“คนที่มาร้านนี้มีตั้งแต่ geek เรื่องชา คนดื่มชาที่พร้อมเปิดรับเรื่องใหม่ๆ ไปจนถึงคนที่ไม่รู้จักชาเลย”
เราน่าจะเป็นคนประเภทหลัง แม้จะเติบโตมาในยุคที่ร้านชานมไข่มุกรุ่งเรืองสุดๆ เปลี่ยนผ่านมาถึงวันที่มัชชะไม่ใช่เครื่องดื่มแปลกหน้าของใครๆ หรือจะแวะเวียนไปดื่มชาสไตล์ยุโรปบ้างเพื่อหาประสบการณ์ใหม่ๆ ก็พูดได้ไม่เต็มปากว่าเรารู้จักชาดีนัก
“ชามันมีเรื่องราวเยอะมาก”
คุณส้ม-ศชญา เชยสมบัติ เล่าถึงที่มาของความหลงใหลในวัฒนธรรมดื่มชา ซึ่งแปรเปลี่ยนมาเป็น The Orange’s Tea ร้านน้ำชาที่ซ่อนตัวอยู่ในย่านพระโขนง
“ยิ่งเราอ่าน เราได้รู้จัก ก็รู้สึกสนุกกับมันไปเรื่อยๆ สังคมชามันเป็นมากกว่าเครื่องดื่ม มันมีเรื่องราวของคนปลูก คนชง คนกิน” ประวัติศาสตร์อันยาวนานทำให้เครื่องดื่มชาแพร่หลายไปทั่วโลก ในแต่ละประเทศก็จะมีวัฒนธรรมการดื่มชาที่แตกต่างกันออกไป ตามสภาพแวดล้อม, วัตถุดิบ, อากาศ
เมื่อเราถามคุณส้มว่าแล้วร้านของเธอเป็นวัฒนธรรมชาของประเทศอะไร เธอก็บอกเราว่า “เราไม่ได้ยืดติดกับการเป็นอะไรเลย”
The Orange’s Tea นำเสนอความหลากหลายของวัฒนธรรมการดื่มชาผ่านคอนเซ็ปต์ที่ไม่เหมือนใครอย่าง Twisted Tea Culture การดัดแปลง ปรับเปลี่ยนให้ขั้นตอนการชงชาเป็นเหมือนการทดลองที่น่าสนใจ ทำให้เราค่อยๆ อินกับการนั่งดูคุณส้มทำชาไปอย่างไม่รู้ตัว
สองเมนูเเรกที่คุณส้มเสริฟให้เราบอกเล่าตัวตนของร้านได้เป็นอย่างดี ชาอู่หลงเบลนด์กับเปลือกส้มและมะตูม ที่เสิร์ฟมาในแบบร้อน ค่อยๆ พาเราดื่มด่ำไปกับคุณภาพและความแปลกใหม่ของ Specialty Tea
“ตอนแรกที่เราเปิดก็คิดว่าคงเน้นที่ชาร้อนเป็นหลัก อยากให้เป็นคาเฟ่ที่คนมานั่งชิลล์จิบชาไปได้เรื่อยๆ แต่ว่าคนไทยไม่ได้มีวัฒนธรรมการจิบชายามบ่ายหรือว่ากินชาเป็นปกติ เราก็เลยค่อยๆ เพิ่มเมนูเย็นเข้ามาซึ่งตอนเเรกก็มีแค่ชาไนโตร”
Cold Heart Nitro (Oolong, Lychee, Rose) คือการนำชาอู่หลงเบลนด์สูตรเฉพาะของ The Orange’s Tea ไปแช่เย็นข้ามคืน เพื่อให้ความขมน้อยลง จากนั้นนำไปทำการ Nitro จนเกิดฟอง เพิ่มความนุ่มและความหอมฟุ้งของกลิ่นกุหลาบ
“เพราะว่าเราชอบกาแฟไนโตร เราก็เลยรู้สึกว่าอยากลองเอามาทำกับชาดู ซึ่งมันไม่ใช่แค่การเอาสิ่งใหม่ไปทำกับชาแล้วก็มีฟองขึ้นมาเฉยๆ แต่เราต้องเลือกชาที่มันตอบสนองกับวิธีการแบบนี้”
