(Send me fries —> Los Angeles Country Fair, Pomona, California by Victor Landweber, 1979)
พูดตามตรงในฐานะของคนที่ชอบเดินเข้าเดินออกแกลเลอรี่ชมงานศิลปะเป็นว่าเล่น เราชอบและรักโปรเจ็กต์นี้มาก!
Send Me SFMOMA เป็นโปรเจ็กต์สุดแสนครีเอทีฟจาก San Francisco Museum of Modern Art (SFMOMA) ที่จะส่งผ่านผลงานศิลปะจากยุคโมเดิร์นไปสู่ผู้คนให้ได้มากที่สุด ครั้นจะทำแคมเปญเชิญชวนให้มาเยี่ยมเยียนมิวเซียมก็ออกจะยากเย็น เมื่อคนไม่มาหา งั้นเราก็ต้องเข้าหาคนแทนสิ
(Send me ocean —> ‘Panama City, Florida’ by Elliott Erwitt, 1974; ca. 1979)
ด้วยความที่ SFMOMA แม้จะเป็นมิวเซียมด้านโมเดิร์นอาร์ทที่มีขนาดใหญ่ แต่เชื่อหรือไม่ว่าผลงานศิลปะที่นำมาจัดแสดงในมิวเซียมนี้ เป็นเพียงแค่ 5% ของคอลเล็กชั่นที่มิวเซียมมีทั้งหมด (34,678 ชิ้น – ข้อมูลจากเว็บไซต์ของ SFMOMA) ฉะนั้นเมื่อฐานข้อมูลผลงานศิลปะอีก 95% ที่เหลือครบถ้วนสมบูรณ์ และเปิดโอกาสให้ทุกคนเข้าถึงได้ผ่านเว็บไซต์ www.sfmoma.org แล้ว จะมีหนทางใดในการเผยแพร่ผลงานศิลปะยุคโมเดิร์นเพิ่มมากขึ้นอีก โปรเจ็กต์ ‘Send Me SFMOMA‘ จึงเกิดขึ้น
(Send me drinks —> Reopening, Waldorf–Astoria Peacock Alley, New York by Garry Winogrand, ca. 1971)
จากข้อมูลที่ทาง SFMOMA ศึกษาและเอามาทำ big data พบว่า จำนวนคอลเล็กชั่นที่พิพิธภัณฑ์มี หากจะแสดงให้ครบทั้งหมดจะต้องมี SFMOMA ถึง 17 แห่ง ผู้ชมต้องเดินชมผลงานเป็นระยะทาง 121.3 ไมล์ มาดูข้อมูลปกติกันบ้าง จากการสำรวจผู้เข้าชมมิวเซียมนี้พบว่า ผู้คนใช้เวลาพิจารณาผลงานศิลปะหนึ่งชิ้นเพียงแค่ชิ้นละ 7 วินาทีเท่านั้น! แล้วเราจะซาบซึ้ง เรียนรู้ และเข้าใจไปกับผลงานศิลปะเหล่านี้ได้ในระยะเวลา 7 วินาทีจริงๆ หรือ
มิวเซียมคิดต่ออีกว่า ถ้าสมมติว่าเราใช้เวลาชมผลงานชิ้นละ 7 วินาทีจริงๆ เราต้องใช้เวลาเยี่ยมชมมิวเซียมเพื่อชมผลงานศิลปะเฉพาะที่จัดแสดงถึง 3 วันเต็มๆ นั่นแปลว่า ถึงแม้ว่าเราจะได้มาเยี่ยมเยือนมิวเซียมนี้จริงๆ เชื่อได้เลยว่าต้องมีงานศิลปะหลายชิ้นที่เรามองข้ามมันไปด้วยเหตุผลเรื่องเวลา
(Send me summer —> ‘Sunday in the Country’ by Neil Folberg, 2003)
‘Send Me SFMOMA’ จึงเกิดขึ้นมาด้วยหลักการง่ายๆ ที่ว่า ส่ง text มา แล้วเดี๋ยวเราจะส่งงาน art กลับไป! ซึ่งข้อดีงามของโปรเจ็กต์นี้มีมากมาย นอกจากที่ทำให้คนเข้าถึงผลงานศิลปะได้ง่ายดายขึ้นเพียงแค่ปลายนิ้วแล้ว แต่ละคนก็ยังได้มีโอกาสมีคอลเล็กชั่นศิลปะตามความสนใจของตัวเอง แถมด้วยการที่สามารถแชร์ผลงานที่ตัวเองชื่นชอบไปยังเพื่อนๆ และคนรู้จักได้อีกด้วย
