fbpx

CONTACT US

DOODDOT VIDEOS

#Visit | ‘DJ Poom’ ทำอย่างไรให้รวย และประสบความสำเร็จของ Mc ‘ลุค playboy’ และเรื่องที่หลายๆคนไม่รู้ของ ดีเจภูมิ
date : 5.มิถุนายน.2019 tag :

หากคุณคิดว่าคุณรู้จักผู้ชายคนนี้ดีแล้ว ไม่แน่นะ สิ่งที่คิดและเข้าใจมาตลอดคุณอาจจะคิดผิดก็ได้ เพราะผู้ชายที่ชื่อ “ภูมิใจ ตั้งสง่า” หรือที่หลายคนคุ้นหูหากเรียก “ดีเจภูมิ” กับข่าวและตำแหน่งหนุ่ม playboy ที่หลายเคยตัดสินเขาไปแบบนั้น จริงๆ แล้ว นั่นอาจไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของเขาเลย วันนี้ Big Money และ Dooddot  จึงชวนหนุ่มรักสุขภาพ เจ้าของธุรกิจหลายแบรนด์คนนี้ มาพูดคุยถึงมุมมองการใช้ชีวิต รวมไปจนถึงจุดที่ทำให้หันมาทำธุรกิจและได้ก้าวเข้ามาทำสิ่งที่รัก จนมีผู้ติดตามหลักแสน และเรียกได้ว่าเป็นบุคคลที่คนส่วนใหญ่อยากสัมผัสไลฟ์สไตล์ในแบบของเขามากขึ้น

เรียกสิ่งที่ตัวเองทำอยู่ว่าอะไร ?
เป็นผู้ประกอบการ เจ้าของธุรกิจ ครับ สไตล์ในการเป็นผู้ประกอบการของเรา

จริงๆ แล้วธุรกิจที่ดูแลอยู่มันหลากหลายมากมีแบรนด์อาหารคลีนเพื่อสุขภาพ “DJ Poom Menu” มีเครื่องดื่มสมุนไพร Zero Cal และ Zanim เสื้อผ้าออกกำลังกาย แล้วตอนนี้กำลังจะมีธุรกิจใหม่ แต่ต้องบอกว่าพี่โชคดีที่มายืนอยู่ตรงนี้ได้ จากที่ใครบอกว่าพี่ภูมิเก่งมีธุรกิจเยอะแยะ จริงๆแล้วพี่มี business partner ที่ดี อย่างดีเจภูมิเมนู พี่จะเข้าใจเรื่องอาหาร พวกสารอาหารและการออกกำลังกาย แต่พอมาประชุมเรื่องธุรกิจ พี่ไม่ get อะไรเท่าไหร่ ซึ่งเราต้องบอกน้องชายที่เป็น partner ที่ดูทั้งหมดว่า อยากให้พี่ทำอะไรบอกมา แล้วพี่จะทำให้มากขึ้น แต่ถ้าไม่สั่ง พี่อาจจะไม่รู้ว่าต้องทำยังไงต่อ เป็นนักธุรกิจที่เก่ง ?
ในหลายหลายธุรกิจที่ทำอยู่ พี่ก็เข้าใจกับตัวเองว่าทำไมพี่โง่ขนาดนี้ จนกระทั่งล่าสุดมาจริงจังกับการทำ YouTube ทำมาได้ปีกว่า มันทำให้เห็นว่าเราไม่ได้โง่ เราแค่ไม่มีประสบการณ์ด้านการบริหาร ไม่ได้มีความรู้ด้านการบริหาร แต่สำหรับ YouTube ทุกสิ่งทุกอย่างมันเข้าใจทะลุปรุโปร่ง 360 องศา เช่น ทีมตัดต่อส่งงานมา เรารู้เลยว่าเขาใช้เวลาทำกี่ชั่วโมง หรือมุมกล้อง การเล่าเรื่อง ประสบการณ์ที่สะสมมาทั้งหมดในวงการบันเทิง 20 ปีมันกลับมา เหมือนไปเรียนในห้องเรียน 20 ปี ทุกอย่างมันชัดเจน

แล้วตอนนี้ YouTube มาแรงมาก และพี่เชื่อว่าคนที่มีอิทธิพลมากที่สุดคือคนที่มีสื่อใหญ่ที่สุด ใครสื่อใหญ่กว่าชนะ  ตอนนี้ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม สื่อใหญ่เป็นผู้กำหนดกฎพื้นฐานเลย มันเป็นโลกที่น่าเกลียด แต่ That’s the way it is

