่น ลานดนตรีสด ร้านนั่งชิลล์ และร้านอาหารสุดเด็ดเพียบ ทั้งร้านติ่งเกาหลี ร้านเบอร์เกอร์ หรือขนมหวานอย่างปังเย็นก็มี เอาเป็นว่าใครมีเวลาก็แวะมาสัมผัสบรรยากาศกันได้ ส่วนใครอยากจะมาปักหมุดย่านนี้บ่อยๆ คงต้องหาทำเลอยู่แถวนี้แบบถาวรไปเลย ยิ่งถ้าเลือกคอนโด “ The Selected Kaset – Ngamwongwan by L.P.N. ” รับประกับความฟินครบถูกใจสายกินชัวร์
สำหรับใครที่สนใจโครงการสามารถมาลงทะเบียนออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์ของเรา
Website : www.lpn.co.th
Facebook : http://www.facebook.com/condolumpiniofficial
RECOMMENDED CONTENT
‘School Town King’ แร็ปทะลุฝ้า ราชาไม่หยุดฝัน เป็นหนังสารคดีที่สร้างจากเรื่องจริงของ ‘บุ๊ค’ เด็กหนุ่มวัย 18 และ ‘นนท์’ วัย 13 ผู้เติบโตมาในชุมชนคลองเตย หรือที่ใครๆ ต่างรู้จักในอีกชื่อหนึ่งว่า ‘สลัมคลองเตย’ นอกจากความยากจนที่มาพร้อมกับสถานะทางสังคมที่เลือกไม่ได้แล้ว ทั้งบุ๊คและนนท์ยังไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับระบบการศึกษา รวมทั้ง หลักสูตรการเรียนการสอนที่เน้นแต่ความสำเร็จเชิงวิชาการก็ยิ่งทำให้เด็กเรียนไม่เก่งอย่างพวกเขาขาดความสนใจในชั้นเรียนลงไปเรื่อยๆ ระบบการศึกษาที่น่าจะเป็นความหวังและเท่าเทียมกันของเด็กทุกคน กลับยิ่งบีบบังคับและผลักไสให้พวกเขาเป็นแค่ ‘คนนอก’ ของสังคมไปโดยปริยาย