ท่ามกลางความมาแรงของยีนส์ Made in Japan ในสมัยนี้ Edwin คือต้นตำรับคำว่ากางเกงยีนส์ของชาวญี่ปุ่นอย่างแท้จริง ซึ่งรับประกันได้เลยว่าถ้าถามถึงแบรนด์ยีนส์ในโลกนี้ที่มีอยู่มานานและยังคงเดินหน้าคิดค้นยีนส์รุ่นใหม่ๆออกมาเอาใจแฟนๆกันอยู่ตลอดเวลา จากปากคอยีนส์ทั้งน้อยใหญ่เราเชื่อว่าต้องได้ยินชื่อของ Levi’s, Lee, Carhatt, Wrangler และ Edwin ติดรวมเป็น Top 5 อยู่ด้วยแน่นอน ส่วนเหตุผลที่ว่าทำไมนั่นเหรอ? วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับแบรนด์ Edwin กันให้มากขึ้น
ที่มาของแบรนด์คงต้องย้อนไปนานพอสมควร… เริ่มตั้งแต่ก่อตั้งโดยตระกูล Tsunemi จากรุ่นพ่อ ที่ตอนแรกในปี 1947 ยังเป็นเพียงแค่ร้านขายเสื้อผ้ามือสอง ทั้งอุปกรณ์ เครื่องใช้ทหารเก่าทั้งหลายแหล่ (เหมือนกับร้านขายของมือสองในตลาดนัดจตุจักรไม่มีผิด) จากนั้นมาสู่รุ่นลูกคือนาย Shuji Tsunemi (เจ้าของ Edwin คนปัจจุบัน) เด็กหนุ่มที่เพิ่งกลับจากเรียนต่อที่อเมริกา และพกวัฒนธรรมกางเกงยีนส์กลับมาบ้านเต็มกระเป๋า เขาเริ่ม Import กางเกงยีนส์มือสองจากแดนมะกันเข้ามาขายในญี่ปุ่น ซึ่งยีนส์แต่ละตัวที่เขาเลือกในเวลานั้นล้วนผ่านการใช้งาน มีร่องรอยจิตวิญญาณกางเกงยีนส์ของเจ้าของคนเก่าอยู่เต็มเปี่ยม ลงทุนตัดเย็บเองกับมือแล้วจึงขายต่อให้เพื่อนร่วมชาติญี่ปุ่นด้วยกัน ซึ่งผลตอบรับก็ออกมาดีอย่างมาก ร้านของพ่อลูก Tsunemi กลายเป็นที่ชื่นชอบของคนบ้ายีนส์แดนอาทิตย์อุทัยไปในชั่วข้ามคืน… ในเวลาต่อมา (ช่วงก่อนปี 60’s) ชาติญี่ปุ่น เริ่มผลิตกางเกงยีนส์กันด้วยตัวเองแต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จด้วยความที่ต้นทุนวัตถุดิบมีราคาแพง และปัญหาหลักคือขาดความเข้าใจในกางเกงยีนส์ ยีนส์ที่ออกมาส่วนใหญ่ในเวลานั้นถูกมองไม่ต่างจากของ Copy แบรนด์ต้นตำรับอย่าง Levi’s และแบรนด์อื่นๆจากอเมริกัน สู้ซื้อของแท้เลยถึงแม้เป็นมือสองแต่ก็คุ้มกว่า จึงถือเป็นโอกาสดีของ Shuji ที่เขาจะใช้ความรู้ที่สั่งสมมาลองดูซักตั้ง ในปี 1961 ถือเป็นปีกำเนิดของ “Edwin” ชื่อแบรนด์ได้มาจากการสลับตัวอักษร (Anagram) จากคำว่า “Denim” นำ M มากลับหัวเป็น W ได้ออกมาเป็นชื่อที่เรียกติดปากจนถึงทุกวันนี้ (ไอเดียบรรเจิดสมกับเป็นชาติญี่ปุ่นจริงๆ)
สิ่งที่ทำให้ Edwin ของ Shuji แตกต่างจากคนอื่นก็คือ เขาไม่ทิ้งเอกลักษณ์เฉพาะตัวของชาติญี่ปุ่นที่เขาหลงใหล ถ้าในทางศิลปะจะรู้กันดีว่าญี่ปุ่นมีเฉดสีที่โดดเด่นของตัวเอง หนึ่งในนั้นก็คือสีที่เรียกกันว่า “Japan Blue” สีน้ำเงินโทนเข้มลึกที่ได้มาจากการย้อมผ้าแบบพิเศษของญี่ปุ่น มีให้เห็นในสีชุดกิโมโน นักผจญเพลิง และเครื่องแต่งกายมากมาย มันถูกมองว่าเป็นสีที่ดู Chic สุดๆในสมัยเอโดะ (หลายคนคงจำภาพวาดเกลียวคลื่นของ “Katsushika Hokusai” ที่ชื่อ “The Great Wave off Kanagawa” กันได้ ที่จัดเป็นหนึ่งใน Painting ระดับโลกของยุคสมัยนี้เลย ก็เป็นการใช้โทนสีฟ้าถึงน้ำเงินเข้มที่ว่านี้สลับกับขาวได้อย่างสวยงาม) ซึ่งในทางกลับกันสีน้ำเงินญี่ปุ่น มันคือสีน้ำเงินที่อาจเรียกได้ว่าเป็น Indigo