บริษัท เมนทาแกรม จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายกล้องสปอร์ตแอคชั่น “โกโปร” อย่างเป็นทางการแต่เพียงรายเดียวในประเทศไทย เปิดตัวกล้องโกโปรใหม่ GoPro HERO4 Session (โกโปร ฮีโร่4 เซสชั่น) เป็นกล้องโกโปรที่เล็กที่สุด เบาที่สุด และใช้งานสะดวกที่สุดเท่าที่เคยมีมา ด้วยขนาดเล็กกะทัดรัดพร้อมดีไซน์กันน้ำ และการควบคุมด้วยปุ่มกดเพียงปุ่มเดียว มอบความง่ายแต่ทรงพลังในการบันทึกภาพทุกไลฟสไตล์ GoPro HERO+ LCD (โกโปร ฮีโร่พลัสแอลซีดี) เป็นกล้องโกโปรสำหรับผู้เริ่มต้นใช้งานเพิ่มความสะดวกด้วยหน้าจอสัมผัส พร้อมฟีเจอร์ตัดวิดีโอใหม่ล่าสุดและมี Wi-Fi ในตัว เพิ่มความสะดวกในการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน
HERO4 Session กล้องโกโปรที่เล็กที่สุด เบาที่สุดและสะดวกที่สุดเท่าที่เคยมีมา
ด้วยขนาดที่เล็กลง 50% และเบากว่าเดิมถึง 40% เมื่อเทียบกับกล้องที่ขายดีที่สุดอย่าง GoPro HERO4 Black และ Silver กล้อง HERO4 Session นั้นถือว่าเบากว่ามาก HERO4 Session มาพร้อมระบบกันน้ำที่ช่วยให้คุณไม่จำเป็นต้องใช้กล่องกันน้ำอีกต่อไป ทั้งยังใช้งานง่ายด้วยปุ่มกดเพียงปุ่มเดียวเท่านั้น ซึ่งทำให้การบันทึกภาพและวิดีโอในสถานการณ์กระทันหันได้อย่างรวดเร็วและสะดวกยิ่งขึ้น กล้อง HERO4 Session ยังสามารถใช้งานร่วมกับ mount ทุกรุ่นของโกโปรที่วางจำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน
สามารถบันทึกวิดีโอคุณภาพในความละเอียด 1440p30, 1080p60, และ 720p100 พร้อมการบันทึกภาพนิ่งขนาด 8 เมกะพิกเซล ทั้งในโหมดภาพเดี่ยว ภาพนิ่งต่อเนื่อง (Burst) และภาพแบบตั้งเวลา (Time Lapse) โดยมีฟีเจอร์ล้ำๆ ที่พบได้ในกล้อง HERO4 Black และ Silver รวมถึง SuperView (ซูเปอร์วิว) Protune (โปรทูน) และ Auto Low Light หรือการบันทึกภาพในสภาวะแสงน้อยอัตโนมัติ การควบคุมและตั้งค่าที่ทำได้มากขึ้นผ่านแอพโกโปร หรือ
ตัวควบคุมระยะไกลอัจฉริยะ (Smart Remote)
HERO4 Session มีความทนทานตามมาตรฐานของ GoPro สามารถลงน้ำได้ลึกถึง 33 ฟุต (10 เมตร) โดยยังคงระบบ mounting ที่สามารถเข้ากันได้กับ mount อื่นๆทุกชนิดของโกโปรที่มีจำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน ระบบไมโครโฟนคู่ที่สลับกันบันทึกเสียงระหว่างการใช้งาน เพื่อลดเสียงลมรบกวนขณะบันทึกภาพกิจกรรมต่างๆ การบันทึกเสียงกิจกรรมต่างๆในน้ำได้รับการปรับปรุงให้ดีมากยิ่งขึ้น การออกแบบเพื่อกันน้ำในตัว ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้กล่องกันน้ำซึ่งมักจะไปปิดกั้นเสียงในขณะทำกิจกรรม
