อย่างที่เคยบอกเล่าให้ฟังว่า บ้านเรือนในเมืองใหญ่ต่างๆ ของเวียดนามนั้น มีการเก็บ ‘ภาษีหน้าบ้าน’ ในราคาที่ค่อยข้างสูง ยิ่งบ้านไหนมีหน้าบ้านมาก ก็ยิ่งต้องเสียภาษีราคาแพงมากขึ้นตามไปด้วย นั่นเลยทำให้บ้านเรือนของชาวเวียดนามมักจะมีหน้าบ้านที่แคบ ใช้สำหรับการค้าขายเป็นหลัก แล้วเติบโตไปในทางสูง กลายเป็นบ้านแบบที่เรียกกันว่า Rocket House

ข้อจำกัดนี้เลยเป็นโจทย์แสนสนุกให้ทีมสถาปนิกชาวเวียดนามได้มีพื้นที่ในการทดลองอะไรใหม่ๆ อยู่เสมอ เช่นกันกับโปรเจ็กต์ KOI Café คาเฟ่ปลาคาร์ฟที่แม้ว่าหน้าตาจะดูญี่ปุ่นจ๋า แต่เชื่อหรือไม่ว่า Farming Architect สตูดิโอสถาปนิก เจ้าของโปรเจ็กต์นี้ ต้องรีโนเวทบ้าน Rocket House เก่าแก่ ให้ออกมาน่าเข้าไปนั่งพักจิตพักใจ ด้วยแรงบันดาลใจจากวัสดุท้องถิ่นของเวียดนาม

ด้วยความตั้งใจของเจ้าของร้านที่อยากให้มีระบบหมุนเวียนสระปลาคาร์ป หรือ KOI ภายในร้าน ทำให้ทาง Farming Architect ต้องคิดหนัก ว่าจะทำอย่างไรกับพื้นที่ขนาด 88 ตารางเมตรนี้ดี และผลก็ออกมาเป็นที่น่าพอใจ ด้วยโครงสร้างเหล็กเรียบง่ายที่เชื่อมโยงพื้นที่ใช้สอยทั้งหมดเข้าไว้ด้วยกัน

ซึ่งเมื่อดูจากแบบแปลนแล้ว จะพบว่า ทาง Farming Architect เลือกเอาพื้นที่เดิมหน้าบ้าน ที่เคยเป็นลาน Courtyard มาทำเป็นบ่อปลาคาร์ป ที่เมื่อลูกค้าเข้ามาในร้าน จะต้องเดินข้ามบ่อปลานี้ก่อน เพื่อเข้าสู่ส่วนของคาเฟ่ที่อยู่ด้านใน

เมื่อเงยหน้าขึ้นไปจะพบว่า บ่อปลาคาร์ปนั้น เชื่อมต่อกับพื้นที่ภายนอกอย่างปลอดโปร่ง ด้วยตาข่ายเหล็กแบบที่บ้านคนเวียดนามใช้กันทั่วไป เปิดรับเป็นช่องแสงธรรมชาติที่ส่องถึงพื้นที่ด้านในได้ทั้งสามชั้น แถมยังกลายเป็นตะแกรงให้ต้นไม้ได้เติบโต สร้างพื้นที่สีเขียวได้อย่างอิสระ และเป็นการอยู่ร่วมกันกับธรรมชาติอย่างลงตัว

ที่นี่เลือกใช้โครงสร้างไม้ ประกอบกันเป็นเฟอร์นิเจอร์และส่วนตกแต่งของอาคาร ให้ความรู้สึกเรียบง่ายแต่เข้มขรึม อ่อนโยนแต่เข้มแข็ง และยังทำให้ผู้มาเยือนรู้สึกได้ถึงความสงบ สบาย ผ่านการตกแต่งด้วยวัสดุจริง ที่ไม่เติมแต่งสีสันลงไปจนเกินจำเป็น

อีกหนึ่งเอกลักษณ์ที่ทำให้ KOI Café นั้นโดดเด่นที่สุดในย่านก็คือ การเลือกใช้กระเบื้องดินเผาโบราณ แบบที่นิยมใช้กันตามหลังคาวัดหรือศาลเจ้า นำมาประกอบกันเป็นส่วนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการนำมาเรียงซ้อนกัน เพื่อให้เกิดเป็นเสมือนบล็อคปิดผนัง แถมยังได้ลวดลายใหม่ และสีสันสวยงาม

หรือจะเป็นส่วน Facade หรือด้านหน้าคาเฟ่ กับโครงสร้างกระเบื้องที่เรียงตัวกันเป็นลอนคลื่นปกคลุมทั้งหมด มองผ่านจึงดูเหมือนกับที่นี่คือคาเฟ่สุดโมเดิร์น แต่ความจริงแล้วคือการแฝงความเซ็นเข้าไปได้อย่างแนบเนียน เมื่อมองในทิศทางตรงเข้าสู่ภายในจะพบว่า โครงสร้างกระเบื้องดินเผานี้มีความโปร่ง ทำให้ลมไหลผ่านได้สะดวกในทุกๆ ชั้น ช่วยให้ผู้คนที่เข้ามา ไม่ได้รู้สึกถึงการตัดขาดจากโลกภายนอกจนเกินไป แต่ขณะเดียวกันก็ยังได้รับความสงบสบายใจกลับมาในทุกมุมมอง

นี่คือคาเฟ่ในแบบที่เราหลงรัก แตกต่างอย่างแนบเนียน เรียบง่ายและสวยงาม เหมาะแก่การเป็นจุดหมายใหม่เมื่อไปเยือนกรุงฮานอย ประเทศเวียดนามเสียเหลือเกิน