สำหรับนักท่องเที่ยวสายประวัติศาสตร์ เชื่อว่าทุกคนจะต้องชอบท่องเที่ยวไปยังอาณาบริเวณเก่าแก่โบราณ ถ้าให้นึกภาพตาม ก็คงเป็นภาพพีระมิดท่ามกลางทะเลทราย เมืองเก่าเพตราที่ซ่อนอยู่ในภูเขาหิน ซากปรักหักพังของมาชูปิกชูบนภูเขาสูง ฯลฯ
ดูเหมือนว่าพื้นที่เหล่านี้ดูห่างไกลจากความเป็นเมือง แต่ก็มีอีกหลากหลายสถานที่และเมืองสำหรับคอประวัติศาสตร์ตัวยง ที่ถ้าอยากท่องเที่ยวเชิงเก่าแก่เสียหน่อย ก็เพียงแค่เดินทางไปยังย่านเมืองเก่า หรือ Old Town ที่ใครๆ เรียกกัน ซึ่งส่วนใหญ่มักไม่ใกล้ไม่ไกลจากโซนนักท่องเที่ยว หรือส่วนราชการสำคัญมากนัก
เราเลยขอยกตัวอย่าง ‘เมืองเก่าในเมืองใหม่’ ที่ยังคงอนุรักษ์ความดั้งเดิม ความเก่าแก่ และวิถีชีวิตเอาไว้ ให้คุณได้ย้อนเวลากลับไปอย่างง่ายดาย ไม่ต้องเสียเวลานั่งรถไกล หรือเดินเท้าปีนเขาจนเหนื่อยเลย
—————
♦ Gamla Stan – Sweden ♦
— ตามภาษาสวีดิช ‘Gamla Stan’ แปลตรงตัวว่า ‘เมืองเก่า’ อาณาเขตคล้ายเกาะของเขตเมืองเก่านี้ ตั้งอยู่ใจกลางกรุงสต็อกโฮล์ม ของประเทศสวีเดน เมื่อเราเดินเข้าไปในเขตเมืองเก่านี้ จะพบกับสถาปัตยกรรมจากยุคกลาง ทั้งอาคารสูงที่มีส่วน facade และหน้าต่างอันเป็นเอกลักษณ์ ที่ถูกทาด้วยสีสันสดใส นักท่องเที่ยวสามารถเดินสำรวจผ่านตรอกซอกซอยต่างๆ บนถนนเก่าแก่ที่ปูด้วยหินกรวด ปัจจุบันอาณาเขตนี้ยังรวมสถานที่สำคัญ อย่างพระราชวัง สำนักงาน และองค์กรบริหารต่างๆ อีกด้วย
สถานที่ท่องเที่ยว:
• Stortorget — จัตุรัสกลางเมืองเก่าที่รายล้อมไปด้วยอาคารและร้านค้าโบราณอันเป็นเอกลักษณ์ ไม่ไกลกันนักคืออาคารของธนาคารแลกเปลี่ยนแห่งสต็อกโฮล์ม โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมจากยุคกลางและยุคเรเนซองค์
• Den Gyldene Freden — ภัตตาคารที่เก่าแก่ที่สุดในโลก การตกแต่งภายในยังคงเป็นเหมือนเดิมทุกอย่าง นับตั้งแต่เปิดร้านในปี 1722 ที่นี่ในอดีต เคยเป็นคาเฟ่ของเหล่าขุนนางและชนชั้นนำ และยังเคยเป็นแหล่งรวมตัวของเหล่าศิลปิน นักเขียน นักแต่งเพลง จิตรกร ปัจจุบันที่นี่ได้รับการดูแลโดย Swedish Academy ซึ่งเป็นองค์กรที่รับหน้าที่คณะกรรมการตัดสินรางวัลโนเบล สาขาวรรณกรรมอีกด้วย
—————
♦ Bern – Switzerland ♦
