ใครว่าอุดมการณ์กินไม่ได้
เราเถียง!
ไม่ใช่ว่าแค่กินได้ทางปาก มันยังทำให้อิ่มในหัวใจด้วย
ไม่เชื่อก็ลองเก็บกระเป๋ามาด้วยกันสิ!…
—————
> Chapter 1
เเพ็คสัมภาระ
‘วัตถุดิบ’ คือเสี้ยวหนึ่งในเรื่องราวของอาหาร 1 จาน แล้วคำว่าวัตถุดิบ ‘ชั้นดี’ ก็ไม่ได้หมายความว่าต้องเป็นของหายาก ราคาแพงลิบ อิมพอร์ตจากต่างประเทศ หรือในแง่ของการไม่ให้โทษต่อคนบริโภคเท่านั้น แต่ยังหมายถึงวัตถุดิบที่เรามีอยู่ หาได้จากภูมิปัญญา แม้ใครมองว่าไร้ประโยชน์ อย่างข้าวหักๆ ขายไม่ได้ เปลือกผลไม้เหลือทิ้ง หรือใบผักแหว่งวิ่นไม่สวย ก็ยังนับเป็นวัตถุดิบชั้นดีอยู่สำหรับคนที่มองเห็นคุณค่าของมัน
ร้าน Prelude อาจดูเป็นแค่ร้านอาหารฝรั่งเศสธรรมดาๆ แต่จริงๆ แล้วมันอาจเรียกได้ว่าเป็นถ้ำแห่งอุดมการณ์ที่บรรจุคนมีฝัน 3 คนจากหลายเชื้อชาติทั้งสิงคโปร์และไต้หวัน คือ ฮอลลี่ ชิว, ตัน คองเว็น และคาลวิน ฟง ซึ่งรักในสิ่งที่เรียกว่าอาหาร ทั้งตอนวางอยู่บนจานสวยๆ และในความหมายของผู้ทำหน้าที่บอกเล่าเรื่องราว
หนุ่มสาวไฟแรงผู้ร่วมก่อตั้งทั้ง 3 ไม่หยุดแค่รั้วสถาบันอาหารชั้นนำของสหรัฐฯ หลังเรียนจบ พวกเขาใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศฝรั่งเศสสักพักจนเริ่มหลงรักวิถีชาวบ้านเรียบง่าย เช่น การออกไปจับจ่ายพืชผักที่ตลาดจากเกษตรกรโดยตรง พวกเขามีความคิดว่า หากจะทำร้านอาหารสักร้านหนึ่ง ประเทศไทยนี่แหละที่ใช่ที่สุด เพราะมีแหล่งวัตถุดิบดีๆ ที่หาได้จากธรรมชาติไม่แพ้ชนบทของฝรั่งเศส
พวกเขาพิสูจน์ความเชื่อนั้นด้วยการออกเดินทางไปทั่วประเทศไทย ขึ้นเหนือล่องใต้อยู่หลายปีก่อนเปิดร้าน เพื่อทำความรู้จักกับวัตถุดิบจากแหล่งกำเนิดของมัน แล้วคัด ‘The Best’ ของทุกแขนง ไม่ว่าพืชผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ ไข่ นม นำมาปรุงเป็นอาหารฝรั่งเศสแสนอบอุ่นที่ขณะนั่งกิน… ไม่รู้สิ… เหมือนกับเขาทำให้เรารู้สึกว่าทุกคำเต็มไปด้วยเรื่องราวพอๆ กับกำลังอ่านบันทึกการเดินทางดีๆ เล่มหนึ่งเลย
แนวคิดของพวกเขาไม่ได้มีอะไรซับซ้อนมากไปกว่าการจะทำอย่างไรให้วัตถุดิบจากมือชาวไร่ชาวนาบ้านเราแทบทั้งหมดนั้นปล่อยแสงออกมาให้มากที่สุด
เป็นอุดมการณ์ที่กินได้ (แถมอร่อยด้วย!)
—————
> Chapter 2
ออกเดินทาง
อาหารที่ Prelude จะเสิร์ฟเป็น Course Menu เลือกได้ทั้งแบบ 3 Course ราคา 850.- (Entrée, Main Course, Dessert) หรือแบบ 7 Course ราคา 1,500.- ซึ่งอย่างหลังจะเป็น Testing Menu ที่จะแสดงเอกลักษณ์ของอาหารจากเชฟได้ดีที่สุด เหมือนกับเราโดดขึ้นรถของเชฟแล้วก็โอเค เอาเลยเชฟ! แล้วแต่เชฟจะขับพาไปเลย! โดยแต่ละเมนูจะเป็นชื่อของวัตถุดิบที่เป็นพระเอกของเมนูนั้นๆ ไปเลย เช่น เป็ด ปลาหมึก ไก่ ฟักทอง ซึ่งก็น่ารักดี เข้าใจง่ายด้วย!
