เดนิม แจ๊คเก็ต หรือ แจ๊คเก็ตยีนส์ เป็นไอเทมชิ้นสำคัญที่มักจะพบเห็นได้ตามท้องถนนในแฟชั่นทุกวันนี้ เป็นแจ๊คเก็ตที่สามารถใส่ได้ดีไม่ว่าจะในหน้าหนาว หรือใส่เอาลุคเท่ๆได้ในหน้าร้อนและฝนก็ดี วันนี้เรามีคอลัมน์ที่จะมาพูดถึงเสื้อผ้าชิ้นนี้กัน จากที่มาที่ทำให้ลุคของแจ๊คเก็ตยีนส์กลายเป็นลุคติดตาใครหลายๆคน ไปจนถึงแนวทางการใส่ และวิธีการเลือกที่น่าจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
Denim Jacket มาจากไหน?
ย้อนไปตั้งแต่ต้น 1900s ที่ลีวายส์และลี ได้ผลิตแจ๊คเก็ตยีนส์ออกมาในท้องตลาด เพื่อตอบโจทย์การใช้งานของคนเหมืองและคนทำงาน ที่เราพูดกันมาถึงตรงนี้แน่นอนว่าต้องเป็นประเทศอื่นไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่อเมริกา ประกอบกับในโลกตะวันตกยุคนั้นคาวบอยเป็นเรื่องของยีนส์และยีนส์ มันให้อารมณ์ทั้งความแมน ความลุย ความสมบุกสมบัน จากยุครุ่งเรืองจนถึงวันที่โลกคาวบอยเริ่มจะจางหายไป สิ่งที่มอบกลับมาให้กับโลกแฟชั่นทุกวันนี้ก็คือยีนส์นี่ล่ะที่ยังคงถูกจับคู่ที่ให้อารมณ์อเมริกันสุดๆ ร่วมก่อร่างสร้างตัวโดยบรรดา Pop Icon ทั้งในจอเงินและโลกของดนตรีต่างๆ รูปที่เรามาฝากกันนี้น่าจะช่วยให้คุณอิ่มไปกับ Denim Jacket ใน Pop Culture
อัตลักษณ์ความเป็นอเมริกันในยุคคาวบอย ที่มีแฟชั่นไอเทมชิ้นสำคัญบนตัวคือแจ๊คเก็ตยีนส์ สังเกตได้จากนักแสดงดังในยุคนั้นอย่างเช่น Montgomery Clift ในแจ๊คเก็ต Wranglers 11 MJZ จากหนังเรื่อง The Misfits (1961) / Steve McQueen ไอคอนแห่งความคูลในยุคนั้น / ขนาดใบโฆษณาของ Marlboro ก็ยังตอกย้ำความสำคัญของแจ๊คเก็ตยีนส์ด้วยลุคคาวบอยอเมริกันแท้ๆ
Paul Newman ใน Lee Storm Rider Jacket จากหนังเรื่อง Hud (1963)
ความพิเศษของ Denim Jacket บนตัวผู้ใส่
ในโลกของแฟชั่นคุณผู้ชาย มีไอเทมอยู่ไม่กี่ชิ้นที่ยังคงความ Timeless อยู่เหนือกาลเวลา หนึ่งในนั้นก็คือแจ๊คเก็ตยีนส์นี่ล่ะ แปลกมากนะที่สถานะของแจ๊คเก็ตยีนส์เหมือนอยู่ตรงกลางระหว่างโลกของแฟชั่นและโลกของเสื้อผ้าใส่สบาย มันสามารถเป็นได้ทั้งชุดลำลอง ในขณะเดียวกันถ้าจับคู่ดีๆมันก็ให้ลุคที่เป็นทางการได้ด้วยเหมือนกัน ตามที่กล่าวไปถึงที่มาข้างต้น แจ๊คเก็ตยีนส์จะมอบลุคความดิบ ความแมน เป็นแนวทาง Rugged ให้กับผู้ที่สวมใส่ได้เป็นอย่างดี เรารับประกันเลยว่าต่อให้คุณจะไม่ใช่คนรูปร่างบึกบึน หรือไม่ใช่ลุคที่แมนอะไร เมื่อได้ไอเทมชิ้นนี้มาอยู่บนตัว มันจะเพิ่มความดุของคุณได้อย่างมาก
(ไล่จากซ้ายไปขวา) Bradon Flowers นักร้องนำวง The Killers ในชุดแจ๊คเก็ตยีนส์ที่กลายเป็นเหมือนรูปไอคอนนิคของเขาไปแล้ว / David Beckham ในแจ๊คเก็ตยีนส์ของ Dolce & Gabbana / ใครว่า Ryan Gosling ในเรื่อง Drive (2011) มีดีแค่ชุด Bomber Jacket เราคงต้องขอเถียงด้วยลุคแจ๊คเก็ตยีนส์รูปนี้เลย!