พอทำมาสักพักหนึ่ง เราค้นพบว่ามันลงตัวกับชีวิตมากขึ้น ทุกวันนี้เดินทางไปเที่ยว เอาตากล้องไปด้วยสองคน กลับมาตัดต่อทำออกมาเป็นงาน และยังสามารถลงโฆษณาในธุรกิจที่ตัวเองทำอยู่ ทำให้ทุกอย่างของเรา Branding แน่นขึ้น Sale สูงขึ้น มี income และตอนนี้ YouTube จ่ายเงินให้กับ YouTuber ระดับพี่มากกว่ารายการทีวีจ้างเสียอีก

เราได้เป็นเจ้าของธุรกิจ ได้โฆษณาธุรกิจของเราเอง เราได้เที่ยวแถมยังได้เงิน เราก็เลยรู้ว่านี่คือสิ่งที่เป็นตัวเราจริงๆ เหมือนที่ ไอสไตล์บอกว่า “ถ้าคุณวัดค่าของปลา จากการที่ว่ามันปีนต้นไม้ไม่ได้ คุณจะรู้สึกว่ามันไม่มีค่าเลย” เช่นเดียวกับสิ่งแวดล้อมที่พี่เจอ มันเหมือนปลาที่อยู่ในน้ำมัน แบบ unstoppable เคยบอกว่าไม่อยากทำงานเยอะแล้ว ทำไมตอนนี้กลับมาฟิตมากๆอีก ?
เป็นคำถามที่ดี ตอนแรกคิดว่าเรามีธุรกิจเป็นของตัวเองและมีกลุ่มลูกค้า มีรายได้ที่เข้ามาประจำ อยู่ตัวแล้ว แต่ในความเป็นจริง ถ้าเราไม่ได้ดูแลมันอย่างใกล้ชิด ทุกอย่างมันจะเริ่มตกต่ำ เพราะในธุรกิจที่พี่ทำอยู่มันคือ personal branding ของตัวพี่ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าออกกำลังกาย อาหารเพื่อสุขภาพ หรือน้ำเพื่อสุขภาพ

ตอนที่พัก มีธุรกิจเหล่านี้แล้ว ?
มีแล้ว แต่ไอ้ห่า! กูยังออกไปกินเหล้าทุกวัน ปล่อยตัวเองจากซิกแพคแน่นๆ มาอ้วน เขียน motivationให้คน แต่ชีวิตตอนนั้นไม่เอาอะไรเลย แล้วเราก็สังเกตว่าทำไมรายการมาจ้างเราน้อยลง ทำไมเงินในบัญชีมันก็ลดลงว่ะ ภาพลักษณ์ก็แย่ลง ชื่อเสียงทุกอย่างน้อยลงหมดเลย พี่ก็รู้เลยว่า ถ้าเราไม่เหยียบเบรคตอนนี้มันจะแย่แน่ พอเราเห็นแบบนั้นแล้วเราก็เลยกลับมาฟิตหางานหาอะไรก็ตามที่กระตุ้นตัวเอง 