— ถือเป็นความรู้ใหม่ ว่าสวิตเซอร์แลนด์นั้นไม่มีเมืองหลวง หากแต่เมือง Bern นี้ คือเมืองหลวงในตรากฎหมายเท่านั้นเอง เขตเมืองเก่าของเบิร์น หรือ ‘Innere Stadt’ อันสวยงามประหนึ่งอยู่ในเทพนิยายนั้น ได้รับการขึ้นทะเบียนในปี 1982 ภายในเขตเมืองเก่านี้มีทั้งบ้านเรือนโครงสร้างเดิมที่ถูกอนุรักษ์เอาไว้อย่างสวยงาม รวมถึงสถาปัตยกรรมจากยุคกลาง น้ำพุรูปปั้นจากยุคเรเนซองค์ 11 แห่ง เรียกได้ว่าถ้าจะเดินให้ทั่ว ก็ต้องเวลาเป็นวันหรือหลายวันเลย
สถานที่ท่องเที่ยว:
• Zytglogge — หอนาฬิกาประจำเมืองศิลปกรรมจากยุคกลาง ถือเป็นแลนด์มาร์คที่ทุกคนต้องมาเช็คอิน จุดเด่นที่สุดคือตัวเรือนนาฬิกา ที่ประดับประดาด้วยลวดลายและศิลปกรรมจากยุคกลาง และเป็นนาฬิกาดาราศาสตร์จักรกลที่นิยมสร้างกันในสมัยนั้นอีกด้วย
• Bärengraben — ตามตำนานเล่าว่า ชื่อเมือง Bern นั้น กษัตริย์ผู้ก่อตั้งได้เลือกตั้งชื่อจากสัตว์ตัวแรกที่จับได้ในการสำรวจ ซึ่งนั่นก็คือ หมี และได้ก่อสร้างคอกหมีเอาไว้ให้ชาวเมืองได้ชม ปัจจุบันคอกหมีถูกกลายสภาพเป็นสวนสัตว์สาธารณะ นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมโครงสร้างเดิมที่ถูกอนุรักษ์ไว้ได้
• Nydeggbrücke — สะพานเก่าแก่ที่ก่อสร้างขึ้นในปี 1840 เดิมเป็นสะพานเดียวที่สร้างข้ามแม่น้ำ นักท่องเที่ยวนิยมเดินขึ้นไปบนสะพาน เพื่อถ่ายภาพคุ้งน้ำสีเขียวมรกตในฤดูร้อน กับบ้านเรือนเก่าแก่หลังคาสีน้ำตาล สวยงามชวนฝันเป็นที่สุด
—————
♦ Shiraz – Iran ♦
— ขอยกที่สุดแห่งความอลังปังเว่อร์ให้กับที่นี่ เมืองชีราซ ในฐานะของเมืองศูนย์กลางการค้าขายอายุเก่าแก่กว่าพันปี และยังเป็นเมืองโบราณที่เก่าแก่ที่สุดของเปอร์เซีย ชีราซเลื่องชื่อในฐานะของเมืองกวี นิยาย ไวน์ และดอกไม้ จุดเด่นของเมืองนี้ นอกจากตลาดเก่าแก่ภายใต้สถาปัตยกรรมแบบเปอร์เซียที่สวยงามตามอย่าง geometric แล้ว ยังมีสวนแบบดั้งเดิมกระจายอยู่ทั่วทั้งเมือง รวมถึงโรงอาบน้ำโบราณ และมัสยิดที่ประดับประดาด้วยกระเบื้องเคลือบลวดลายสละสลวย และกระจกสีสะท้อนแสงแสนตระการตา
สถานที่ท่องเที่ยว:
• Nasir al-Mulk Mosque — หรือที่เรียกกันว่า มัสยิดสีชมพู จุดเด่นที่ทุกคนต้องแวะชมและถ่ายภาพ คือเพดานประดับกระเบื้องและลวดลายเรขาคณิตสีสันสดใส และผนังกระจกสี ที่เมื่อถึงเวลาที่แสงส่องมาพอดี จะพบกับความขรึมขลังสุดเปี่ยมเสน่ห์ของที่นี่
