1. The Kings of Summer (2013)
Director: Jordan Vogt-Roberts
หนังรางวัล Grand Jury Prize จากเทศกาลหนัง Sundance เมื่อปี 2013 น่าจะทำให้หลายคนหวนนึกถึงวันปิดเทอมฤดูร้อนอันหอมหวานสมัยเด็กๆ เมื่อเด็กวัยรุ่น 3 คนหนีออกจากบ้านเพื่อไปใช้ชีวิตในป่า โลกใหม่ที่ไร้ผู้ปกครองมาจ้ำจี้จ้ำไช เรียนรู้วิธีจับปลา หาข้าวกินเอง สูด ธรรมชาติเต็มปอด ตั้งกฎเกณฑ์ของตัวเอง ฟังดูช่างอิสระจนน่าอิจฉา แต่ไม่มีอิสรภาพใดจะได้มาฟรี ความยากสารพัดสิ่งรอวัดใจพวกเขาให้หันหลังเดินกลับบ้านไปกินข้าวอร่อยๆ หรือนอนบนเตียงนิ่มๆ อยู่วิทุกนาที แลกกับบทเรียนครั้งสำคัญก่อนการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ใน ‘บ้าน’ ที่อยากอยู่ ในชีวิตแบบที่ ‘เลือก’
2. Little Miss Sunshine (2006)
Director: Jonathan Dayton, Valerie Faris
โอลีฟ ฮูเวอร์ เด็กหญิงแว่นหนาเตอะ อ้วนปุ๊กลุ๊ก วัย 7 ขวบมีความฝันอยากไปยืนบนเวทีการประกวดหนูน้อยซันไชน์ เฝ้าฝึกซ้อมอย่างเข้มข้นทุกวัน ดูเป็นเรื่องไม่ไกลเกินเอื้อมสักนิด แต่…ภาพตัดมาที่พ่อผู้เกลียดคำว่า Loser เข้าเส้น อาก็ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าและเพิ่งผ่านการฆ่า ตัวตาย ไหนจะพี่ชายที่สาบานว่าจะไม่พูดกับใครตลอดชีวิตถ้ายังสอบเข้าโรงเรียน การบินไม่ติด คุณตาสายตลกแต่ใจนักเลง แม่ที่ประสาทเสียกับการดูแลคนในบ้าน ทั้งหมดตัดสินใจออกเดินทางไกล (มาก) ข้ามรัฐไปแคลิฟอร์เนีย สานฝันหนูน้อยโอลีฟให้เป็นจริง เป็นหนัง Family Satire Comedy ที่จิกกัดความบกพร่องของตัวละครอย่างเจ็บแสบ บางทีความพยายามอยู่ที่ไหน ก็ไม่จำเป็นว่าความสำเร็จจะรออยู่ที่นั่นเสมอไป แต่เพื่อพบว่าบางทีชีวิต ‘แพ้’ บ้างก็ได้ และมันไม่ตายหรอก Because That’s Life!