วิธีการเลือก Denim Jacket
ถึงวันนี้รูปทรงของแจ๊คเก็ตชนิดนี้ก็ยังไม่แตกต่างไปจากเดิมเท่าไรนัก จะมีก็แต่โทนสีของการฟอกที่ทำออกมาให้เลือกซื้อกัน หรือการตัดเย็บรอยตะเข็บที่ทำตามจินตนาการของดีไซน์เนอร์คนต่างๆ เราจะมาพูดถึงเรื่องวัสดุที่ใช้ทำหรือชนิดการฟอกกันก่อน
ทำความเข้าใจกับชนิดของวัสดุ…
ถ้าจะพูดถึงต้นฉบับและความคลาสสิค ก็คงต้องเป็นแจ๊คเก็ตที่ทำมาจากเนื้อผ้าเดนิมแท้ๆของแบรนด์ดังลีวายส์และลี เนื้อผ้าที่แข็งหนาและทนทาน อย่าแปลกใจถ้าใส่ในตอนแรกแล้วมันดูอึดอัดขยับลำบาก เพราะนี่คือเอกลักษณ์พิเศษของเดนิม เมื่อใส่ไปนานๆมันจะเริ่มจดจำเชปของคนใส่ และฟิตติ้งด้วยตัวเอง จนเข้ารูปเนื้อผ้าเริ่มนิ่มขึ้นและใส่สบายในที่สุด
ส่วนถ้าไม่ใช่โทนสี Indigo น้ำเงินเข้มของเดนิมแล้ว ในช่วงหลังๆมานี้ตั้งแต่ปี 60s เป็นต้นมา โลกของยีนส์ก็มีความสนุกเกิดขึ้น สำหรับคนที่เล่นยีนส์อยู่แล้วคงทราบกันดีว่าเอาแค่กางเกงยีนส์ก็มีทรงหลากหลายในยุคดังกล่าว ไม่ว่าจะขาม้า ขากระดิ่ง สกินนี่ยีนส์ และการฟอกก็มีเยอะมากมายเช่นกัน ไม่ต่างอะไรกับในมุมแจ๊คเก็ต เราคงยังจำภาพ Bob Dylan ใส่แจ๊คเก็ตยีนส์สีฟอกพร้อมปัก Patchwork มากมายในยุคบุปผาชน หรือ Bruce Springsteen สวมเสื้อกั๊กยีนส์สีฟอกๆดิบๆให้อารมณ์ Working Class ได้เป็นอย่างดี แม้แต่ในยุคพังค์รวมไปถึงไอคอนความ Grunge อย่าง Kurt Cobain ก็มีการใส่แจ๊คเก็ตยีนส์สีฟอกเช่นกัน
(ไล่จากซ้ายไปขวา) สองสี่เต่าทอง จอหน์ เลนนอน และ จอร์จ แฮริสัน ในชุดแจ๊คเก็ตยีนส์ยุคฮิปปี้ / ความเท่ของราชินีเพลงป็อป มาดอนน่า ในชุดแจ๊คเก็ตยีนส์ช่วงปี 80s / ตำนานเพลงเร็กเก้ บอบ มาร์เลย์ ในชุดแจ๊คเก็ตยีนส์
ภาพของสาวน้อยกราฟฟิตี้ในยุค 80s ที่มีแจ๊คเก็ตยีนส์ลายพรินท์ทับด้านหลังกำลังเป็นที่นิยมในขณะนั้น
มาถึงเรื่องการไซส์และการตัดเย็บ…
