สาวๆทาสแมว คงมีเหตุผลนับร้อยนับพันมาอธิบายว่าทำไม๊ทำไม ถึงรักเจ้าเหมียวตัวน้อย (หรือไม่น้อย) จอมเอาแต่ใจพวกนี้นัก แถมตอนนี้แมวก็แทบจะครองพื้นที่สื่อไปทั้งโลกแล้ว และกลายเป็นแมวเซเลบกันมากมาย ทั้งเจ้าแมวหน้าบูด Grumpy Cat, แมวกล่อง Maru, เหมียวแบ๊ว Nala หรือจะมีสตอรี่เก๋ๆแบบ Bob แมวข้างถนน อย่างไรก็ตามในโลกตะวันตกคำว่า Cat Lady หรือสาวทาสแมว นั้นกลายเป็นคำที่ไม่ค่อยดีนัก เพราะเดี๋ยวนี้เอาไว้เรียกสาวทึนทึกแล้วน่ะสิ!

Cat Lady กลายเป็นคำไม่น่าพิสมัยอีกต่อไปเพราะว่าหนุ่มๆมองว่าสาวรักแมวเป็นคนเข้าถึงยาก แถมเซ้นสิทีฟเกินเหตุ ยิ่งไปกว่านั้นพวกหล่อนจะติดแมวซะยิ่งกว่าพวกเขา อะไรก็มีแต่แมวๆๆๆ แถมยิ่งแก่ตัวไปก็จะกลายเป็นมนุษย์ป้าขั้นกว่าที่เรียกว่า Crazy Cat Lady ที่มีความคลั่งแมวระดับเกินรับที่เลี้ยงแมวเป็นฝูงและรักยิ่งกว่าลูกกว่าหลาน

Crazy Cat Lady ได้รับการวิจัยจากด็อกเตอร์  Naftali Berrill  Director of the New York Center for Neuropsychology and Forensic Behavioral Science ว่าการที่คนเรากลายเป็นมนุษย์ป้าบ้าแมวได้นั้นเพราะว่าบุคคลเหล่านี้มักจะแสดงออกความรู้สึกของตัวเองได้ยากเวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่น และคิดว่าการได้รับความรักจากสัตว์เลี้ยงนั้นทดแทนความรู้สึกโหยหาความสัมพันธ์ของมนุษย์ได้ ทำให้มีการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงเป็นจำนวนมาก และมักมีปัญหาในการเข้าสังคม รวมถึงอาจจะมีปัญหาทางด้านอารมณ์ เช่น การเป็นโรคซึมเศร้า

การเป็น Cat Lady และ Crazy Cat Lady นั้นได้รับความสนใจจนมีหนังสารคดีเรื่อง Cat Ladies (2009) ที่นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับผู้หญิง 4 คนที่ทุ่มเทชีวิตให้กับแมวของพวกเธอ ออกฉายในเทศกาลหนังสารคดี Hot Docs Festival ในปี 2009

ชมตัวอย่างของเทรลเลอร์ CAT LADIES

Stereotype ของ Crazy Cat Lady

1. ไม่ได้จำกัดอายุแต่สาววัย 40 ขึ้นไปจะโดนเพ่งเล็งเป็นพิเศษ

2. เป็นโสด อยู่ตัวคนเดียว ไม่ก็โดนมองว่าชาตินี้ยังไงก็ไม่มีแฟน มีแต่แมว แมว แมว เท่านั้น

3. มักเลี้ยงแมวเป็นจำนวนมากชนิดว่าเป็นฝูง รวมถึงชอบเข้าไปเล่นกับแมวจรจัด หรือแมวของคนอื่น

4. มักใส่เสื้อผ้าที่มีลายแมว รวมถึง accessories ต่างๆ เช่น หมวก และเครื่องประดับ และสะสมทุกอย่างที่เป็นรูปแมว หรือเกี่ยวกับแมว

5. เอางานอดิเรกทุกอย่างไปพัวพันกับแมวได้ทั้งหมด เช่น ปักครอสติสเป็นรูปแมว ถ่ายรูปแมวเก็บไว้เป็นอัลบั้ม

6. เซ้นสิทีฟในเรื่องเกี่ยวกับแมวเป็นพิเศษ ชนิดที่ว่าแค่พูดถึงแมวก็ร้องไห้ได้

7. มีแนวโน้มว่าจะตายอย่างโดดเดี่ยว รายล้อมไปด้วยแมว และศพแหว่งไปนิดหน่อยเพราะแมวแทะ (โอเค ข้อนี้อาจจะเกินไปหน่อย แต่มีความเป็นไปได้สูง)