สำหรับวันนี้เชฟจัดมาคละกันทั้ง 2 Course เริ่มด้วยจานที่ภาษาฝรั่งเศสเรียกว่า ‘Amuse Bouche’ (Mouth Amuser -ในภาษาอังกฤษ) เหมือนเป็นการเซย์ไฮจากเชฟก่อนจะเข้าสู่เมนูแรก จานพิเศษนี้จะอิงกับวัตถุดิบอะไรก็ตามแต่ที่เป็นพระเอกในฤดูกาลนั้นๆ อย่างวันนี้ คือ เนื้อระหว่างเปลือกแตงโมกับเปลือกแตงโม นำไปผัดแล้วราดด้วยครีมกะหล่ำดอก ไม่ใช่แค่เป็นเมนูที่ให้ความสดชื่นสำหรับฤดูร้อนเท่านั้น แต่ยังนำวัตถุดิบที่ไม่มีใครกิน และเหลือทิ้งอย่างเปลือกแตงโมมาทำให้อร่อยได้อีก
Pate – จานนี้จาก 3 Courses Menu ไหล่หมูและตับหมูบดออร์แกนิกจากร้าน Sloane’s ผสมกับซอสที่ทำจากเหล้าเวอร์มุธหวานแบรนด์ไทย กินกับขนมปังโฮมเมด คู่กับเนยสดที่ทางร้านทำเองเช่นกัน ขอบอกว่าหอมมันต่างจากเนยสดทั่วไป เพราะใช้ครีมสดจากฟาร์มนมในจังหวัดลพบุรีนี่เอง
อีกจานเป็นเมนู refreshing ที่กำลังจะมีเข้ามาในเมนูใหม่เร็วๆ นี้ เชฟภูมิใจเสนอคือมะเขือเทศสดจากจังหวัดเชียงราย นำมาปอกเปลือกและคว้านไส้ออกให้เหลือแต่เนื้อสดกรอบ แล้วจับยัดไส้ขนมปังกรอบ มี side dish เป็นผักร็อกเก็ตสลัดจากเชียงใหม่ ราดซอสโหระพา ซึ่งก็เป็นโหระพาส่วนที่เหลือจากการปรุงอาหารจานอื่นๆ ถือเป็นการใช้วัตถุดิบอย่างคุ้มค่าจริงๆ กินคู่กับสแกลลอปเนื้อแน่นกำลังดีแบบที่เราแทบไม่เชื่อว่าหาได้จากสัตหีบ …ใกล้จมูกเราแค่นี้!
Duck – อกเป็ด sous–vide จนได้เนื้อนุ่มๆ แล้วเอาไปย่างให้หนังกรอบแต่ยังคงความนุ่มและชุ่มฉ่ำของของเนื้อไว้อยู่ จานนี้มีพระเอกอีกอย่างหนึ่งคือ ‘แก่นตะวัน’ หรือ Sunchock พืชในตระกูลทานตะวัน เนื้อสัมผัสกรอบๆ ฉ่ำๆ คล้ายกับแห้ว ไม่ใช่วัตถุดิบที่หากินง่ายสักเท่าไร
เมนูใหม่อีกหนึ่งจาน คล้ายๆ กับปูนิ่มทอดบ้านเรา โดยเชฟจะใช้เนื้อปูทั้งตัวทอดแบบ Deep Fried ให้ความกรอบเบอร์สุด ราดซอสไข่เค็ม ที่ใช้แต่ไข่แดง การันตีความเค็มๆ มันๆ เสิร์ฟกับ ratatuille สูตรของทางร้านที่ใช้พริกหวานตามฤดูกาลอีกเช่นเคย
> Chapter 3
กลับบ้าน
เมื่อเริ่มอุดมการณ์แล้วก็ต้องไปให้สุด แม้แต่ของหวานที่นี่เองก็ใช้ของที่หาได้ในท้องถิ่นเช่นกัน ใครจะนึกว่าเมล็ดโกโก้บ้านเรานี่แหละที่เชฟบอกว่าคุณภาพดีไม่แพ้ชาติใดในโลก นำมาทำเป็นเมนูขนมที่ใช้ความโดดเด่นของช็อกโกแลตอย่างคุ้มค่าแทบทุกองค์ประกอบ แต่ที่เด็ดสุดคือเจ้าช็อกโกแลตกานาจซึ่งเชฟเอาไปอบควันเทียนจนหอมกรุ่นนี่สิ ถือเป็นการครอสจักรวาลของกรรมวิธีแบบขนมไทยกับขนมฝรั่งที่เจ๋งมาก
Custard – ยังไม่หมด ความคลอสจักรวาลนั้นยังบียอนด์ไปอีก! เมื่อเชฟนำคัสตาร์ดครีมแบบฝรั่งเศสมาอบควันเทียน ราดกรานิต้าเสาวรส ผลไม้เย็นฉ่ำสดชื่นอย่างเมลอนและชมพู่ ความพีคคือ ‘ดอกจอก’ ขนมไทยโบราณหากินยาก (โดยเฉพาะที่อร่อยๆ อะนะ) ซึ่งเชฟเรียนรู้สูตรเอง ลงมือทำเอง จัดมาเป็นท็อปปิ้งด้านบนที่นอกจากอร่อยลิ้นแล้วยังให้ความรู้สึกคุ้มค่าทางใจเมื่อได้กิน
อารมณ์เหมือนเวลาคุณเดินทางจนเหนื่อยล้าแล้ว สุดท้ายก็ได้กลับ ‘บ้าน’ ที่คุ้นเคยเสียทีนั่นแหละ…
—————
Prelude
Arena 10 ซอยทองหล่อ 10
เปิดบริการวันอังคาร–อาทิตย์
เวลา 18.00–24.00 น.
โทร. 061–384–1067
RECOMMENDED CONTENT
เดอะ ลีโอ เบอร์เนทท์ กรุ๊ป ประเทศไทย เอเจนซี่โฆษณาชั้นนำของประเทศไทย ในเครือปับลิซิสกรุ๊ป ร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส. ทำแคมเปญ ลดเค็ม ลดโรค รณรงค์ให้คนไทยตระหนักถึงอันตรายของการบริโภคโซเดียม ที่มากเกินไปจนสะสมในร่างกายทำให้เกิดโรคร้าย และปรับพฤติกรรมนี้