• Qavam House — บ้านและสวนอันเก่าแก่แต่โบราณของตระกูลพ่อค้าผู้มั่งคั่ง อดีตผู้ครองเมือง Shiraz ภายในตกแต่งอย่างสวยงามด้วยสถาปัตยกรรมแบบเปอร์เซียผสมวิกตอเรียนจากอังกฤษ พร้อมทั้งภูมิสถาปัตยกรรมแสนงดงามของสวนน้ำพุ และทิวแถวของต้นอินทผาลัม และดอกไม้เมืองร้อนอันงดงาม
• Eram Garden — สวนและวังอันเก่าแก่ของผู้นำชาว Qashqai (คาชคาล) ตั้งอยู่ในอุทยานพฤกศาสตร์ มหาวิทยาลัย Shiraz ด้วยสถาปัตยกรรมของตัววัง และผังสวนเปอร์เซียอันงดงามเป็นแบบฉบับ ทำให้ที่นี่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
—————
♦ Old Dhaka – Bangladesh ♦
— ขอยกทั้งความเก่า ดิบ เรียล และทุกสิ่งที่คุณอาจจะหวาดกลัวอยู่หน่อยๆ ไว้ที่นี่ เขตเมืองเก่าในเมืองหลวงดากาของบังคลาเทศนั้น เราจะได้พบกับวิถีชีวิตแบบชนชาวเบงกอลดั้งเดิม ที่ใช้ชีวิตอย่างหนาแน่น รถสามล้อประดับสีสันสดใสวิ่งวนไปมา พร้อมกับวิถีที่ดำเนินไปอย่างปกติท่ามกลางสถาปัตยกรรมจากยุคโคโลเนียล ที่นี่พีคสุดในเรื่องของอาหารกลิ่นอายดั้งเดิมแท้ๆ และเทศกาลสนุกสนานของชาวมุลสิมอย่างงานเทศกาลสาดสี ที่สีสันสดใสจะถูกทาบทาไปทั่วทั้งเมือง
สถานที่ท่องเที่ยว:
• Lalbagh Fort — หรือฟอร์ตอุรังกาบัต เป็นทั้งวังและป้อมปราการริมแม่น้ำ Buriganga ภายในมีซากปรักหักพังที่สร้างไม่เสร็จมาตั้งแต่คริสตศตวรรษที่ 17 ตรงกลางของพื้นที่ คือสุสานของ Bibi Pari ลูกสาวผู้ตายก่อนวัยอันควรของ Shaista Khan ผู้ครองเมืองคนสำคัญในยุครุ่งเรือง
• Beauty Boarding — ชื่อฟังดูสาว แต่ที่นี่คือโรงแรมและร้านอาหารเก่าแก่ ที่เดิมเคยเป็นสถานที่รวมตัวของเหล่านักคิด นักเขียน กวี นักเคลื่อนไหว ชาวเบงกาลี จุดเด่นคือร้านอาหารที่เสิร์ฟเมนูเบงกาลีแท้ๆ รสอร่อยชนิดที่อาจทำให้แรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานคุณพลุ่งพล่านเลยทีเดียว
• Hussaini Dalan — สถาปัตยกรรมที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่คริสตศตวรรษที่ 17 สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่พำนักของอิหม่าม หรือผู้นำทางศาสนา งดงามทั้งภายนอกและภายใน โดยเฉพาะบ่อน้ำที่สะท้อนสีขาวของตัวอาคาร
—————
♦ Kurashiki – Japan ♦