เราคงบอกกันตรงนี้เลยว่า แจ๊คเก็ตยีนส์มีความประหลาดอย่างหนึ่งคือ มันไม่สามารถใส่ด้วยลุคที่ดูหลวมแล้วดูดีได้เลย ถ้าไม่เชื่อก็ลองไปหยิบ Oversize แจ๊คเก็ตยีนส์ของเพื่อนตัวใหญ่มาใส่ดูสิ มันดูยังไงก็แปลกจริงไหม? เพราะมันถูกสร้างมาให้ใส่ด้วยฟิตติ้งที่พอดีกับตัวคนใส่จริงๆ แต่จะฟิตมากน้อยขึ้นอยู่กับลุคที่คุณต้องการ ถ้าอยากได้ความพังค์หน่อยๆ เข้าคู่กับยีนส์ทรงสกินนี่ ก็ใช้คัตติ้งที่ฟิตเข้ารูปมากๆ หรือถ้าอยากได้ลุคคลาสสิคแบบอเมริกันแท้ๆ ก็เหลือพื้นที่ช่วงตัวไว้ให้จับคู่กับเสื้อเชิ้ตลายตารางด้านในหรือเสื้อยืดหน่อยก็ดี ข้อสำคัญถ้าไหล่หรือใต้แขนมีช่องว่างเยอะเกินไปเมื่อไร นั่นแปลว่าผิดทรงแล้วล่ะ
(ซ้าย) แจ๊คเก็ตยีนส์ทรง Sherpa ที่มีขนสัตว์เย็บติดอยู่ด้านใน
สังเกตลูกเล่นที่ปรากฎอยู่…
ลูกเล่นที่เด่นที่สุดของแจ๊คเก็ตยีนส์ก็คือ การบุผ้าไว้ด้านในขอบเสื้อนี่ล่ะ ถ้าเอาที่เราคุ้นเคยกัน และเห็นบ่อยสุด ก็คือการไม่มีผ้าอะไรด้านในเลย เป็นแจ๊คเก็ตยีนส์เปลือยๆ ใส่จับคู่ง่าย เป็นชนิดที่คนนิยมกันมากสุด แต่ถ้าลองไปดูพวกร้านขายยีนส์ทั้งของแบรนด์ดังหรือร้านมือสอง เราจะเริ่มเห็นประเภทที่มีเนื้อผ้าลายตารางบุด้านในด้วย อันนี้ก็ช่วยให้การแต่งตัว และการสร้างเลเยอร์บนตัวของผู้ใส่ดูมีมิติมากขึ้น (แต่ก็ใส่ยากขึ้นเช่นกัน) ส่วนอันสุดท้ายคือการบุพวกขนแกะหรือขนสัตว์ไว้ข้างใน (ทรง Levi’s Sherpa) แบบที่หนังคาวบอยชอบใส่กันเป๊ะๆ แบบนี้เราว่าถึงจะเท่ยังไง ถ้ามองในมุมเมืองไทยเราที่มีแต่ฤดูกาล ร้อนมาก ร้อนกลาง ร้อนน้อย งี้ ยังไงก็ใส่ยาก
“Levis 1953 Type II Jacket: Blanket Lined Rinse” แจ็คเก็ตยีนส์รุ่นคลาสสิคของลีวายส์
“Visvim Damaged 101 Denim Jacket” ตัวอย่างของแจ๊คเก็ตยีนส์ที่มาพร้อมการตัดเย็บที่มีพิถีพิถันเป็นเอกลักษณ์ และเนื้อผ้าที่มีคุณภาพ
10 ข้อควรรู้ของการใส่แจ๊คเก็ตยีนส์
เฉกเช่นเดียวกันกับทุกสไตล์การแต่งตัว แจ๊คเก็ตยีนส์ ก็มีข้อควรและไม่ควร ข้องามและไม่งาม เช่นกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นข้อเหล่านี้ก็ไม่เคยหยุดจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ของคนที่ต้องการจะฉีกกฎหรือสร้างคาแรคเตอร์ใหม่ๆได้หรอก เอาเป็นว่าเราจะไล่ให้ฟังทีละข้อละกัน ส่วนจะเชื่อไม่เชื่อ ยังไงลองไปมิกซ์แอนด์แมทช์ดูเอาเอง
