fbpx

CONTACT US

DOODDOT VIDEOS

บ้านริมผาในคอสตาริก้า ที่อยู่ท่ามกลางป่าและมีวิวเป็นท้องทะเล ผลงานของสตูดิโอ Formafatal
date : 24.มกราคม.2023 tag :

Formafatal สตูดิโอที่ขึ้นชื่อทั้งด้านสถาปัตยกรรม อินทีเรียดีไซน์ และการจัดนิทรรศการ ได้เปิดเผยผลงานของพวกเขาเป็นที่พักในป่าที่หันหน้ารับลมท้องทะเลในประเทศคอสตาริกา

ที่พักแห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้เมือง Uvita สร้างบนเนินเขาสูงชัน รายล้อมด้วยพืชพันธุ์เขียวขจี ภายนอกเลือกใช้วัสดุอย่างดินเหนียวและประจกใสขนาดใหญ่เข้ามาให้รู้สึกโปร่งสบาย ไม่มีเส้นสายให้สะดุดสายตา สามารถรับสายลมและแสงแดดได้ตลอดเวลา ในบริเวณนี้มีที่พักทั้งหมด 2 หลัง ซึ่งห่างกัน 12 เมตรเพื่อให้มีความเป็นส่วนตัว

สถาปนิกได้พัฒนาเรื่องสีแต่ละสีเพื่อให้เห็นความแตกต่างจากบริบทตรงนั้น หนึ่งคือ Jaspis Villa มีเฉดสีทรายอ่อน ในขณะที่อีกหลังคือ Nefrit Villa เป็นโทนสีแดงแบบเอิร์ธโทน Dagmar Stepanova ผู้ก่อตั้งกล่าวว่าแนวคิดเรื่องสีของการตกแต่งภายในตอบสนองต่อพลังงานที่รับรู้ได้จากที่ตั้งของที่พัก

ทั่วบริเวณทั้งสองแห่ง ผนังรับน้ำหนักรอบด้านทั้งหมดทำจากดินเหนียว ซึ่งถูกขุดขึ้นเพื่อเป็นทางสำหรับการก่อสร้าง กระบวนการวัสดุนี้เรียกว่าดินกระทุ้งสร้างรูปลักษณ์ดิบๆ  และเข้ากับคอนกรีตและเหล็กโครงสร้างที่ใช้สร้างส่วนอื่นๆ ของที่อยู่อาศัยฉันเลือกวัสดุให้มีความทนทานมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยคำนึงถึงสภาพอากาศและความชื้นสูงของคอสตาริกา” Stepanova กล่าวเสริม เธอทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านดินกระทุ้งจากบราซิล ซึ่งเป็นผู้ฝึกฝนช่างฝีมือท้องถิ่นในการสร้างสิ่งก่อสร้างด้วยวิธีนี้

ภายใน แผนผังชั้นจะละทิ้งประตูไปในรูปแบบเปิดโล่งทั้งหมด แผงบานเลื่อนให้ความเป็นส่วนตัวสำหรับห้องน้ำ ในขณะที่หน้าต่างกระจกไร้กรอบเปิดออกไปยังระเบียง ในแง่ของเฟอร์นิเจอร์และแสงไฟ ชิ้นงานได้รับการคัดเลือกด้วยมือตามจานสี โดยมีผลงานจากนักออกแบบทั่วโลกที่นำเสนอในบ้านทั้งสองหลัง

RECOMMENDED CONTENT

14.ธันวาคม.2020

‘School Town King’ แร็ปทะลุฝ้า ราชาไม่หยุดฝัน เป็นหนังสารคดีที่สร้างจากเรื่องจริงของ ‘บุ๊ค’ เด็กหนุ่มวัย 18 และ ‘นนท์’ วัย 13 ผู้เติบโตมาในชุมชนคลองเตย หรือที่ใครๆ ต่างรู้จักในอีกชื่อหนึ่งว่า ‘สลัมคลองเตย’ นอกจากความยากจนที่มาพร้อมกับสถานะทางสังคมที่เลือกไม่ได้แล้ว ทั้งบุ๊คและนนท์ยังไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับระบบการศึกษา รวมทั้ง หลักสูตรการเรียนการสอนที่เน้นแต่ความสำเร็จเชิงวิชาการก็ยิ่งทำให้เด็กเรียนไม่เก่งอย่างพวกเขาขาดความสนใจในชั้นเรียนลงไปเรื่อยๆ  ระบบการศึกษาที่น่าจะเป็นความหวังและเท่าเทียมกันของเด็กทุกคน กลับยิ่งบีบบังคับและผลักไสให้พวกเขาเป็นแค่ ‘คนนอก’ ของสังคมไปโดยปริยาย