  ทำงานหนักมาตลอด ?
พี่เป็นคนหนึ่งที่พูดเสมอว่า “พี่เชื่อในความลำบาก” เพราะความลำบากทำให้คนเติบโต แต่ตอนนั้นเราอยู่ในจุดที่เราไม่เคยไปถึง เราหาเงินได้เยอะมีเวลาว่าง จนเรารู้ว่าวงจรชีวิตมันคือยิ่งเราลำบาก กราฟเราจะยิ่งขึ้น ยิ่งเราสบายกราฟเรา จะยิ่งลง  “เพชรจ้า” ก็ขยันมาก !
เหมือนที่พี่คุยกับเพชรจ้าทุกครั้งที่ไปเที่ยวกัน ว่าเวลากินข้าวด้วยกัน มึงจะต้องเอามือถือขึ้นมาถ่าย ถ่ายอยู่นั่นแหละ ซึ่งมันก็บอกว่าถ้ามาเที่ยวแล้วไม่ได้ทำงานด้วยจะรู้สึกสิ้นเปลือง รู้สึกเสียเวลา เพราะฉะนั้น ถ้าจะมาเที่ยวขอทำงานด้วย ซึ่งทำให้เห็นว่า.. ตอนนี้เพชรจ้าเป็นหนึ่งใน influencer ที่ใหญ่มากในประเทศไทย นี่ยิ่งทำให้เห็นว่า เที่ยวได้แต่อย่าวางงาน หลังจากนั้นทุกครั้งที่พี่ทำอะไรก็จะหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายและสร้างมันเป็นงาน ไม่ว่าจะทำอาหารหรือไปเที่ยว พอได้ทำก็รู้สึกว่าเข้ากับพี่มาก YouTuber มืออาชีพ ?
คือรู้อยู่แล้วว่าต้องกลับมาทำอะไรซะอย่าง แล้ววงการบันเทิงมันก็ไม่สามารถจะรอพี่ได้แล้วไง เราก็เลยเริ่มศึกษาเพื่อทำ YouTube จริงจัง อย่างเมื่อก่อนในธุรกิจอาหาร หลายแบรนด์ให้ดารามาถือ product แล้วคนซื้อ แต่มีคนทำแบบนั้นมา 5 ปี 10 ปีแล้ว จนคนเริ่มเบื่อ สมัยนี้หากคุณจะเป็นเจ้าของธุรกิจต้องฉลาดกว่านั้น คุณต้องให้ก่อนที่คุณจะได้รับ พี่เลยเข้าครัวทำอาหารคลีนทุกวัน แล้วก็บอกว่า คุณสามารถเอาไปทำได้เลย มันดีต่อสุขภาพ แต่ถ้าคุณไม่มีเวลาหรือบางคนขี้เกียจ คุณก็สั่งของผม เพราะ DJ Poom Menu ทำด้วยหลักการเดียวกัน มันก็เป็นการตลาดง่ายๆ ที่ทำให้เกิดยอดขายอย่างมหาศาลรู้สึกเข้ามือมากกับ YouTube
ตอนนี้ YouTube คือสิ่งที่รักที่สุด เราเข้าใจมันที่สุด และตอบโจทย์ชีวิตที่สุด ก่อนหน้านี้ทีมงานจะให้พี่ promote อะไรก็ให้ใส่ ก็ให้กิน ทำไปทำมามันก็เบื่อ แต่ตอนนี้พี่ไปถ่ายรายการ ไปตกปลาพี่ก็ใส่เสื้อ Zanim เพราะมันระบายอากาศดี กันแดดได้ เหมือนตอนนี้ product มันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเราอยู่แล้ว เราก็ไม่เคยขายของในคลิปเลย จนคนเห็นทุกวันเขาก็รู้ว่าเราใส่แบรนด์นี้ ลองคิดดูรายการคนดูต่อละ 1,000,000คน ผ่านไปเกือบ 100 ตอน คนไม่รู้ว่าเราใส่แบรนด์อะไร ก็มีมาถามเพราะอยากได้ เชื่อไหม ตอนนี้ยังไม่ทัน promote คอลเลคชั่นใหม่เลย แต่ถ้าคนได้เห็นผ่าน YouTube สินค้าจะถูกจองหมด Collection ทันที คนเขารู้ว่าเราใช้เองแล้วดีกับตัวเราจริงๆดีเจภูมิ กับภาพลักษณ์ที่คนส่วนใหญ่ไม่คุ้น
คือตอนที่เราเป็นเด็ก เข้ามาทำงานในวงการ เราไม่สามารถกำหนดได้ 100% ว่าเราจะสื่อออกมาแบบไหน ก็จะมีผู้ใหญ่มาบอกว่า “เออ มึงทะเล้นดีนะ มาลองทำรายการแบบทะลึ่งตึงตังดูสิ” “ เพชรจ้า มึงดูแบดบอย เดี๋ยวจัดให้ ภูมิเพชรจ้าแบดบอยปาร์ตี้” ถามว่าเราเป็นแบบนั้นไหม เราไม่ได้เป็น แต่เราก็สนุกสนานกับงานที่เราทำ จริงๆ เราเป็นคนซีเรียส เป็นคนตั้งใจ เป็นคนเงียบๆ คนหนึ่งเลยแหละ  แต่ด้วยประสบการณ์กับงานที่สนุกสนานเราก็สามารถดึงสิ่งนั้นออกมาได้

idol ของวัยรุ่นชาย bad boy ?จริงๆแล้วพี่ไม่ได้เป็นแบบนี้เลยนะ แต่สังคมเขายกตำแหน่งให้เรา แล้วพี่ก็ผิดเองส่วนหนึ่ง “พี่เข้าเมืองตาหลิ่ว ก็หลิ่วตาตาม”  เมื่อก่อนพี่ไม่ได้อินกับเรื่องวัตถุนิยม ไม่ได้อินกับเรื่อง brand name ไม่ได้อินกับรถสปอร์ต แต่มีจุดเปลี่ยนที่ตอนนั้นพี่ไปคบกับผู้หญิงคนนึง แล้วครอบครัวเขาก็ไม่ได้ชอบพี่ เขาก็เปรียบเทียบพี่กับเพชรจ้า ว่าทำไมมันรวยจังวะ มีรถเต็มไปหมดเลย ซึ่งเรารู้จักกันดี ใครมีเงินมากใครมีเงินน้อยใครจะไปรู้ แต่เมื่อสังคมกดดัน พี่ก็เลย “Cracked Underpresure”

