กระแสหนัง Furious 7 (2015) ในบ้านเรามันช่างร้อนระอุไม่แพ้อากาศของเดือนเมษาแบบนี้เลย ใครที่ไปดูมากันบ้างแล้วเป็นไงบ้าง? สนุกไหม? เห็นมีคนแอบมา Spoiled เล็กๆว่าฉากจบที่อุทิศให้ Paul Walker ซึ้งมากๆ (RIP Paul Walker เพื่อไม่ให้เครื่องเย็นกันซะก่อนหรือใครท่ียังไม่ได้ดูมาอุ่นเครื่องกันๆ กับคอลัมน์นี้ ที่เราจะพาทุกคนไปพบกับบรรดา Facts เกร็ดน่ารู้เล็กๆน้อยๆของแฟรนไชส์ซีรี่ส์ Fast and the Furious ไม่ใช่ว่า “รู้รึเปล่า Paul Walker เสียชีวิตขณะถ่ายทำ เกือบครึ่งเรื่องเป็น CG น้องชายเขา” หรือ “รู้รึยัง จา พนม ได้ไปเล่นนะ” “รู้ไหมบ้านเราเกือบไม่ได้ฉาย” โอเคอันนั้นเรารู้ดีกันอยู่แล้ว เอาแบบที่คุณอาจจะไม่เคยรู้มาก่อน เราคัดมาให้เก็บไปโม้ในวงเพื่อนได้เพลินๆเลยจ้า!

1. ก่อนจะมาเป็น The Fast and the Furious…

เพราะว่าหนังเคยมีคนใช้ชื่อไปทีนึงแล้ว เป็นหนังเกรด B ปี The Fast and the Furious (1955) โอย เก่ามากๆเลยนะ เป็นเนื้อหาเกี่ยวกับซิ่งรถเหมือนกัน แต่เป็นเหมือนผู้ร้ายซิ่งหนีข้ามชายแดนกัน ซึ่งหลายคนก็มาตั้งข้อสังเกตว่า เออ หรือนี่จะเป็นแนวคิดของ Fast & Furious (2009) ภาค 4 ที่ซิ่งกันไปถึงเม็กซิโก แล้วตอนแรกหนังก็ไม่ได้กะจะใช้ชื่อนี้ด้วย ชื่อที่มีคิดสำรองไว้คือ Race Wars / Racer X / Red Line ซึ่งพอไล่ๆดูแล้ว อืม คิดถูกแล้วล่ะใช้ชื่อ The Fast and the Furious

2. เกือบจะไม่ใช่ Paul Walker ซะแล้ว

ตอนแรกที่มีการตกลงเรื่อง Casting หาตัวนักแสดงกันในเรื่อง The Fast and The Furious (2001) บทบาท Brian O’Conner ของ Paul Walker ในภาคแรก ที่เป็นตำรวจหนุ่มไป Undercover สักพักกลับใจเป็นโจรไปๆมาๆทำเอาเพื่อนปวดหัวนี้ จริงๆมีตั้งเอาไว้ให้นักแสดงชายหลายคน สามคนที่เราว่าน่าสนใจมากๆคือ หนุ่มมาดกวนโอ๊ยอดีตแร็ปเปอร์ Mark Wahlberg, พี่แบทแมน Christian Bale และคนนี้ไม่น่าเชื่อเลยคือสลิมเชดี้ Eminem ก็ถูกทาบทามมาเล่นบทนี้เช่นกัน (จะออกมาเป็นยังไงนะ) แต่สุดท้ายก็ได้เป็น Paul Walker ที่มีจิตวิญญาณนักซิ่งในสายเลือดนี้ล่ะ เหมาะสุดแล้ว

3. สองสาวนักซิ่งไม่ผ่านเกณฑ์

ไม่น่าเชื่อว่า สองสาวนักซิ่งในซีรี่ส์นี้ไม่ว่าจะ Jordana Brewster หรือที่หนักเลยคือสาวคิวบู๊อย่าง Michelle Rodriguez ไม่เคยสอบใบขับขี่ในชีวิตจริงมาก่อน ใน Fast แรกต้องมาฝึกซิ่งก่อนถ่ายทำหนังกัน แต่มาถึง ภาค 7 นี้เราว่าอเมริกาให้ใบขับขี่เธอสองคนฟรีๆไปเลยเถอะ ขับโหดมาก

4. ฉากแข่งรถบนถนนสนามแรกใน The Fast and The Furious (2001) ใช้ Sound Effects ไปทั้งหมด 15,000 เสียงในการถ่ายทำ!

