หากพูดถึงกีฬาที่ได้รับความนิยมจากหนุ่มๆ และคนที่ชอบการเล่นกีฬาเป็นทีม ฟุตบอล ต้องติดอยู่ในโพลแน่นอน ด้วยรูปแบบการเล่นที่ต้องใช้การวางแผน มีความท้าทาย มีระบบทีมที่ต้องแข่งขัน แถมยังได้ออกกำลังกายแบบขยับร่างกายทุกๆ ส่วน ช่วยเรียกเหงื่อได้เป็นอย่างดี หลายคนจึงยกให้ฟุตบอลเป็นกีฬาโปรดสำหรับการเล่นกับเพื่อนๆ และเป็นกิจกรรมที่เล่นกันในเวลาว่างนั่นเอง แต่ในการเล่นฟุตบอลนั้นก็ต้องอาศัยความเร็ว ความแข็งแรง และมักจะมีการปะทะร่างกายกันโดยตรง จึงมักทำให้เหล่านักเตะหรือคนที่เล่นฟุตบอลเกิดอาการบาดเจ็บตามมาเป็นประจำ ยิ่งถ้าไม่ได้เตรียมความพร้อมร่างกายก่อน อาการต่างๆ ที่เกิดขึ้นนั้นก็อาจรุนแรงยิ่งขึ้น 

ใครที่ชอบเตะบอลแล้วเจ็บเข่า เจ็บเท้า ปวดขา หรือปวดไปทั้งตัวอยู่บ่อยๆ ไม่ควรมองข้ามอาการตัวเองเด็ดขาด เพราะกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นในร่างกายของคุณอาจกำลังฉีดขาดอยู่ก็เป็นได้ ซึ่งการนวดและทายาด้วยตนเองอาจไม่เพียงพอ แต่ต้องได้รับการรักษาอย่างถูกวิธีเพื่อไม่ให้อาการลุกลาม ในบทความนี้เราได้รวบรวมอาการบาดเจ็บส่วนหนึ่งที่เกิดขึ้นจากการเล่นฟุตบอลมาฝากทุกคนแล้ว เหล่านักเตะรีบตามมาเช็กกันเลย

ข้อเท้าพลิกหรือข้อเท้าแพลง

อาการแรกที่เหล่านักเตะหรือคนที่เล่นฟุตบอลมักจะเผชิญอยู่บ่อยๆ คือ ข้อเท้าพลิกหรือบางคนอาจเรียกว่าข้อเท้าแพลง โดยมักจะเกิดจากการปะทะกันของผู้เล่นฟุตบอลสองฝ่ายที่ทำให้ข้อเท้าบิดหมุนมากเกินไป จนเกิดการพลิกเข้าด้านใน และเกิดการบาดเจ็บของเอ็นทางด้านนอกของข้อเท้าขึ้นมาได้นั่นเอง หากข้อเท้าพลิกไม่รุนแรงมาก ‘เส้นเอ็นไม่ได้ฉีกขาด’ อาจจะมีแค่อาการบวมเล็กน้อย เวลากดแล้วจะรู้สึกเจ็บบริเวณเส้นเอ็น แต่ยังพอเดินได้บ้าง แต่หากมีอาการที่ค่อนข้างรุนแรง ‘เส้นเอ็นเริ่มฉีกขาด’ อาจจะมีอาการบวมช้ำ มีเลือดคั่ง ปวดตลอดเวลาจนเดินไม่ค่อยได้ และอาการรุนแรงระดับสุดท้าย คือ ‘เส้นเอ็นฉีกขาดจนหมด’ ข้อเท้าไม่สามารถทรงตัวได้ ปวดหนัก และมีเลือดคั่ง ซึ่งต้องรีบเข้าพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยอาการต่อไป เพราะอาจเกิดภาวะข้อเท้าเรื้อรังและต้องเข้ารับการผ่าตัดได้

ปวดนิ้วหัวแม่เท้า

นิ้วหัวแม่เท้า หรือนิ้วเท้าต่างๆ เป็นอีกสิ่งที่ต้องเคลื่อนไหว หรือได้รับการกระทบกระเทือนแทบตลอดเวลาขณะที่เล่นฟุตบอล โดยอาการปวดนิ้วหัวแม่เท้านั้นเป็นอาการที่ถือว่าไม่รุนแรงมากนัก อาจเกิดขึ้นเนื่องจากนิ้วหัวแม่เท้าเหยียดมากจนเกินไประหว่างที่ดันไปที่พื้นแข็งๆ อย่างสนามหญ้าเทียม ทำให้เกิดอาการบาดเจ็บที่เส้นเอ็นที่นิ้วเท้าได้ สามารถใช้วิธีการประคบอุ่น หรือใช้ผ้ายืดพันไว้เพื่อลดอาการปวดในเบื้องต้นได้ 

ปวดโคนขาหนีบ

อาการปวดโคนขาหนีบ เป็นอีกอาการที่พบได้บ่อยในการเล่นกีฬาฟุตบอล ในเวลาที่ต้องวิ่งซิกแซก เลี้ยงลูกบอล หลบ เลี้ยว หรือก้าวเท้าไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ซึ่งจะทำให้กล้ามเนื้อต้นขาด้านในหรือบริเวณโคนขาหนีบเกิดการบาดเจ็บขึ้นมาได้ ใครที่เตะบอลแล้วเจ็บเข่าขึ้นมากะทันหัน ซึ่งเป็นอาการที่พบได้บริเวณโคนขาหนีบ หากอาการปวดขาหนีบไม่รุนแรงมาก สามารถบรรเทาอาการปวดเบื้องต้นได้เอง เช่น การประคบเย็น หรือการรับประทานยาแก้ปวด แต่หากอาการปวดโคนขาหนีบรุนแรง จนไม่สามารถนั่ง หรือเคลื่อนไหวได้ปกติ แนะนำว่าควรรีบไปพบแพทย์ทันทีเพราะเอ็นหรือข้อต่อบริเวณโคนขาหนีบอาจกำลังฉีกขาดได้ 

