ย่าน “ดินแดง – ราชปรารภ” ถือเป็นอีกหนึ่งทำเลที่สำคัญในการเลือกอยู่อาศัย เนื่องจากใกล้กับอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทางโซนในเมือง ไปชานเมือง หรือจะออกต่างจังหวัดก็ง่ายแสนง่าย และไม่เพียงการเดินทางเท่านั้นที่สะดวกสบาย แต่เรื่องอาหารก็มีให้เลือกอย่างหลากหลาย ดังนั้นไม่ว่าจะมื้อไหนของวันก็อิ่มท้องได้แบบต่อเนื่องไม่มียั้ง โดยเฉพาะคนที่กำลังคิดและตัดสินใจเลือกอยู่คอนโดในโครงการ “Lumpini Suite Dindaeng – Ratchaprarop” ลองมาดูซิว่าในแต่ละมื้อเราสามารถหาร้านอร่อยได้จากจุดไหนบ้าง
มื้อเช้าบรรยากาศสบาย ๆ : Kay’s Boutique Breakfast
ออกจากคอนโดลุมพินี สวีท ดินแดง-ราชปรารภ มุ่งหน้ามาที่ถนนรางน้ำเริ่มมื้อเช้าที่ Kay’s Boutique Breakfast ร้านสีขาวโล่งสบายตา บรรยากาศน่านั่ง แถมสะดุดตาตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น เพราะอยู่ตรงข้ามกับโรงแรม K Maison จึงเห็นการตกแต่งสองฝั่งเป็นสไตล์เดียวกัน ด้วยการผสมผสานความคลาสสิกแบบไทยเข้ากับสไตล์โมเดิร์น เมื่อเข้ามาในร้านสังเกตโต๊ะและเคาน์เตอร์บาร์จะเห็นว่าเลือกใช้หินอ่อน สลับกับชุดโซฟาเบาะนุ่มสีน้ำเงินเข้ม ชุดเก้าอี้สีขาว หรือแม้แต่กระเบื้องขาวดำ แซมด้วยต้นไม้สีเขียวกระจายตามมุมต่างๆ ใครจะนั่งเคาน์เตอร์บาร์ติดกระจกมองเห็นภายนอกก็ได้ หรือจะนั่งด้านในก็รองรับได้หลายที่
มาถึงอาหารกันบ้าง ที่นี่จัดเป็นบุฟเฟ่ต์อาหารเช้าและเมนู A La Carte ที่สามารถเลือกเมนูได้ตามใจชอบจากเซ็ตเมนูที่จัดไว้ เป็นอาหารจานหลัก 1 อย่าง ขนม 1 เมนู พร้อมกับเครื่องดื่มชาหรือกาแฟได้ 1 แก้ว ซึ่งเมนูแนะนำคือ Breakfast Essential ไข่ดาว 2 ฟองเสิร์ฟพร้อมกับขนมปังปิ้ง เบคอน ไส้กรอก แฮม รวมถึงมันฝรั่งกับมะเขือเทศอีก 3 ชิ้น เมื่อทานคู่กับลาเต้ร้อนๆ สักแก้วก็รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก ส่วนเมนู Signature ของหวานขึ้นชื่อที่ใครมาก็ต้องสั่ง นั่นคือ K Ultimate French Toast ขนมปังกรอบๆ ตรงกลางสอดไส้กล้วยผสมกับซอสครีมอัลมอนด์ รสชาติจึงออกหวาน แต่ก็สามารถตัดรสได้ด้วยเบคอนกับมะม่วงหิมพานต์จนเข้ากันลงตัว
ชิลยามสาย เอาใจนักปั่น : Aran Bicicletta (ARAN BICI CYCLE HOUSE AND CAFE)