โห Facts นี้ตอนที่เรารู้ครั้งแรกก็ทึ่งมากๆ จำฉากที่ Dominic กับ Brian อัดแข่ง Drag กันครั้งแรกบนถนนกับรถอีกสองคันได้ไหม? นั่นล่ะ เพื่อให้ได้เสียงฉากแข่งรถบนถนนที่สมจริง และโคตรมันส์ทุกอณู จำเป็นต้องใช้เสียง Sound Effects ในการตัดต่อไปทั้งสิ้น 15,000 เสียง (ย้ำว่าแต่ละเสียงไม่ซ้ำกันด้วยนะ) ซึ่งจริงๆแล้วมันมีความยาวไม่กี่นาทีเอง เราลองไปชมกันอีกทีดีกว่าว่ามีเสียงอะไรบ้าง ซับซ้อนไปหมด แต่พอใส่หูฟังฟังอีกที อืม คนถึงรัก The Fast and The Furious เพราะนึกภาพว่าดูในโรงมันคงกะหึ่มโคตรๆ ตอนหลังมีคนมือดีเอาระยะทางที่วิ่งกันมาคำนวณกับเวลาในเรื่อง พากันบอกเลยว่าสงสัยเกความเร็วจะพัง เพราะเอาเข้าจริงแล้ววิ่งกันเต่ามากๆ หรือไม่ก็เป็นเมืองเถื่อนที่แข่ง Drag กันยาวโคตรๆ แหม่ กับหนังจะเอาอะไรมาก เนอะ

5. The Fast and The Furious (2001) ภาคแรกได้แรงบันดาลใจมากจากข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์

ผู้กำกับ Rob Cohen เล่าว่าเขาได้แรงบันดาลใจทำหนังเรื่องนี้มาจากอ่านข่าวเจอในหนังสือพิมพ์เกี่ยวกับแก๊งค์ซิ่ง และมีบทความเกี่ยวกับนักแข่งรถบนถนนใน Los Angeles ยามค่ำคืน (จากนิตยสารมอเตอร์ไซค์ “Racer X”) สุดท้ายมาโยงเรื่องตำรวจ ครอบครัว หักหลัง เข้ามาหน่อย โอ เกิดเป็นหนังแอคชั่นดีๆเรื่องหนึ่งเลย

6. ทุนสร้างและทำรายได้กำไรมหาศาลเป็นประวัติการณ์

รายได้ของหนังแฟรนไชส์ The Fast and the Furious ถือเป็นบิ๊กเบิ้มของวงการ Hollywood ที่นักทำหนังหลายคนพูดถึงแล้วตาลุกวาวพอสมควร เพราะทำมากี่ภาคๆบรรดาคนรักรถก็ตีตั๋วเข้าไปดูโรงกันไม่ขาดสาย ผลออกมาคือสถิติตัวเลขที่ตอนนี้ก็ยังไม่มีใครทำได้อย่างเช่น หนัง Fast & Furious 6 (2013) ภาค 6 ทำรายได้ทะลุ 500  ล้านดอลลาร์สหรัฐรอบโลกเร็วสุดเท่าที่ค่าย Universal Pictures เคยมีมา หรือ ทุนที่ใช้สร้างภาค 7 นี้ใช้ไปทั้งหมด 160 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมทั้ง 7 ภาค ใช้งบไปแล้วทั้งหมด 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แล้วอัพเดตล่าสุดสดๆร้อนๆ กระแสตอบรับของ Fast 7 ตอนนี้ก็แรงกด NOS แซงทุกโค้งเลยจริงๆ เห็นมีการเก็งว่ารอบโลกอาจจะทำรายได้หลักพันล้านดอลลาร์ เลยก็ได้ โอว มาย ก็อช!