Dye หรือ สีผ้ายีนส์ดีๆนี่เอง ส่วนตัวของ Shuji ที่ชื่นชอบอยู่แล้วจึงเลือกใช้สีดังกล่าวเป็นสีหลักในการทำยีนส์ของเขา ควบคู่กับคุณภาพยีนส์ที่ตั้งใจอย่างพิถีพิถัน (ยีนส์ของ Edwin ที่ประสบความสำเร็จรุ่นแรกก็ล้ำกว่ายี่ห้ออื่นด้วยน้ำหนักถึง 16oz) เย็บด้วยตะเข็บรุ้งสามสีที่ยังคงมีให้เห็นถึงทุกวันนี้ ยิ่งไปกว่านั้นแบรนด์ยังขึ้นชื่อในเรื่องการคิดค้นประดิษฐ์นวัตกรรมใหม่ๆ ใครจะไปรู้ว่าแบรนด์ที่กล้าทำกางเกงยีนส์แบบ Old Washed ออกมา กล่าวคือกางเกงยีนส์ที่ผ่านการซักอย่างมอมจนเหมือนใส่แล้ว ออกมาขายเป็นของใหม่ แบรนด์แรกของโลกที่ทำ (ปี 70’s) ก็คือ Edwin นี่ล่ะ รวมถึงกรรมวิธีการทำ Stone Washed ที่ซักแบบหนักหน่วง ทำให้ยีนส์มีร่องรอยการ Fade ดูเก่า ดิบ ก็เป็น Edwin อีกที่คิดค้นเป็นเจ้าแรกในช่วงปี 80’s ทุกวันนี้แม้แต่แบรนด์ดังอย่าง Levi’s และอีกหลายแบรนด์จากฝั่งยุโรปและอเมริกาต่างก็ใช้กรรมวิธีนี้กันทั้งนั้น
แต่ในโลกนี้… ถ้ามีแค่คำว่า “เจ๋ง” อย่างเดียวก็คงไม่พอ จุดสำคัญอีกอย่างที่ทำให้ Edwin ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม คือการที่พวกเขาหยิบเอา Pop Icon จาก Hollywood อย่าง Brad Pitt มาเป็นพรีเซนเตอร์คนสำคัญให้กับแบรนด์ นับเป็นระยะเวลายาวมากตั้งแต่ยังสมัยหนุ่มๆ จนถึงแม้แต่ในช่วง 10 ปีมานี้ ก็ยังมี Ad ที่เขาแสดงของ Edwin ออกมาอยู่ มันทำให้ชื่อของ Edwin กลายเป็นอีกหนึ่งไอเทมสำคัญของวัฒนธรรมป็อปไปโดยปริยาย และถ้าพูดถึงเอกลักษณ์ของโฆษณาญี่ปุ่นที่เน้นเรียบง่าย Simple แล้วล่ะก็ Ad ของ Edwin ส่วนใหญ่จะไม่มีอะไรมากไปกว่าให้หนุ่ม Brad ใส่ยีนส์เดินไปเดินมาผ่านกล้อง หรือไม่ก็นั่งๆยองๆ ขี่มอเตอร์ไซค์ไม่ถึง 15 วินาทีก็จบ ถามเราแค่นั้นมันยิ่งกว่าพอเสียอีก เพราะใครล่ะจะไม่รู้สึกว่าใส่ยีนส์ตัวนี้แล้วจะไม่เท่เหมือน Brad Pitt! ยอดขายของ Edwin ตั้งแต่ยุค 90’s เป็นต้นมาพุ่งกระฉูดทะลุเพดาน เป็นผลให้แบรนด์ม้ามืดจากญี่ปุ่นอย่าง Edwin พุ่งขึ้นมาเทียบรุ่นกับแบรนด์ใหญ่อื่นๆและกลายเป็นชื่อที่คอยีนส์ไม่ว่าชาติไหนต้องเรียกหาเฉกเช่นทุกวันนี้
สำหรับคนที่กำลังทำความรู้จักกับ Edwin จากบทความนี้ ตอนนี้มีแบรนด์ Retailer ในไทยเริ่มนำเข้ามาขายกันบ้างแล้ว มีรุ่นดังก็คือ Edwin 503 ทรงคลาสสิคที่ดูภายนอกอาจจะคล้ายกับ Levi’s 501 แต่ถ้าใครได้ลองใส่จะค้นพบว่าไม่เหมือนกันเลย หรือจะเป็นรุ่น “Nashville” ที่ทำมาแล้วกว่า 20 ปี เป็นยีนส์ทรงตรงที่ไม่ได้ทำการ Fade อะไร และล่าสุดพวกเขาก็มีไลน์วินเทจ ใช้ชื่อว่า “505” ออกมาอีกด้วย จัดเป็นกางเกงยีนส์อีกแบรนด์ที่มีตำนานที่มายาวนาน การผลิตคุณภาพดี และราคาก็พอสู้ได้ รอให้คนรักกางเกงยีนส์ได้ พิสูจน์กัน
Writer: Pakkawat Tanghom
RECOMMENDED CONTENT
สมการรอคอยจริง ๆ สำหรับเพลงใหม่ล่าสุด “สอนใคร” (Teach) จากอีพีอัลบั้ม “Arakgochina” (อาราโกชิน่า) ของศิลปินหนุ่มหล่อมาดเซอร์ “เป้ อารักษ์” หรือ “เป้ – อารักษ์ อมรศุภศิริ” สังกัดค่ายเพลง What The Duck ที่ก่อนหน้านี้ปล่อยเพลงสร้างเซอร์ไพร์สแฟนเพลงมาแล้ว 2 เพลง