หากยังไหวและคิดว่าดื่มกาแฟยังไม่จุใจมาต่อร้าน Aran Bicicletta ในซอยพหลโยธิน 2 กัน ความชัดเจนของทั้งชื่อและแนวการตกแต่งร้านทำให้รู้สึกว่า หลังดื่มกาแฟร้านนี้แล้ว เราที่ไม่ใช่นักปั่นตัวยงอยากจะลุกขึ้นมาลองปั่นจักรยานจริงจังสักครั้ง เพราะทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับจักรยานและตัวนักปั่นได้ถูกจัดเรียงไว้อย่างตั้งใจ รับรองว่าต้องถูกใจเหล่านักปั่นจักรยานแน่ๆ แต่ละมุมของคาเฟ่จักรยานก็ดูผ่อนคลาย แต่ไม่น่าเบื่อด้วยจังหวะดนตรีสนุกสนานไม่เหมือนร้านอื่น ตัวร้านเป็นโทนสีน้ำตาล ใช้กระจกและโต๊ะเก้าอี้ไม้
เมนูเครื่องดื่มมีกาแฟอเมริกาโน่ เอสเพรสโซ่ ฯลฯ ส่วนของหวานจะมีแต่เค้ก แม้ของหวานจะมีไม่มากนักแต่รสชาติถูกปากอยากบอกต่อ ยังไม่หมดแค่นี้ เพราะด้านในยังมีร้านอาหารไทย “ข้าวบ้าน” ซึ่งมีที่นั่งแบบ Outdoor บรรยากาศร่มรื่นไปด้วยธรรมชาติ ที่สำคัญปิดทุกวันพฤหัสบดี และตรงกับวันที่ทาง dooddot ไปถ่ายพอดี เราจึงไม่มีภาพอาหารมาฝาก หรือใครอยากมาหาซื้อเครื่องหนังชั้นบนก็มีร้าน Jirawat Leather Goods ขายทั้งกระเป๋าตังค์ สายนาฬิกา สายเข็มขัด เป็นต้น แต่ต้องโทรถามเจ้าของร้านก่อนเนื่องจากเปิดไม่เป็นเวลา
มื้อเที่ยงอาหารจานเดียวเอาอยู่ : ภัตตาคารจ๊ากกี่
นึกถึงอาหารกลางวันหนีไม่พ้นก๋วยเตี๋ยวและเมนูเส้น ไหนๆ ออกมาแถวถนนรางน้ำแล้ว แวะมาซอยราชวิถี 7 (ซอยวัฒนโยธิน) ที่อยู่ใกล้ๆ เพื่อมากินราดหน้าในตำนานของร้าน “ภัตตาคารจ๊ากกี่” ที่ใช้คำว่าตำนานก็เพราะชื่อเสียงความอร่อยเลื่องลือมานานหลายสิบปี อร่อยถึงขั้นมีการบอกต่อส่งผ่านมาจากรุ่นสู่รุ่น ตัวร้านสังเกตไม่ยากพอเข้ามาในซอยเห็นตัวหนังสือสีแดงใหญ่ๆ ถือว่ามาถึงแล้ว ก็เดินพุ่งตัวไปจองโต๊ะนั่งได้เลย
มาร้านนี้ทีเด็ดอยู่ที่ราดหน้า อย่างเส้นใหญ่ก็เหนียวนุ่ม หมูนุ่มพอดีคำ รสชาติของน้ำราดคือกินแบบไม่ต้องใส่เครื่องปรุงก็อร่อย จานต่อมาราดหน้าเส้นหมี่ ความพิเศษอยู่ที่มีหมี่กรอบอยู่ล่างสุดและชั้นบนเป็นเส้นหมี่ผัดนุ่มๆ พอคลุกเคล้าแล้วยิ่งเพิ่มความสนุกในการกิน และจะเพลินมาก นอกจากนี้ยังมีเกี๊ยวน้ำที่อร่อยไม่แพ้กัน อร่อยจนหมดก่อนที่ทาง dooddot จะไปถึงจึงไม่มีภาพมายืนยันเช่นเคย แถมยังมีเกี๊ยวทอด กรอบมากแต่ไม่อมน้ำมัน , ข้าวผัดปู , บะหมี่เกี๊ยวปูหมูแดง เรียกว่าอร่อยทุกอย่างจริงๆ
Gokfayuen (กุ๊กฝ้าหยู่น)
เรื่องเส้นยังไม่จบมาต่อร้านบะหมี่เกี๊ยวฮ่องกง “Gokfayuen” (กุ๊กฝ้าหยู่น) ด้วยบรรยากาศและรสชาติอาหารร้านนี้ทำให้รู้สึกเหมือนไปกินบะหมี่ที่ฮ่องกงจริงๆ เพราะตั้งแต่หน้าร้านก็มีผู้คนและรถพลุกพล่าน จึงไม่ต้องถามถึงที่จอดรถ เนื่องจากในซอยเพชรบุรี 19 ไม่กว้างนักส่วนใหญ่ก็จอดรถพื้นที่ใกล้เคียงแล้วเดินเข้าซอยมา คนที่อยู่คอนโดลุมพินี สวีท ดินแดง-ราชปรารภ อย่าไปผิดร้านนะ เพราะ Gokfayuen มีสาขาที่ทองหล่อด้วย