7. Drift King ตัวจริง Keichii Tsuciya มาโผล่เป็นตัวประกอบในภาค The Fast and the Furious: Tokyo Drift (2006) ด้วย

จำฉากที่พระเอกพึ่งเริ่มฝึกดริฟท์กับฮาน แล้วอยู่ดีๆก็มีตัดมาเป็นภาพคนตกปลาริมน้ำนั่งคุยกันแล้ววิจารณ์การดริฟท์ไหม?  คนเสื้อน้ำเงินนั่นล่ะคือ Keichii Tsuciya เซียนดริฟท์ตัวพ่อในโลกความจริง นอกจากจะมาเป็นตัวประกอบแล้ว ยังเป็นคนให้คำปรึกษาด้านเทคนิคตลอดการถ่ายทำ เห็นว่าใน Initial D แกก็ไปแจมในกองถ่ายเหมือนกันนะ

8. ชื่อเต็มๆของ ฮาน ก็คือ Han Seoul-Oh!

ตัวละครที่หลายคนชื่นชอบ เพราะตัวจริงพี่แกก็รักประเทศไทยมาเที่ยวบ่อย แถมชอบอัพรูปบอกคนทั่วโลกด้วย (ถึงเรื่องแผ่นก็อปเอย รถสายแปดเอย) แต่รู้ไหมว่าชื่อเต็มๆของ ฮาน คือ Han Seoul-Oh เราไม่รู้ว่าเป็นมุขรึเปล่า แต่เราว่าฮาดีนะ มาจากเกาหลี ชื่อเมืองหลวงเกาหลี แล้วก็อ่านแล้วคล้ายๆกับ Han Solo ของ Star Wars  ด้วย

9. มีหนังสั้นชื่อ Los Bandoleros ที่ช่วยบอกเล่าเรื่องราวก่อนเริ่ม The Fast and The Furious ด้วย

ทำโดย Vin Diesel เล่นโดย Vin Diesel พูดถึงเรื่องราวของ Dominic ก่อนจะมาเป็นแบบที่เราเจอกันในหนังภาคแรก ใครที่รู้ว่าเป็นแฟนเรื่องนี้แต่ยังไม่เคยดู รีบไปหามาดูด่วน!

10. ไทม์ไลน์ของหนังที่ต้องใช้ความเข้าใจพอสมควร

The Fast and The Furious มีมาแล้ว 7 ภาค แต่เคยรู้หรือสงสัยกันหรือไม่ว่า เนื้อหาของแต่ละภาคเรียงต่อกันยังไง เพราะนี้คือแฟรนไชส์ที่หลายคนบอกว่าเอาแค่ชื่อเรื่อง ก็ทำเอาดูงงตามๆกันแล้ว เอาเริ่มตั้งแต่ภาค 1-2 The Fast and the Furious (2001) และ 2 Fast 2 Furious (2003) สองอันนี้ก็คือภาคต่อ Sequel กันตามปกติเหมือนหนังทั่วๆไป แต่พอมาภาคสาม The Fast and the Furious: Tokyo Drift (2006) นี่ล่ะสิ ที่เนื้อหากระโดดไปทำไกลมาก เสร็จแล้ว 4-6 Fast & Furious (2009) / Fast Five (2011) / Fast & Furious 6 (2013) เป็นช่วงเวลาคู่ขนานหลังจากภาค 2 ที่ช่วยเล่าว่ามีตัวละครอะไรเติมเข้ามาบ้าง ถึงภาค 7  Furious 7 (2015) นี้  เป็นภาคที่ถือเป็นภาคต่อล่าสุดจริงๆหลังจาก Tokyo Drift มาเฉลยให้คนดูรู้ตอน End Credit ภาค 6 ที่ อ่าว เห้ย ต่อจากที่ฮานตาย แล้วไหงเป็นเฮีย Jason Statham ที่เหยียบมิดอัดกลางแยกในโตเกียว ก็ดำเนินเรื่องปูมาให้เป็นตัวโกงในภาค 7 นี้เข้าพอดิบพอดี ตอนแรกไอ้เราก็งงมาตั้งนานว่าทำไม ฮาน มาโผล่ภาคนั้นนี้ ไม่ตายเสียที เรารู้ล่ะว่าอ่านแล้วงง ลองดูรูปประกอบเผื่อจะเก็ต เรียงตามซ้ายไปขวาเลยจ้า