เพียงแค่พิมพ์ว่า ‘send me _____’ แล้วตามด้วยคีย์เวิร์ด สี หรือแม้แต่ emoji ลงในช่องว่าง ไปที่ 572-51 (ลืมบอกไปว่าโปรเจ็กต์นี้มีแค่ US เท่านั้น แต่ได้ยินมาว่าทางมิวเซียมกำลังขยายขอบเขตให้สามารถ send me ได้จากทั่วทุกมุมโลก) ไม่นานเกินรอ SFMOMA ก็จะส่งเมสเสจกลับมาเป็นภาพผลงานศิลปะยุคโมเดิร์นที่ตอบโจทย์กับคำที่คุณใส่คีย์เวิร์ดลงไป พร้อมด้วยชื่อผลงาน ชื่อศิลปิน และปีที่สร้างสรรค์ผลงาน ประหนึ่งเรากำลังเดินเข้าไปในแกลเลอรี่บนหน้าจอมือถือนั่นเอง
(Send me president —> Assassination of John F. Kennedy, November 22,1963 by Abraham Zapruder, 1963)
คำง่ายๆ หลายคำที่เราส่งเมสเสจไปหา SFMOMA ใช่ว่าจะได้ผลงานศิลปะกลับมาเหมือนกันทุกคน อย่างที่บอกว่ามันคือการสุ่มจาก database ผลงานศิลปะที่ SFMOMA มีมากกว่าล้านชิ้น! โดยในช่วง Beta (ช่วงทดลอง) นี้ มีคนส่งเมสเสจมาหา SFMOMA มากกว่า 12,000 ครั้งภายในระยะเวลา 4 วัน
SFMOMA ออกตัวว่า มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่คนจะสามารถชมผลงานศิลปะจำนวน 34,678 ชิ้นได้หมด แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจากโปรเจ็กต์นี้คือความสนุก ความใหม่ และความเป็นตัวตนของแต่ละคน ตัวอย่างเช่น ถ้าเราไปส่งไปว่า ‘send me a landscape’ ถ้าเราไปเสิร์ชข้อมูลใน database ของมิวเซียม เราจะได้ผลออกมาคือผลงาน 791 ชิ้นที่เกี่ยวข้องกับ landscape ซึ่งแน่ล่ะ เราไม่มีทางดูผลงานได้หมดแน่นอน ส่วนถ้าส่งเมสเสจไป คุณจะได้ผลงานที่เกี่ยวข้องกับ landscape ที่คัดมาให้เฉพาะคุณเท่านั้น 1 ภาพ ซึ่งมันอาจจะเป็นภาพที่คุณจะได้เห็นมันคนเดียวเท่านั้นก็ได้ ใครจะไปรู้
อย่างที่เราบอกว่าเราชอบและรักโปรเจ็กต์นี้มาก นึกภาพว่าเราได้มีโอกาสมีคอลเล็กชั่นเป็นของตัวเองตามตีย์เวิร์ดที่เราสนใจดูสิ แล้วจะพบว่ามันช่างสนุก น่ารัก และอิ่มเอมใจสักแค่ไหนเชียว
RECOMMENDED CONTENT
จบซีซั่นฟุตบอล FA Cup ไปแล้ว ก็ได้เวลาของ World Cup 2018 ที่ปีนี้จัดขึ้นที่ประเทศรัสเซีย โดยระหว่างการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอล FA Cup รอบชิงชนะเลิศนั้น BBC Sport ก็ได้ปล่อยเทรลเลอร์สุดครีเอท เพื่อกระตุ้นให้คนตั้งหน้าตั้งตารอชมฟุตบอลโลกในปีนี้อย่างใจจดใจจ่อ