3. Roman Holiday (1953)
Director: William Wyler
พล๊อตเรื่องคลาสสิกประเภทเจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์นึกสนุกอยากปลอมตัวเป็นสาวบ้านๆ แล้วดั๊นไปตกหลุมรักกับชายหนุ่มธรรมดาๆ แต่ต้องเก็บไว้เป็นความลับเพราะไม่มีวันเป็นไปได้ #Roman Holidays ก็เช่นกัน ไม่ซับซ้อนอะไรเลยจริงๆ นอกจากเราจะกรี้ดกับความสวยสง่าเลอค่าของคุณแม่ Audrey Hepburn ที่ไม่ว่าจะอยู่ในลุกส์สามัญชนหรือเจ้าหญิง สมกับเป็นไอคอนของผู้หญิงทั่วโลกตลอดกาล บวกกับความหล่อของ Gregory Peck พระเอกรุ่นพ่อที่เราไม่เคยลืมนัยน์ตาเปี่ยมเสน่ห์ของเขาเลย ความรักในอุดมคติ ในเมืองแสนโรแมนติก เฮ้อ! มีอะไรคลาสสิกกว่านี้อีก
4. Eat Pray Love (2010)
Director: Ryan Murphy
“ถ้าหวังจะถูกลอตเตอรี่ แต่ไม่เคยซื้อเลยสักงวด แล้วมันจะถูกไหมล่ะ?” คือคำถามของ Eat Pray Love หนังที่สร้างจากบทบันทึกขายดีเป็นเทน้ำเทท่าของนักเขียนอเมริกัน อลิซเบธ กิลเบิร์ต หลังจากชีวิตแต่งงานกลับไม่เติมเต็มบางอย่างในจิตใจอีกต่อไป การออกเดินทางค้นหาส่วนที่หายจึงเริ่มขึ้น กาแผนที่จากอิตาลีเรื่อยมาจนถึงอินเดีย และจบลง ณ เกาะบาหลี ระหว่างนางเอกของเรื่องคือ Julia Roberts กำลังเชื่อมต่อเส้นทางของสิ่งที่ ‘หา’ กับสิ่งที่ ‘หาย’ เราอาจเคลิ้มไปกับวิวสวยๆ ของบ้านเมือง ยิ่งเจอแบ็กกราวนด์นาข้าวเขียวขจีของเกาะบาหลีเคล้าซาวนด์แทร็ก Samba de Bencao แทบอยากคว้าเสื้อลายดอก แว่นกันแดด โหลดเพลงบอสซาโนวาแล้วเก็บกระเป๋าตามไปรัวๆ!
5. Ruby Spark (2012)
Director: Jonathan Dayton, Valerie Faris
แค่ชื่อนักแสดงนำอย่าง Paul Dano มารับบทนำก็พอเดามือพี่แกได้ว่าเล่นใหญ่แน่นอน คาลวิน เวียร์-ฟิลส์ นักเขียนนิยายสายเนิร์ดสติเฟื่องที่อยู่ๆ สาวในนิยายที่ตัวเองกำลังเขียนก็เกิดหลุดออกมาเดินอยู่ในโลกจริง มีตัวตนจริง เป็นแฟนกัน จูบกัน (และทำอะไรด้วยกันอีกหลายสิ่ง) แต่แล้ววันหนึ่งเธอเกิดมีชีวิตจิตใจ มีระบบสั่งการเป็นของตัวเอง ไม่อยู่ภายใต้การเขียนบทของเขาอีกต่อไป เรื่องราววุ่นๆ มึนๆ จึงเกิดขึ้นท่ามกลางบรรยากาศซัมเมอร์และไอแดดแคลิฟอร์เนีย ไอเดียหลุดโลกแบบนี้ไม่ได้มาจากใครอื่น นอกจากผู้กำกับฯ คู่หู Jonathan Dayton และ Valerie Faris จาก Little Miss Sunshine ปี 2006 (สรุป 2 คนนี้เป็นคนตลกใช่ป่ะ?!?) และที่พีคกว่านั้นคือ Zoe Kazan นางเอกของเรื่องก็คือคนเขียนบทเรื่องนี้เองด้วย
Writer: Wednesday Adam
Images by 10086sunsetblvd, b2p, collider, ecufilmfestival, kareyhelms, LA times, lagranilusion.cinesrenoir, live-yourlife.hatenablog, oamaa.wordpress และ sgliput.wordpress
RECOMMENDED CONTENT
เพลงนี้เล่าถึงแรงเสียดทานในชีวิตที่ทุกคนไม่ว่าจะเป็นใคร ไม่ว่าจะยุคสมัยไหน ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ใดบนโลกก็ล้วนแล้วแต่ต้องพบเจอแรงเสียดทานนี้ ที่เกิดขึ้นจากการกดทับโดยบริบททางสังคม วัฒนธรรม รวมถึงการใช้ชีวิตประจำวันในแบบต่าง ๆ ที่คนคนหนึ่งต้องเจอ เพราะถึงแม้จะนับ 1 ถึง 100 เพื่อที่จะทำให้ตัวเองสงบใจ แต่สุดท้ายวันหนึ่งสิ่งนี้มันก็อาจจะเกินกว่าที่จะทนไหว และปลดปล่อยความรู้สึกที่ถูกเก็บไว้ออกมาก็เป็นได้