ถ้าคุณเห็นแบบนั้น ผมก็จะลองใช้เงินให้ดูบ้างก็ได้ . . . ก็เลยไปซื้อรถสปอร์ต ซื้อเรือส่วนตัว ไปสร้างบ้านใหญ่โต มีวันหนึ่งซื้อนาฬิกาไป 10 เรือน เพื่อแสดงให้คนเหล่านั้นเห็น หลังจากนั้นมันก็ตลกตรงที่ว่า “สังคมแม่งโอบกอดกูเฉยเลย” เชื่อไหมก่อนหน้านี้พวกเขาไม่ชอบขี้หน้ากูมาก ทำอะไรก็ผิด ก้าวขาออกจากบ้านยังผิดเลย เพราะสังคมมีค่านิยมว่าคนหน้าตาแบบกูมันคือโจร

บทบาทเปลี่ยน ?
แต่พอพี่เปลี่ยนมาเป็นคนรวย . . . มันก็น่าเสียดายที่ “สังคมไทยเราดันเคารพคนรวย เราไม่ได้เคารพคนดี และเราก็ไม่ได้ดูถูกคนเลว” มันก็เลยง่ายสำหรับพี่พี่ก็เลย Out Smart สังคม เพื่อให้เขายอมรับเรา

แล้วเราจะคุยกับคนที่ตามอยู่อย่างไร ?
ถ้าได้เข้าไปดู Instagram พี่ นั่นไม่ใช่ตัวตนพี่ร้อยเปอร์เซ็นต์หรอก พี่มีหลายสไตล์ คือจะโพสต์เรื่องรถสปอร์ตบ้าง โพสต์เรื่องไป Shopping กินอะไรบ้าง แต่หลายๆครั้ง พี่ก็พยายามจะเขียนข้อคิดยาวๆ เหมือนกับตรง Profile ที่พี่เขียนไว้ว่า “อยากให้อะไรกับคุณมากกว่าวัตถุสิ่งของ”  แต่ถ้าอยากเห็น Lifestyle ที่เป็นตัวตนพี่ให้ไปดูใน YouTube 80% ของคนที่ตามพี่คือผู้ชายที่อยากทำกิจกรรมเหมือนๆกัน ซึ่งเรารู้สึกภูมิใจมาก และกิจกรรมที่เห็นคือตัวเราจริงๆ เราเบื่อสังคมที่วุ่นวาย เราอยากอยู่เรียบง่ายกับธรรมชาติ อยู่ในป่า อยู่ในทะเล ไม่มีใครต้องมาตัดสินใคร ทุกอย่างอยู่ด้วยความเบา นั่นคือตัวตนที่แท้จริงของพี่

How to success like Dj Poom?
พี่เชื่อในความลำบาก อย่างอาชีพเรา การตลาดมันก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตอนนี้สาวๆ สวยๆ ส่วนใหญ่ไม่มีใครทำงานประจำแล้ว เขาทำอาชีพขายเสื้อผ้าออนไลน์ใน IG หรือ Facebook ทุกวันนี้สิ่งที่พี่ทำอยู่ก็เหนื่อยมากนะ พี่ว่ารายการ YouTube ที่พี่ทำลงทุนเยอะที่สุดในประเทศไทยแล้ว ทั้งลงแรง ลงทุน ล่าสุดเมื่อคืนก็ไม่ได้นอนทำงานกันยันสว่าง แต่เราเชื่อว่าการที่คนจะประสบความสำเร็จ และทำให้มันอยู่ได้คือ “มึงต้องลำบากกันต่อไป” เราเป็นคนที่เชื่อว่าถ้าชีวิตมันยังลำบากเล็กๆเล็กๆ ชีวิตพี่จะมี growth นั่นคือคุณยังไม่หยุดให้ใช้ความลำบากเป็นเกณฑ์ มันจะต้องปวดหัวกับตรงนี้นิดหนึ่ง ตรงนั้นหน่อยหนึ่ง คุณก็จะค่อยๆ ประสบความสำเร็จมากขึ้นเล็กๆ ในทุกๆวัน

RECOMMENDED CONTENT

26.พฤษภาคม.2020

เมื่อสองศิลปินคุณภาพชื่อดังของสิงคโปร์ Gentle Bones และ Charlie Lim ได้มีโอกาสมาร่วมงานเพลงด้วยกันครั้งแรก