เมื่อมาแล้วก็เดินเข้าไปสั่งอาหารได้เลย เมนูแนะนำมีทั้ง เกี๊ยวกุ้งน้ำ ที่จัดกุ้งมาแบบแน่นๆ เกี๊ยวชิ้นใหญ่เต็มปากเต็มคำบวกกับน้ำซุปหอมๆ หรือจะสั่งบะหมี่หมูซอสเผ็ด รสชาติจัดจ้านสมชื่อ แถมบะหมี่เขาก็ทำเอง ส่วนเมนูข้าวก็มีทั้ง ข้าวเนื้อตุ๋น ข้าวไก่นุ่ม ที่แค่มองก็รู้เลยว่าเนื้อเปื่อยมาก ใครอยากกินโจ๊กหมู โจ๊กไข่เยี่ยวม้าก็มี เชื่อว่าถ้าได้มาลองคุณต้องหิ้วกลับบ้านด้วยแน่ๆ
ดื่มกาแฟดริปยามบ่าย : Some Time Blue Café by Sutdrip (สุดดริป)
หลังจากย่อยอาหารมื้อเที่ยงแล้ว ก็อยากให้มาดื่มกาแฟดริปกันที่ซอยพหลโยธิน 2 ถัดจากร้าน Aran Bicicletta ไม่ไกลนัก เพราะเดิมทีร้านสุดดริปอยู่ใน Aran Bicicletta แต่ตอนนี้ย้ายมาอยู่ใต้ตึกของบริษัท สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล จํากัดแล้ว ในชื่อ Some Time Blue อย่างที่รู้กันดีว่าคุณแนน สุธิดา ศรีรุ่งธรรม แชมป์จากรายการ National Brewer’s Cup ผู้เชี่ยวชาญในการชงกาแฟดริปและเป็นเจ้าของร้าน จึงทำให้หลายคนอยากมาลิ้มลองรสชาติกาแฟหอมๆ ผ่านการดริปกาแฟด้วยการค่อยๆ เทน้ำร้อนลงไปบนกระดาษกรองในดริปเปอร์
แล้วเราก็จะได้กาแฟใส่แก้วลวดลายสวยงามแบบไทยๆ เสิร์ฟคู่กับขนมกลีบลำดวนหอมหวานกำลังดี กินกับกาแฟแล้วกลมกล่อมลงตัวมาก หรือใครจะสั่งขนมเพิ่มก็มีมัฟฟินบลูเบอร์รี่ที่เนื้อนุ่มอร่อยไม่แพ้กัน และใช่ว่าที่นี่จะมีแต่กาแฟดริป ยังมีเครื่องดื่มอื่นๆ ด้วย ทั้งกาแฟ espresso based น้ำอัดลม น้ำผลไม้ ด้วยสไตล์การแต่งร้านแบบยูโรเปียนผสมผสานเฟอร์นิเจอร์ไม้กับผนังปูน ด้านซ้ายติดกระจกบานใหญ่จึงได้สัมผัสธรรมชาติ และกลิ่นอายแบบย้อนยุคของห้องสมุดหรือมุมทำงานเหมือนสมัยก่อน
มื้อเย็นซีฟู้ดจัดเต็มแบบหนัก ๆ : ตี๋โภชนา สาขาราชปรารภ (T-Restaurant)
สำหรับใครที่ชอบอาหารทะเลต้องประทับใจร้านนี้มากแน่ๆ เพราะเป็นอีกหนึ่งร้านเก่าแก่ที่เปิดมาแล้วกว่า 40 ปี จากเดิมที่เป็นเพียงร้านรถเข็นในตลาดย่านประตูน้ำ จนวันนี้ชื่อเสียงของร้าน “ตี๋โภชนา” ถูกพูดถึงมาจากรุ่นสู่รุ่น ด้วยรสชาติอาหารทะเลสไตล์ ไทย-จีน ที่อร่อยถูกปากแถมยังสั่งมากินได้หลายคน จึงเป็นเสน่ห์ดึงดูดให้ผู้คนแวะเวียนมากินเสมอ เริ่มกันที่เมนูขึ้นชื่อของร้านอย่าง ปูผัดผงกะหรี่ น้ำที่คลุกเคล้ากับปูเป็นครีมสีเหลืองนวลเข้มข้น รสชาตินุ่มนวล ไม่จัดจ้านเป็นเอกลักษณ์ของทางร้าน
ส่วนเมนูแนะนำที่เหลือมีทั้ง ปลาหมึกทอดกระเทียมพริกไทย ข้าวผัดปู แฮ่กึ๊นกับน้ำจิ้มบ๊วยเข้ากันสุดๆ ปลาหิมะนึ่งซีอิ๊วเนื้อปลานุ่มมาก รสชาติกลมกล่อม และหน่อไม้ทะเลเจี๋ยนเห็ดหอมสด ตัวหน่อไม้ทะเลเคี้ยวแล้วจะรู้สึกหนึบๆ อร่อยเพลินมาก โดยราคาแต่ละเมนูก็จะขึ้นอยู่กับขนาดของทะเลที่ต่างกันไป
ค่ำคืนแห่งสีสันและวันผ่อนคลาย : Saxophone Pub & Restaurant
เต็มอิ่มกับร้านหลากหลายแนวไปแล้ว ที่สุดท้ายอยากให้แวะฟังเพลงเพราะๆ ก่อนกลับคอนโดที่ร้าน Saxophone Pub & Restaurant ย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เดินทางง่ายไม่ไกลจากคอนโดลุมพินี สวีท ดินแดง-ราชปรารภ มากนัก และเมื่อเข้ามาในร้านบรรยากาศเป็นผับกึ่งร้านอาหาร ตกแต่งโดยการนำเอาเครื่องดนตรีไทยอย่าง กลอง ฆ้อง และเครื่องดนตรีสากลคลาสสิคอย่าง แซ็กโซโฟนที่โดดเด่น รวมถึงทรัมเป็ต คลาริเน็ต ทรอมโบน มาจัดเรียง
นอกจากนี้ยังมีแผ่นเพลงรูปภาพศิลปิน JAZZ ในยุคก่อน ๆ และภาพวาดสีน้ำมันด้วย เครื่องดื่มก็มีให้เลือกทั้งค็อกเทลและเบียร์ ส่วนเมนูอาหาร มีทั้ง ปลากะพงสองน้ำ กุ้งเจี๋ยนน้ำมันหอย และยำคะน้า เป็นต้น ซึ่งแนวดนตรีของที่นี่ก็เป็นที่พูดถึงอย่างมาก เนื่องจากเป็นดนตรีสดจากนักดนตรี Jazz และ Blue หลายวงทั้ง CHAI’S & THE BLUES MANIAC ( BLUES ) , T-BONE ( REGGAE ) , THE ARNON’S JAZZ BAND (JAZZ) แต่ก็ไม่ได้มีเพียงเท่านี้ เพราะยังมีดนตรีโฟล์กกับคันทรีร่วมด้วย ใครที่ชอบดนตรีแนว Jazz กับ Blue หรืออยากมาสัมผัสเสียงของศิลปินที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาสร้างความสนุกเป็นประจำ ก็เช็กตารางของแต่ละวงก่อนว่าใครจะมาวันไหน
คราวนี้คงรู้แล้วใช่ไหมว่า ย่านดินแดง – ราชปรารภ รวมร้านอร่อยไว้มากมายขนาดแค่ไหน ใครที่จะมาอยู่ Lumpini Suite Dindaeng – Ratchaprarop ก็สบายใจหายห่วง เพราะสามารถเตรียมมาตะลุยกินทุกมื้อได้แบบไม่มีซ้ำ แถมเดินทางสะดวกไม่ยุ่งยาก เราเชื่อเหลือเกินว่าทำเลนี้ต้องถูกใจสายกินเป็นที่สุด เพราะคุณจะหมดกังวลเรื่องหาของกินไม่ได้อีกต่อไป
Lumpini Suite Dindaeng-Ratchaprarop
Website : http://www.lpn.co.th/
Facebook : https://www.facebook.com/condolumpiniofficial
Tags: #CityGuide,Dindaeng,Ratchaprarop,LPN,Lumpini,LumpiniSuite
RECOMMENDED CONTENT
Gareth.T ศิลปินหนุ่มฮ่องกง ผู้มีสไตล์ดนตรี R&B นุ่มละมุนอย่างมีเอกลักษณ์ ปล่อยซิงเกิลแรก “best me i can” ภายใต้สังกัด Umami Records โดยเพลงนี้เขาสร้างสรรค์ออกมาได้อย่างละเมียดละไม มาพร้อมกับเมโลดี้ที่เต็มไปด้วยอารมณ์ ด้วยความหมายที่สื่อถึงการใช้ชีวิตในเวอร์ชั่นแบบเป็นตัวเองอย่างดีที่สุด