ชาไนโตรอีกตัวที่ทางร้านแนะนำคือ Hipster Moroccan “เมนูนี้คือการนำ culture มาเล่นเลย Moroccan กินชาดำเบลนด์กับมิ้นท์และน้ำตาล พอเราเอามาทำเป็นไนโตรแล้วกลิ่นมิ้นท์มันชัดขึ้น นอกจากไนโตรมันจะเป็นวิธีการที่อยู่ในกระแสอยู่แล้วด้วยและมันยังทำให้สิ่งที่เราทำอยู่ดีขึ้นด้วย เราจึงแนะนำตลอดเพราะเราชอบเองด้วย คนทานชอบ และมันสะท้อนตัวร้านได้ดี”
เมนูชานมอย่าง Warm Heart Chai (Chai, Pudding Vanilla, Sea-Salt Caramel) ก็เป็นอีกหนึ่งเมนูที่นำเสนอวัฒนธรรมการดื่มชาของคนอินเดียได้อย่างน่าสนใจ “คนอินเดียที่กินชา Chai คือการเอาชาดำที่เบลนด์กับเครื่องเทศไปต้มกับนมและใส่น้ำตาลลงไป แล้วเราก็เอามา twisted ใหม่เป็นแบบเย็น แล้วใส่ seasalt caramel เพราะเรารู้สึกว่ามันไปด้วยกันได้ดี”
การนำเสนอตั้งแต่ชาจีน ไปถึงชาโมร็อกโก และมาโผล่ที่ชาอินเดีย ทำให้เรารับรู้ถึงความหลงใหลในวัฒนธรรมการดื่มชาที่คุณส้มถ่ายทอดมันมาในชาแต่ละแก้ว
“การเรียนรู้ชา ชิมชานั้นไม่มีที่สิ้นสุด ยิ่งเรารู้สึกว่าเรารู้เยอะเราก็ยิ่งรู้น้อยขึ้นเรื่อยๆ เราเลยเปิดที่นี้ขึ้นมาเพื่อเป็นที่แชร์ประสบการและแลกเปลี่ยนความคิดกันในด้านต่างๆ ”
“เรากำลังพยายามทำให้มันเป็น Tea Expereince Building ไม่ใช่เเค่ขายชา แต่เป็นไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่มีชาเป็นส่วนประกอบ มีการทำ tea tasting และ pairing ชากับของหวาน เราเสิร์ฟหลากหลายวิธี แทนการชิมชาแบบ traditional ทั่วไป เพื่อนำเสนอว่าทุกคนไม่จำเป็นต้องมีความรู้เรื่องชาก็สามารถสนุกไปกับชาได้ เพราะชาที่ใช่คือชาที่ชอบ
ชามันเป็นอะไรมากกว่าเครื่องดื่ม ชามันเหมือนชีวิต ทุกอย่างรอบข้างส่งผลกับรสชาติมัน ชาต้นเดียวกัน พันธุ์เดียวกัน ยี่ห้อเดียวกัน แต่คนละปี เเสงไม่เหมือนกัน อากาศไม่เหมือนกัน รสชาติมันก็จะไม่เหมือนกัน ยิ่งเราได้พูดคุยเรื่องชาเยอะๆ มันเหมือนเราเอามาย้อนกับตัวเองว่าทุกอย่างรอบตัวมันส่งผลกับเรา ทำให้เรากลับมามองว่าแล้วเรารับสิ่งรอบข้างไปอย่างไร แล้วส่งผลออกไปแบบไหน”
ถ้าคุณส้มบอกว่า “ชาที่ใช่ คือชาที่ชอบ” เราคงบอกได้เต็มปากว่าชาของ The Orange’s Tea คือชาที่ใช่ แต่นอกเหนือไปจากการเจอชาที่ถูกใจ เรายังค้นพบว่า The Orange’s Tea เต็มไปด้วยเรื่องราวที่น่าสนใจซึ่งส่งผลกระทบให้เราเช่นกัน
The Orange’s Tea
24/22 ซอยสุขุมวิท 69
เปิดทุกวัน หยุดทุกวันอังคาร
เวลา 10.30–19.30 น.
RECOMMENDED CONTENT
Skrillex ศิลปินชาวอเมริกันสาย Electronics Sound กลับมาอีกครั้งในรอบ 1 ปี พร้อมเพลงใหม่ 'Rumble' ที่ได้ดีเจและโปรดิวเซอร์ดาวรุ่ง Fred again.. และ MC Flowdan มาร่วมงาน