— คุระชิกิ เป็นท่าเมืองเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคอาคายามะ จุดเด่นของที่นี่ที่ชัดที่สุดคือคลองสาขาที่ถูกขุดขึ้นมาตั้งแต่สมัยเอโดะ ชื่อเมืองคุระชิกิ แปลว่า เมืองยุ้งฉาง ซึ่งหมายถึงว่าเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยยุ้งฉางเก็บข้าวกระจัดกระจายอยู่เต็มไปหมด เมืองนี้คึกคักมาโดยตลอด เรื่อยมาจนถึงสมัยเมจิก็มีการสร้างสาธารณูปโภคสำคัญในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมมากมาย ซึ่งสถานที่จากทั้งสองยุคสมัยก็ถูกอนุรักษ์เอาไว้อย่างดี และกลายเป็นเมืองท่องเที่ยวสุดอันซีนที่ทุกคนต้องมา
สถานที่ท่องเที่ยว:
• Canal Area — พื้นที่ประวัติศาสตร์ที่อุดมไปด้วยคูคลองนั้น ตั้งอยู่ในเขต Bikan Historical Quarter แต่ก่อนนั้นแถบนี้อุดมไปด้วยยุ้งเก็บข้าวกระจัดกระจายไปทั่วทั้งเมือง เมื่อยุ้งไหนขายข้าวได้ ก็จะลำเลียงลงเรือ เพื่อไปส่งต่อยังเรือใหญ่ที่จอดรออยู่ที่ท่าเรือชายฝั่งทะเล นอกจากนั้นบริเวณเมืองเก่ายังมีทั้งพิพิธภัณฑ์ คาเฟ่ ร้านอาหาร ที่ใช้โครงสร้างอาคารเดิมมาตั้งแต่ครั้งสมัยเมจิอีกด้วย
• Ohara Museum — พิพิธภัณฑ์ศิลปะตะวันตกแห่งแรกของญี่ปุ่น โดดเด่นด้วยคอลเล็กชั่นงานศิลปะชิ้นมาสเตอร์พีซทั้งจาก ปิกัสโซ่ โกแกง พอลล็อค และอีกมากมาย
• Ivy Square — หมู่อาคารสมัยปฏิวัติอุตสาหกรรมเมจินี้ เดิมเคยเป็นโรงงานฝ้ายมาก่อน ปัจจุบันกลายเป็นพิพิธภัณฑ์ โรงแรม และร้านอาหาร สามารถเดินเล่นและพักผ่อนได้ ไม่ใกล้ไม่ไกลจากบริเวณคลองสายหลักนัก
—————
จุดหมายหนึ่งของทริป The Ultimate BMW M Ice Experience ณ ประเทศสวีเดน ก็คือการได้เยี่ยมชมเมืองเก่าในเมืองใหม่อย่าง Gamla Stan ที่อุดมไปด้วยสถาปัตยกรรมงดงามจากยุคกลางในคริสตศตวรรษที่ 17
ซึ่งสมาชิกโปรแกรม BMW The Ultimate JOY Experience จะได้ไปสัมผัสประสบการณ์
พิเศษไปกว่านั้น! กับประสบการณ์สุด exclusive อย่างการได้ขับรถบนพื้นผิวหิมะและน้ำแข็ง โดยใช้เทคนิคการเข้าโค้งและความเร็วสูงที่เฉพาะเจาะจง และการได้ลอง Oversteer และ Understeer เข้าโค้งบนสนามทดสอบแบบลืมหายใจ ภายใต้การดูแลของผู้ฝึกสอนอาวุโสที่ได้รับการรับรองจาก BMW International Racing Experience
สำหรับเจ้าของรถ BMW ที่สนใจทริปสุดพิเศษและ exclusive จากโปรแกรม BMW The Ultimate JOY Experience ลงทะเบียนเป็นสมาชิกฟรี! ที่ www.bmwultimatejoy.com/th จ
#TheUltimateJOYExperience #BMWultimateJOY #BMWprivilege
RECOMMENDED CONTENT
ภาพยนตร์อันน่าสนใจโดยผู้กำกับมัวร์คาร์เบล เรื่องนี้ได้ตามติดและถ่ายทอดชีวิตของเลดี้ กาก้าตลอดระยะเวลา 8 เดือน