หมอนรองเข่าและกระดูกอ่อนบาดเจ็บ

นอกจากการปวดโคนขาหนีบ และบาดเจ็บที่เท้าแล้ว ในการเล่นฟุตบอลสามารถพบการบาดเจ็บของหมอนรองกระดูกเข่าหรือกระดูกอ่อนได้ด้วย ผู้เล่นฟุตบอลอาจมีอาการเข่าบวมหลังเล่นไปสักพัก ข้อเข่าล็อกจนไม่สามารถเหยียดงอได้สุด ซึ่งอาการเข่าบวมมักจะเป็นๆ หายๆ หากมีภาวะเข่าเหยียดได้ไม่สุดหลังการเล่นฟุตบอล ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุ หากเป็นการบาดเจ็บหมอนรองเข่าฉีกแบบรุนแรง จำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดเพื่อรักษาอาการหมอนรองเข่าบาดเจ็บให้รวดเร็วมากที่สุดเพื่อป้องกันการเกิดภาวะข้อเข่าเสื่อมก่อนวัยอันควร และทำให้ไม่สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ปกตินั่นเอง

เอ็นไขว้หน้าเข่าฉีกขาด 

สุดท้าย คือ เอ็นไขว้หน้าเข่าฉีกขาด อาจเป็นอาการที่ไม่ได้พบบ่อยมากนัก เทียบเท่ากับอาการอื่นๆ ในการเล่นฟุตบอล แต่หากเกิดขึ้นมาแล้วถือเป็นอาการที่รุนแรงมากที่สุดอาการหนึ่งเลย โดยเป็นการบาดเจ็บที่ไม่ได้มาจากการปะทะที่รุนแรงเหมือนอาการอื่นๆ แต่เกิดจากการบิดผิดรูปของข้อเข่าที่อาจจะมาจากการไม่ได้รับการวอร์มที่ถูกวิธี หรือกล้ามเนื้อที่เคลื่อนไหวมีปัญหา หากเตะบอลแล้วเจ็บเข่าขึ้นมาฉับพลัน พร้อมได้ยินเสียงดัง ‘ป็อก’ ในข้อเข่า พร้อมเกิดอาการบวมอย่างรุนแรงที่หัวเข่า อาจกำลังประสบกับภาวะเอ็นไขว้หน้าเข่าฉีกขาดได้ และหากเอ็นไขว้หน้าเข่าฉีกขาดแล้ว จะไม่สามารถเล่นฟุตบอลต่อได้เลย ทั้งยังไม่สามารถเดินลงน้ำหนักได้ปกติ ซึ่งจำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัดเพื่อรักษาอย่างถูกวิธี เพราะเอ็นไขว้หน้าเข่าฉีกขาดต้องใช้เวลาพักฟื้นนานหลายเดือนเลย 

และนี่คืออาการบาดเจ็บส่วนหนึ่งที่เกิดขึ้นได้จากการเล่นกีฬาฟุตบอล เพราะกีฬาฟุตบอลเป็นกีฬาที่ต้องใช้แรง ความเร็ว และต้องเจอกับสถานการณ์การปะทะร่างกายกันเป็นปกติ จึงเกิดอาการบาดเจ็บในร่างกายแต่ละส่วนขึ้นมาได้ วิธีป้องกันที่ดีที่สุด คือ การวอร์มอัปร่างกายให้พร้อม ยืดเหยียดกล้ามเนื้อก่อนและหลังลงสนามทุกครั้ง เพื่อเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ การทรงตัว และการเคลื่อนไหวที่ถูกต้อง และเพื่อป้องกันไม่ให้เอ็นไขว้หน้าฉีกขาด อักเสบ หรือได้รับอาการบาดเจ็บ และหากเกิดอาการบาดเจ็บขึ้นแล้ว ก็ควรรีบเช็กอาการตัวเองโดยด่วน เพราะอาจเป็นอาการที่รุนแรงที่ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันในระยะยาว ซึ่งต้องเข้ารับการรักษาอย่างถูกวิธี เช่น หากเตะบอลแล้วเจ็บเข่าขึ้นมาฉับพลัน อาจเสี่ยงเอ็นไขว้หน้าเข่าฉีกขาดจนต้องรักษาด้วยการผ่าตัดเอ็นไขว้หน้าเข่านั่นเอง 

สำหรับนักเตะ หรือคนที่ชอบเล่นกีฬาฟุตบอลแล้วหลังเล่นเสร็จมีอาการผิดปกติ หรือเจ็บปวดร่างกายแต่ละส่วน สามารถขอคำปรึกษาและเข้ารับการตรวจอาการอย่างละเอียดได้ที่ ที่ KDMS Hospital โรงพยาบาลกระดูกและข้อ ข้อดีมีสุข เราเป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางกระดูกและข้อ มีแพทย์มากประสบการณ์ในการวินิจฉัยโรค การผ่าตัด และการทำกายภาพบำบัด พร้อมกับโปรแกรมตรวจสุขภาพกระดูกและกล้ามเนื้ออย่างครบครัน ให้คุณมีกระดูกและกล้ามเนื้อที่แข็งแรง พร้อมใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพในทุกวัน