เพิ่งจบไปหมาดๆ แบบสดๆ ร้อนๆ กับ Super Bowl Halftime shows ซึ่งปีนี้ก็ได้หนุ่มหล่อเสียงดีมีเสน่ห์อย่าง Justin Timberlake มาทำหน้าที่จัดเต็มแบบชุดใหญ่ให้กับโชว์พักครึ่งที่คนทั่วโลกต่างก็ต้องดู

เดิมทีแล้ว Halftime shows ถือเป็นประเพณีประจำการแข่งขันอเมริกันฟุตบอล ซึ่งก็เป็นปกติในทุกการแข่งขัน แต่สำหรับรอบชิงชนะเลิศของ National Football League (NFL) หรือที่เรียกรอบนี้กันอย่างติดปากว่า Super Bowl นั้น ถือเป็นรายการที่แย่งชิงเรตติ้งทางโทรทัศน์ชนิดที่ทุกแบรนด์ต่างก็แย่งชิง airtime มาให้จงได้

ยกตัวอย่างเช่นว่า โฆษณาหลายๆ ตัวลงทุนมหาศาลเพื่อซื้อเวลาในการฉายโฆษณาของตัวเองเพียงแค่ 30 วินาที แต่ก็ต้องคิดล่วงหน้าทำล่วงหน้ากันเป็นปี เพราะนี่คือช่วงเวลาที่ผู้คนจะจับจ้องหน้าจอโทรทัศน์มากที่สุดของปีเสียด้วยซ้ำไป ฉะนั้น ต่อให้เป็นโฆษณาที่คนอาจลุกหนี ก็ต้องคิดใหม่ทำใหม่ว่า จะทำอย่างไรให้คนจ้องหน้าจอกันต่อไปนั่นเอง

ซึ่งนอกจากโฆษณาระหว่างช่วงพักต่างๆ ในช่วงพักครึ่งนั้น ก็เริ่มมีการปฏิบัติประเพณีแสดงโชว์ต่างๆ ในช่วง Halftime shows กันมาตั้งแต่ปี 1967 จนปัจจุบันนี้ ศึก Super Bolw ก็จัดมาถึงครั้งที่ 52 แล้ว ในช่วงแรกนั้น Halftime shows จะเป็นการแสดงศักยภาพของวงโยธวาธิตและทีมเชียร์ลีดเดอร์จากมหาวิทยาลัยต่างๆ ที่ได้รับการคัดเลือก จนกระทั่งในปี 1991 ก็ถือเป็นครั้งแรกที่การแสดงในช่วงพักครึ่งนี้เปลี่ยนไปเป็นโชว์จากศิลปินที่มีชื่อเสียง

เชื่อหรือไม่ว่าในช่วงหนึ่ง โชว์ของ Super Bowl Halftime shows นั้น เคยอยู่ในความดูแลของ Disney ถึงขั้นที่ปีหนึ่ง ก็ทำโชว์โปรโมทดิสนีย์รีสอร์ท ยกขบวนและตัวการ์ตูนเข้ามาในสนามกันเลยทีเดียว

และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ก็เหมือนเป็นประเพณีว่า จะต้องคัดเลือกเอาศิลปินชื่อดังมาโชว์ ด้วยเหตุผลหลายๆ อย่าง ทั้งเรียกเรตติ้ง หรือแม้แต่การโปรโมตของตัวศิลปินเอง ในยุคหลัง พบว่ายอดดาวน์โหลดเพลงของพวกเขาสูงขึ้น เมื่อเพลงเหล่านั้นถูกโชว์ใน Halftime shows

เรตติ้งที่สูงที่สุดเป็นประวัติการ คือ Halftime show ของ Super Bowl XLIX (49) โดย Katy Perry ครั้งนั้นมียอดคนดูทั่วโลกทั้งสิ้น 120.3 ล้านคน! และถือเป็นยอดผู้ชมโทรทัศน์ที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์อีกด้วย ส่วนในครั้งที่ LI (51) โดย Lady Gaga ทาง NFL ก็เคยถึงขั้นโปรโมตว่าเป็น ‘most-watched musical event of all-time’ แต่จากการนับแล้ว ผลก็ออกมาน้อยกว่าครั้งที่ 49 อยู่ดี ด้วยยอดผู้ชม 117.5 ล้านคน (ซึ่งก็ถือว่ามากอยู่ดี)

ศิลปินชื่อดังของโลกหลายคนที่เคยผ่านสนาม Super Bowl Halftime shows ก็มีมากมาย ไล่มาตั้งแต่ Lady Gaga, Coldplay, Beyoncé, Bruno Mars, Katy Perry, Madonna, The Black Eyed Peas ส่วนระดับตำนานก็มีเช่นกัน อาทิ The Who, Red Hot Chilli Pepper, Prince, The Rolling Stones, U2 และ Michael Jackson เป็นต้น

ปัจจุบัน ด้วยมูลค่า airtime มหาศาล ฝ่ายที่ได้เงินแบบเหนาะๆ ไม่ใช่ใครที่ไหน ก็คือทาง NFL นั่นเอง ส่วนคนที่เสียเงินมากที่สุดไม่ใช่ใคร ก็คือสปอนเซอร์หลักนั่นเอง โดยล่าสุด นับตั้งแต่ครั้งที่ 41 เป็นต้นมา ก็เป็นการแย่งชิงสปอนเซอร์กันระหว่าง Pepsi และ Bridgestones ส่วนครั้งล่าสุดครั้งที่ 52 สปอนเซอร์หลักก็คือ Pepsi นั่นเอง