- ไซส์เป็นสิ่งสำคัญมากๆของแจ๊คเก็ตยีนส์ ดังท่ีบอกไปในข้อข้างบน ถ้าอยากได้ความเฉี่ยวและดูเข้ารูป ก็ต้องไปเลือกไซส์ที่พอดีตัวของเรา หรือถ้าอยากได้ลุคสบายๆเผื่อช่องไว้ให้การแต่งตัวด้านในของเราด้วย ก็พยายามเลือกไซส์เผื่อจากขนาดตัวของเราอีกหน่อย แต่สำคัญคือ ต้องพองาม อย่าให้ขาดหรือเกินมากไป
- แจ๊คเกตยีนส์ ที่มีผ้าบุด้านในปก มาพร้อมกับคาแรคเตอร์ของมันด้วยเช่นกัน และที่แน่ๆคือช่วยในแง่อากาศหนาว ถ้ายังไม่อยากลงลึกมากเท่าไรกับเสื้อผ้าชิ้นนี้ บวกกับอากาศร้อนอบของบ้านเรา เราแนะนำให้เลือกเอาแจ๊กเก็ตยีนส์ปกติแบบที่ไม่มีอะไรบุเย็บไว้เลยด้านในจะดีกว่า
ความ Timeless ของแจ๊คเก็ตยีนส์ที่แสดงให้เห็นได้ชัดเจน ขนาดบรรดาแฟชั่นไอคอนยุคปัจจุบันนี้ อาทิ Pharrell Williams / Kanye West / Rihanna ก็ยัง Pull Off ลุคแจ๊คเก็ตยีนส์กันออกมาได้ดีเยี่ยม
- สูตรที่ง่ายที่สุดและเวิร์คมากๆสำหรับการใส่แจ๊คเก็ตยีนส์คือ การจับคู่กับกางเกงผ้า Chino แบบสีกากี หรือกางเกงลูกฟูกที่ให้อารมณ์ย้อนยุคๆหน่อยๆ เชื่อสิว่ามันเป็นลุคที่ง่ายและเข้ากันมากๆ ก็ถ้ามีสองชิ้นนี้อยู่ในตู้เสื้อผ้า ลองจับมาใส่ร่วมกันดูสักครั้ง ได้เสื้อยืดขาวล้วนใส่ทับไว้ด้านในหน่อย เป็นอันจบ!
- ควรหลีกเลี่ยงแจ๊คเก็ตยีนส์คู่กันกับกางเกงขาสั้น เพราะถ้าคุณไม่ใช่คนคาแรคเตอร์จัดๆโดดเด่นล่ะก็ มันจะออกมาดูแล้วโคตร “กึ๋ย” เลยล่ะ
- สิ่งหนึ่งที่แจ๊คเก็ตยีนส์หรืออะไรก็ตามที่เป็นยีนส์บนโลกใบนี้มีดีก็คือ คุณจะใส่มันบ่อยกี่ครั้งก็ได้เท่าที่คุณต้องการ ยิ่งใส่ยิ่งเฟด ยิ่งเฟดก็ยิ่งเก่า ยิ่งเก่ายิ่งเก๋า (โอยย พอ) เพราะฉะนั้นอย่าคิดมากถ้าอยากหยิบมันมาใส่บ่อยๆ เพียงแต่ต้องสลับกางเกงหรือเสื้อที่อยู่ด้านในให้ดีด้วยนะ ไม่งั้นเขาจะนึกว่าไอ้หมอนี่มีอยู่ชุดเดียว
- แจ๊คเก็ตยีนส์เป็นเสื้อผ้าชิ้นที่เรียกว่าครอบคลุมที่สุดแล้วก็ว่าได้ คือคุณจับคู่กับเสื้ออะไรข้างในมันก็เวิร์ค ไล่ตั้งแต่เบสิคเสื้อยืดสีขาวในลุค Casual หรือยกขึ้นมาหน่อยเป็นเสื้อคอปกก็ทำได้ ในทางการเราก็สามารถเลเยอร์มันกับเสื้อเชิ้ตสีขาวหรือเสื้อเชิ้ตลายตารางก็ได้เช่นกัน ของแบบนี้มีแต่คุณที่ลองใส่เองเท่านั้น เป็นคนตอบได้ว่าไหนเวิร์คไหนไม่เวิร์ค