11. หักมุมแม้แต่นักแสดงด้วยกันเอง

ตัวละครแฟนสาว Dominic ของ Michelle Rodriguez ที่เกิดการหักมุมกันในเรื่อง แปรพรรคแปรพวกกันนิดหน่อย จนถึงตอนนึงก็เหมือนจะตายไปแล้ว (ขอโทษนะถ้า Spoil) ในตอนจบ Fast Five อยู่ดีๆเธอก็โผล่มาหลัง End Credit เรื่องนี้เจ้าตัวเล่าให้สื่อฟังว่า “ฉันก็เพิ่งมารู้ในโรงพร้อมๆกับคนดูเหมือนกันว่า จะมีฉันเล่นในภาคต่อไปด้วย” นี่แสดงว่าจะไม่เซ็นสัญญาไรกันเลยเหรอเนี่ย จู่ๆก็จับมาเล่นอีกภาคเลย แหม การทำงานแบบ F&F นี่มันต้องเร็วสมชื่อจริงๆ

12. ต้องขอบคุณแฟนๆใน Facebook เราถึงได้เห็น The Rock มาโลดแล่น

รู้หรือไม่ว่าตอนแรกบทนักล่าค่าหัวและสายลับสายบู๊ Luke Hobbs ที่รับบทโดย The Rock ใน Fast Five (2011) นั้น ตอนแรกถูกสร้างมาให้ Tommy Lee Jones หืมมมม!!!? ไม่น่าเชื่อใช่ไหมล่ะ เราว่าภาพลักษณ์ของตัวละครนี้ตอนแรกเขาคงคิดให้เป็นแบบสายลับสมองเพชร อ่านเกมส์ขาดทุกท่วงท่า เหมาะกับปู่ทอมมี่ ลี โจนส์ แต่ไปๆมาๆ ใน Facebook แฟนเพจวิน ดีเซล เกิดกระแสของแฟนๆขึ้นมาเล่นๆว่า “เออ ถ้าเราได้เห็น วิน ดีเซล ฟัดกับ The Rock สักทีคงมันส์ไม่น้อย” พี่วินแกได้ยินก็ของขึ้นเลยทีเดียว เปลี่ยนบทให้เป็นสายลับบู๊ แล้วทาบทาม The Rock มาเล่น จนถึงภาคล่าสุดนี้พี่แกก็ยังร่วมฟัดกันอยู่เลย

13. รู้หรือไม่? ฉากเครื่องบินใน Fast & Furious 6 (2013) ถ้าเป็นเรื่องจริงนั่นจะต้องเป็น Runway ที่ยาวที่สุดในโลก!

เอาอีกละ มีเซียนนักคำนวณโผล่มาโชว์กึ๋นกันอีกแล้ว ที่ต่างประเทศหลังจากหนังฉาย ก็มีคนนั่งคิดกันว่า นี่ถ้ารถวิ่งเร็วขนาดนี้ ด้วยอัตราแรงกล แรง G บลาบลา บู๊กันหนักหน่วง ขับตรงบ้างไม่ตรงบ้าง แต่ยังเป็นฉากในหนังที่กินระยะเวลาได้นานขนาดนี้ล่ะก็ นี่มันจะต้องเป็น Runway เครื่องบินที่ยาวที่สุดในโลกแล้วล่ะม้าง!? อืมมม เพื่อท้าพิสูจน์ไปด้วยกัน มีคนใจดีตัดวิดีโอฉากที่ว่าเป็นแบบ  Real Time ให้ดูช็อตต่อช็อตด้วยนะ …เออ ยาวจริงๆ

14. หนังเรื่องนี้เป็นหนังของ “รถ” จริงๆ

ถึงภาคนี้ หนัง Fast ใช้รถมาเยอะแยะเต็มไปหมดเลยจริงๆ รู้สึกว่าถ้านับเป็นรุ่น น่าจะมีไม่ต่ำกว่า 100 เลยทีเดียว แต่ที่เราควรรู้กันไว้ก็คือ กว่าจะมาถึงภาคนี้ หนังทำรถเจ๊งไปแล้วเกิน 1,000 คัน! (หึหึ ไงล่ะ รักรถกันนัก) เอาแค่ภาค 6 ภาคเดียวใช้รถเข้ากองถ่ายกว่า 400 คันแล้ว แค่ฉากบิดรถถังฉากเดียวนี่เหยียบรถ อัดรถ บี้รถคันอื่นๆตอนถ่ายทำไป 250 คัน กว่าจะได้ Take ที่พอใจ ไงล่ะทีนี้ เร็ว แรง ทุ่มทุนพอไหม?

CREDIT: ขอบคุณข้อมูลจาก Watchmojo, Screencrush, Wikipedia