การใช้งาน HERO4 Session ทำได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่กดปุ่มชัตเตอร์สั้นๆ กล้องจะเปิดและเริ่มบันทึกวิดีโอโดยอัตโนมัติ กดปุ่มชัดเตอร์ค้างไว้จะเปิดกล้องและเริ่มบันทึกภาพนิ่งแบบ Time Lapse กดปุ่มชัตเตอร์อีกครั้งเพื่อบันทึกวิดีโอ ภาพถ่าย และปิดกล้อง สั่งการด้วยปุ่มเพียงปุ่มเดียวมอบความรวดเร็วและสะดวกในการบันทึกภาพทุกไลฟสไตล์ได้ทันที
โดยกล้อง GoPro HERO4 Session จะจำหน่ายในราคา 14,800 บาท ณ ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
HERO+ LCD สะดวกครบเครื่องด้วยหน้าจอสัมผัสและการเชื่อมต่อผ่านระบบ Wi-Fi
บันทึกภาพวีดีโอด้วยความละเอียดสูงถึง 1080p60 และภาพนิ่ง 8 เมกะพิกเซล กล้อง HERO+ LCD มาพร้อมหน้าจอสัมผัสเพื่อให้การถ่ายภาพเป็นไปอย่างง่ายดาย ทั้งยังช่วยในการตั้งค่าและเข้าถึงฟีเจอร์ตัดวิดีโอใหม่ล่าสุดอีกด้วย HERO+ LCD มาพร้อมกับกล่องกันน้ำในตัว (housing) เช่นเดียวกับกล้อง HERO รุ่นปกติ ด้วยการออกแบบที่ครบในหนึ่งเดียวพร้อมผนึกฟีเจอร์ที่มากขึ้น ช่วยให้การบันทึกช่วงเวลาที่น่าจดจำแห่งชีวิตได้สะดวกและง่ายยิ่งขึ้นกว่าเดิม
ทนทาน กันน้ำได้ถึง 131 ฟุต (40 เมตร) HERO+ LCD ได้รวมฟีเจอร์ขั้นสูงอย่าง HiLight Tag และฟีเจอร์ตัดวิดีโอในตัวกล้อง (video trimming) ช่วยให้ง่ายในการเลือกและแบ่งปันช่วงเวลาที่คุณโปรดปราน HiLight tag ให้คุณกำหนดช่วงเวลาสำคัญขณะบันทึกภาพและระหว่างเล่นวิดีโอ เพื่อให้คุณค้นหาช่วงเวลาดังกล่าวได้ง่ายขึ้น ฟีเจอร์การตัดวิดีโอใหม่นี้ช่วยให้คุณทำคลิปสั้นๆ พร้อมแชร์ใน Social Media ได้โดยไม่ต้องใช้คอมพิวเตอร์
ระบบ Wi-Fi และ Bluetooth ในตัวช่วยเชื่อมต่อ HERO+ LCD กับแอพโกโปรบนสมาร์ทโฟนหรือแทบเล็ตของคุณเพื่อควบคุมกล้องและถ่ายภาพพรีวิวได้ง่ายขึ้นเมื่อกล้องของคุณ mount ติดกับอุปกรณ์อื่นหรืออยู่ไกล แอพโกโปรยังช่วยแบ่งปันคอนเทนต์ไปยังอินสตาแกรม เฟซบุ๊ค ทวิตเตอร์ และอื่นๆ ได้ง่ายขึ้น พร้อมผนึกฟีเจอร์ตัดวิดีโอลงไปด้วยเพื่อความสะดวกในการมอบโซลูชั่นสำหรับการแบ่งปันคอนเทนต์
กล้อง GoPro HERO + LCD วางจำหน่ายแล้วในราคา 10,999 บาท ณ ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ
เป็นอย่างไรกันบ้างนักผจญภัยกับกล้องทั้ง 2 รุ่นนี้ ถูกใจใช่ไหมล่ะ? งั้นจับกล้อง เก็บกระเป๋าสุดสัปดาห์นี้ออกไปเที่ยวกับภาพสนุกๆ มาฝากเพื่อนกันเลย 😀
Mentagram
Website: http://www.mentagram.com/
RECOMMENDED CONTENT
อาดิดาส เปิดตัวชุดแข่งขันทีมชาติอิตาลีคอลเลกชันแรก ร่วมกับสหพันธ์ฟุตบอลอิตาลี หลังประกาศความร่วมมือกันอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา โดยทีมชาติอิตาลีทุกระดับจะสวมชุดแข่งขันของอาดิดาส ไม่ว่าจะเป็น ทีมฟุตบอลชาย ทีมฟุตบอลหญิง ทีมฟุตบอลชุดเยาวชน ทีมฟุตซอล ทีมฟุตบอลชายหาด รวมถึง ทีมอีสปอร์ต (e-sports)