- พึงระวังการใส่ยีนส์เบิ้ลยีนส์บนตัวคุณ เท่าที่เราเคยอ่านมา ไม่รู้ว่าทำไมข้อนี้ถึงเป็นข้อห้ามเสียเหลือเกิน บางสำนักก็บอกว่ามันทำให้ดูเป็นยูนิฟอร์มเกินไป เหมือนเดินไปไหนมาไหนพร้อมกับว่ามิสเตอร์ยีนส์มาแล้วติดอยู่บนหัว ลองนึกภาพตามเช่น อย่าใส่เข็มขัดยีนส์คู่กันกับแจ๊คเก็ตยีนส์ เพราะรายละเอียดเล็กๆน้อยๆแค่นี้ล่ะ จะทำให้คุณแปลกมากๆ และที่สำคัญที่สุด ถ้าไม่เก๋าจริง หลีกเลี่ยงการใส่เชิ้ตยีนส์กับแจ๊คเก็ตยีนส์ซ้อนทับ เพราะมันเป็นลุคที่ดูยังไงก็ประหลาด ทั้งนี้ทั้งนั้น
แจ๊คเก็ตยีนส์เป็นเสื้อผ้าที่แสดงถึงบุคลิกของคนใส่ได้ชัดเจน เพราะอย่างงั้นแล้ว มั่นใจในคาแรคเตอร์ของคุณที่จะใส่มันทุกครั้ง
- โอเค… ถ้าชอบยีนส์+ยีนส์จริงๆ กางเกงยีนส์กับแจ๊คเก็ตยีนส์ยังเป็นสิ่งที่รับได้อยู่นะ แต่ก็ระวังเรื่องสีฟอกของทั้งสองชิ้นให้ดี อย่างเช่น กางเกงยีนส์สีเดนิมเข้มน้ำเงินจัดๆ มาจับคู่กับแจ๊คเก็ตฟอกสีอ่อน มันก็ดูดีอยู่นะ
- พยายามอย่าซักแจ๊คเก็ตยีนส์ของคุณบ่อย เพราะมันจะทำให้สีและรอยเฟดของเราไม่ได้คาแรคเตอร์ ดูแลมันให้เหมือนกับกางเกงยีนส์เลย เน้นการใส่ใช้งานเข้าไว้ ทุกอย่างจะดีเอง
- ข้อสุดท้ายนี้เราอยากจะบอกว่า แจ๊คเก็ตยีนส์ เป็นไอเทมที่แสดงถึงความ Rugged แบบสุดขีด เพราะฉะนั้นไม่ว่าคุณจะเป็นคนเหนียมอายหรือไม่มั่นใจแค่ไหน พยายามอย่าคิดมากครับ ลองลงทุนกับมันสักหน่อย เลือกหาซื้อที่ถูกใจมาใส่สักตัว เอาแบบคลาสสิคจากลีวายส์หรือลีเลยก็ได้ จากนั้นสิ่งที่คุณต้องทำคือ ใส่ ใส่ ใส่ และใส่ มันบ่อยๆ เชื่อสิ แล้วอีกไม่นานคุณต้องหลงรักมัน เรารับประกัน ขอให้เลือกซื้อแจ๊คเก็ตยีนส์ที่ถูกใจครับ
Writer: Pakkawat Tanghom
RECOMMENDED CONTENT
Under Armour เปิดตัวแคมเปญระดับโลก แสดงความมุ่งมั่นระยะยาวที่จะสร้างโอกาสในการเข้าถึงกีฬา รวมถึงขจัดอุปสรรคที่ขัดขวางไม่ให้เยาวชนและนักกีฬารุ่นเยาว์ทั่วโลกมีส่วนร่วมกับกีฬา ในประเทศไทย Under Armour Thailand ตั้งเป้าผลักดันและสนับสนุนให้เด็กไทย