เหล่าของใช้และ accessories ที่สาวๆ Cat Lady ต้องมีไว้ครอบครอง

การจับเจ้าแมวเหมียวมาแต่งตัว คือสิ่งที่ Cat Lady โปรดปราน

Crazy Cat Lady ในสื่อต่างๆ

สื่อต่างๆ มักนำเสนอ Crazy Cat Lady ในแง่มุมที่ไม่ดีนัก ทำนองว่าเป็นหญิงเพี้ยน แก่ทึนทึกอยู่ตัวคนเดียวกับฝูงแมวของเธอ และมีปัญหาทางจิตนิดๆ เช่น

1. Dr. Eleanor Abernathy MD JD หรือ Crazy Cat Lady ตัวละครจากเรื่อง The Simpsons เป็นเหมือนคำนิยามของคำๆนี้ เพราะเธอเพี้ยนและคลั่งแมวมากถึงขั้นหิ้วไปไหนๆต่อไหนด้วยตลอด 

2. Dolores Umbridge ตัวละครสุดร้ายกาจจากเรื่อง Harry Potter เป็นอีกตัวอย่าง Cat Lady ที่รักแมวมากจนตกแต่งผนังห้องของเธอไปด้วยจานประดับรูปแมวที่ขยับได้และเสียงเมี๊ยวๆตลอด

3. Susan Cooper จากเรื่อง Spy (2015) แม้ว่าเธอคนนี้จะไม่ได้เป็นทาสแมวแต่ถึงกับเซ็งไปเลยเมื่อมีคนคิดว่าเธอเป็น Cat Lady แถมยังโดนยัดเยียดให้ปลอมตัวเป็นมนุษย์ป้าบ้าแมวสุดเฉิ่มเบ๊อะใส่เสื้อลายแมว ถือถุงผ้าลายเท้าแมวไปปฏิบัติภารกิจ

Dolores Umbridge จากภาพยนตร์ Harry Potter โปรดสังเกตจานลายแมวต่างๆ ที่ประดับบนผนังห้องของเธอ

Susan Cooper จากภาพยนตร์เรื่อง Spy ที่ต้องแปลงโฉมเป็นยัยป้าบ้าแมวสุดเฉิ่ม

Cat Lady คนสวย Taylor Swift

แม้ว่าการเป็น Cat Lady จะถูกปรามาสอย่างมากในปัจจุบัน แต่ก็มีหลายคนพยายามที่จะเปลี่ยนคำนิยามคำนี้ใหม่ หนึ่งในนั้นก็คือนักร้องสาวสวย Taylor Swift ที่ยืดอกยอมรับและภูมิใจว่าเธอเป็น Cat Lady และเปลี่ยนคำถากถางเป็นโอกาส ด้วยการโฆษณาความบ้าแมวของเธอในโฆษณา Diet Coke ซะเลย ที่ทุกครั้งที่ Taylor ดื่มโค้กก็จะมีลูกแมวโผล่ออกมาหนึ่งตัว เท่ากับว่า ดื่มโค้กทำให้เธอมีความสุข และความสุขของเธอคือการอยู่ท่ามกลางฝูงแมวนั่นเอง

โฆษณา Taylor Swift – Kittens – Diet Coke – Commercial Ad

การที่ Taylor Swift ออกมายอมรับภาพลักษณ์ Cat Lady ทำให้เกิดผลดีเพราะทุกคนมองภาพลักษณ์ของ Cat Lady ใหม่ว่าไม่จำเป็นต้องเป็นยัยเพิ้งประสาทๆ แต่สวยเริ่ดอย่าง Taylor ก็บ้าแมวได้ เพราะเป็นที่รู้กันว่าเธอห่างไกลจากคำว่า “ทึนทึก” แบบสุดๆ

สาวๆ Cat Lady ทั้งหลาย ถ้ายังไม่อยากกลายเป็น Crazy Cat Lady อาจจะลองใช้วิธีแบบสาว Taylor ดูก็ได้ ปรับตัวเองซะใหม่ ว่าชีวิตนี้ไม่ได้มีแต่แมวแต่อย่างเดียว และเปิดโอกาสให้กับสิ่งใหม่ๆบ้าง ไม่แน่ว่าการได้คนรู้ใจมาช่วยเลี้ยงแมว อาจจะดีกว่าอยู่ตัวคนเดียวแล้วตายจากไปอย่างโดดเดี่ยวก็ได้นะ

Writer: PUMPUI