และแน่นอนว่า เมื่อ Pepsi คือสปอนเซอร์หลัก Pepsi ก็มีสิทธิ์อย่างเป็นทางการที่จะเลือกศิลปินคนใดก็ได้มาแสดง แน่นอนว่า ศิลปินคนนั้นไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินให้ NFL เลยสักดอลล่าร์ ทั้งหมดทั้งมวลนั้น Pepsi จ่ายให้ทั้งหมด

มีข้อมูลเบื้องลึกที่น่าสนใจนิดหน่อยเกี่ยวกับ Halftime shows ในแต่ละครั้ง ว่าทีมงานมีเวลา setup ทั้งเวทีและเครื่องเสียงทั้งหมดเพียงแค่ 6-7 นาทีเท่านั้น! หลังจากการแข่งขันในครึ่งแรกจบลง สถานีโทรทัศน์จะตัดเข้าโฆษณา และช่วงเวลานั้นนั่นแหละคือช่วงเวลาที่โหลาหลที่สุดแล้วของสนาม (ดูได้จากวิดีโอนี้)

มาที่ตัวโชว์กันบ้าง ในแต่ละปีนั้นก็จะมีไฮไลท์ของการโชว์ที่แตกต่างกันไป เราเลยขอคัดเลือก 5 โชว์ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาของ Super Bowl Halftime shows เพราะโชว์เหล่านี้แหละคือตัวกำหนดเรตติ้งชั้นดีของรายการโทรทัศน์ที่มีคนชมมากที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา รวมถึงยังมีประเด็นมากมายให้เราได้พูดถึงกันเป็นสัปดาห์

—————

Super Bowl LI Halftime shows — Lady Gaga
โชว์ของปีก่อน ครั้งที่ 51 เปิดตัวด้วย Lady Gaga ที่ร้องเพลง ‘God Bless America’ และ ‘This Land is Your Land’ บนหลังคาของสนาม NRG Stadium ในเท็กซัส จากนั้นก็ตามมาด้วยโดรนจำนวนมากที่บินและส่องแสงเป็นรูปธงชาติอเมริกา (ปีนั้นคือปีเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ) ส่วนโชว์ที่เหลือสำหรับเราก็ไม่ได้น่าตื่นเต้นอะไรมาก แต่ก็ทำให้เห็นว่า Lady Gaga มีศักยภาพและความแข็งแรง มากพอสำหรับไลฟ์ในสนามสเกลใหญ่ได้อย่างยอดเยี่ยมเลย

Super Bowl XLIS Halftime shows — Katy Perry
นี่แหละตัวจริงของการทำโชว์ นั่นเลยทำให้นี่คือโชว์ที่มีคนดูทางโทรทัศน์มากที่สุดในโลกถึง 120 ล้านคน การเปิดตัวแบบตำนานๆ อย่างการขี่สิงโตตัวยักษ์มา การ feat. ไฟลุกกับ Lenny Kravitz การแดนซ์ไปกับพี่ลูกบอลและพี่ฉลาม และการจบด้วยเพลง Firework ด้วยการลอยไปกับดาวตกพร้อมพลุตะไลไฟพะเนียง ก็ทำให้โชว์ถูกจัดเป็นโชว์ที่ดีที่สุดของ Super Bowl Halftime shows แล้ว

Super Bowl XLVII Halftime shows — Beyoncé
จะว่าไป โชว์พักครึ่งครั้งนี้ของ Beyoncé ถือเป็นหมุดหมายของการดีไซน์โชว์ให้สนุกทุกวินาที เซอร์ไพรส์กันทุกเพลง เอาง่ายๆ แค่การเปิดตัวเวทีของเธอก็ปังมากพอแล้วสำหรับแม่ แถมการดีไซน์พื้นที่การแสดงเวทีก็นับว่าคุ้มค่า แต่ละเพลงมีการใช้พื้นที่ของเวทีที่ไม่เหมือนกัน ทำให้ไม่เกิดความน่าเบื่อเลยสักนิด แต่ที่พีคสุดเห็นจะเป็นการกลับมารวมตัวของ Destiny’s Child นี่แหละ ที่ชุบชูใจพวกเรามาก

Super Bowl XLI Halftime shows — Prince
เมื่อพูดถึงเวทีของ Beyoncé แล้ว ก็ต้องพูดถึงเวทีของ Prince กันเสียหน่อย นี่คือเวทีสุดแสนจะ signature ของเขา แถมความพีคที่สุดของโชว์นี้ ก็คือซีนเพลง Purple Rain ท่ามกลางฝน และดอกไม้ไฟเฉลิมฉลองระดับยิ่งใหญ่ ถ้าได้อยู่ตรงนั้นคงน้ำตานองอาบสองแก้มแน่นอน เพราะมันพีคจริงๆ

Super Bowl XXVII Halftime shows — Michael Jackson
ความเป็นตำนานของโชว์นี้คือการทำเป็นโชว์ที่ทำให้ NFL เล็งเห็นว่า ควรดึงเอาศิลปินตัวท็อปมาโชว์ช่วงพักครึ่ง เพราะมันดึงเรตติ้งได้มากจริงๆ แค่ซีนเปิดตัวก็ถือว่าเวรี่สุด เริ่มการการเปิดตัวจากสองมุมสนาม ด้วยการกระโดดขึ้นจอฉายมันเสียเลย ก่อนที่ไมเคิลตัวจริงจะโผล่มาที่เวทีหลักกลางสนาม จากนั้นก็แค่ยืนนิ่งๆ เท่ๆ เป็นนาที โดยที่เสียงกรี๊ดไม่มีทีทาว่าจะหมดลง นี่สิ ตำนานที่แท้จริง ซึ่งโชว์ความยาวเพียงแค่ 7 นาที แต่ก็ถือว่าเพียงพอแล้วสำหรับแฟนนานุแฟนทั้งปวง