“มันมีคนถามผมตลอด แต่ผมไม่รู้จริงๆ ผมแค่แบบ… แล้วใครแคร์?” 

นี่คือคำตอบของนักร้องหนุ่มวัย 26 แฮร์รี่ สไตลส์ (Harry Styles) ตอนให้สัมภาษณ์กับ The Guardian เมื่อมีคนสงสัยว่าจริงๆ แล้วเขาเป็นไบเซ็กชวล บางคนก็ว่าเขาเป็นชายแท้ เกย์ ทรานส์ หรือเพศไหนกันแน่ ไม่ได้ว่าจะปิดบังหรือบ่ายเบี่ยงเรื่องเพศของตัวเอง เพียงแต่เขาแค่คิดว่าไม่ได้ไม่จำเป็นต้องระบุขนาดนั้น

ไม่แปลกที่ใครๆ ที่รู้จักและติตตามนักร้องหนุ่มมานานจะเกิดความสงสัยเหล่านี้ ตั้งแต่เขาปรากฏตัวในชุดจั๊มสูทผู้หญิงสีดำผสมผ้าลูกไม้ พร้อมกับโบว์ใหญ่ๆ ในงาน Met Gala เมื่อปีที่แล้ว ถึงชุดสูทสีเหลืองจากคอลเล็กชั่น Womenswear ของ Marc Jacobs spring 2020 และในคืนเดียวกันเขาก็เปลี่ยนไปสวมชุดจั๊มสูทลูกไม้สีขาวดูอ่อนโยนของ Gucci ขึ้นแสดงสดเพลง Falling จากอัลบั้มชุดที่ 2 ของตัวเองในงาน Brit Awads ที่ผ่านมาเมื่อไม่กี่วันมานี้ แล้วก็ชุดอีกนับไม่ถ้วนที่เขาใส่ปรากฏตัวในช่วงหลังๆ ล้วนแต่เป็นชุดที่เหมือนขโมยเสื้อผ้าพี่สาวมาใส่ทั้งนั้นเลย

จากเด็กหนุ่มสมาชิกวงบอยแบนด์สุดฮอต One Direction เมื่อหลายปีก่อน  กลายเป็นแฟชั่นไอคอนที่ใส่สร้อยไข่มุก ทาเล็บสีชมพู สวมแหวนเกือบทุกนิ้ว ใส่ส้นสูง แต่งตัวฟรุ้งฟริ้งด้วยเสื้อผ้าผู้หญิง ปรากฏตัวพร้อมกับลุค ‘แอนโดรจีนัส’ (Androgynous) ที่ผสมรวมระหว่างความเป็นชาย (Masculine) และความเป็นหญิง (Feminine) จนเป็นภาพจำไปแล้ว บางคนถึงกับบอกว่าแฮร์รี่ สไตลส์ คือเดวิด โบวี่ รวมร่างกับ Prince กลับชาติมาเกิดใหม่ในยุคนี้ 

“อะไรคือเสื้อผ้าผู้หญิง แล้วอะไรคือเสื้อผ้าผู้ชายกันเหรอ?” แฮร์รี่ สไตล์ถามกลับ

“สำหรับผมมันไม่ใช่คำถามเลย ถ้าผมเห็นเสื้อตัวหนึ่งสวย แต่อีกคนบอกว่า ‘เห้ย นั่นเสื้อผ้าผู้หญิงนะ’ ผมก็จะกลับมาคิดว่าโอเค แล้วมันทำให้ผมอยากใส่เสื้อตัวนั้นน้อยลงมั้ย เพราะผมคิดว่าอะไรก็ตามที่ทำให้คุณรู้สึกดีกับตัวเอง ชีวิตมันจะง่ายขึ้นมากเลยนะ”

จริงๆ มันไม่ได้เพิ่งเริ่มเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา กำแพงของแฟชั่นเสื้อผ้าผู้ชายกับผู้หญิงไม่ได้ถูกแบ่งแยกอย่างชัดเจนมาตั้งนานแล้ว ไม่ใช่เรื่องแปลกหากนายแบบจะใส่เสื้อผ้าลูกไม้ เสื้อครอป ส้นสูง หรือสวมกระโปรง แล้วมันก็ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ความแฟนตาซีบนรันเวย์เท่านั้น แต่ผู้บริโภคคนธรรมดาสามัญอย่างเราๆ ก็ดูเหมือนว่าจะกล้า ‘เล่น’ กับความไร้เพศของเเฟชั่นยุคนี้ด้วยเหมือนกัน เราเห็นคนดังอย่าง เจเดน สมิธ, เอซร่า มิลเลอร์, จาเร็ด เลโต, ทิโมธี ชาลาเมต์ และคนอื่นๆ อีกหลายคนที่สนุกกับแฟชั่นไร้ขีดจำกัดของคำว่าเพศเช่นทุกวันนี้

เมื่อสุดท้ายแล้วการแต่งตัวไม่ได้เป็นการแสดงออกว่าเป็นเพศไหน แฮร์รี่ สไตล์บอกว่า การที่เขาแต่งตัวแบบนี้ ส่วนหนึ่งมันหมายถึงการสะท้อนสิ่งที่ตัวเองเป็น และการยอมรับสิ่งนั้น ไม่ใช่แค่เรื่องของแฟชั่น แม้แต่ในการทำงานเพลงของสไตล์ด้วย เพราะนับตั้งแต่วันที่เขาเดินออกจากวงมาเป็นศิลปินเดี่ยว ท่ามกลางการจับตามองของแฟนเพลงทั่วโลกว่าหนุ่มน้อยจากวงบอยแบนด์คนนี้จะไปในทิศทางไหน เขาก็ได้ฉีกภาพจำของการเป็นบอยแบนด์ของตัวเองออกไปด้วยทันที แล้วอัลบั้มชุดที่ 2 ‘Fine Line’ นี้ ก็คืองานที่พิสูจน์การบินเดี่ยวอีกครั้งอย่างชัดเจนที่สุดทั้งความสามารถด้านดนตรีและจุดยืนของผู้ชายชื่อแฮร์รี่ สไตล์ ซึ่งรสนิยมการแต่งตัวของเขาก็คือส่วนหนึ่งในนั้น

“ถามว่าผมพยายามแต่งตัวให้ดูเป็นเพศกำกวมเพื่อเรียกร้องความสนใจหรือเปล่า?” 

“เปล่าเลย ถ้าเป็นเรื่องเสื้อผ้าที่ผมอยากจะใส่ ผมอยากให้มันออกมาเป็นอย่างที่เป็น ไม่ใช่เพราะว่าพยายามให้ดูเป็นเกย์ เป็นชายแท้ หรือเป็นไบเซ็กชวล หรืออะไร แต่เป็นอะไรที่ผมว่ามันเจ๋งพอ ก็แค่นั้น” สไตล์ตอบ

ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลทางการตลาด แสดงออกเชิงสัญลักษณ์ถึงการมีเสรีภาพ หรือเหตุผลอะไร แต่อย่างน้อยเขาทำให้เราและใครอีกหลายคนรู้สึกว่า ไม่ว่าใครจะมองว่าเราเป็นยังไง การได้เป็นตัวเอง ‘มันดีนะ’ 

เหมือนที่ใครบางคนคอมเม้นต์ไว้ใต้คลิปวีดีโอในยูทูปโชว์หนึ่งที่แฮร์รี่ สไตล์สวมชุดสีชมพูสดร้องเพลงและเต้นอย่างมีความสุขว่า ‘ปล่อยให้เขาเป็นเขา แล้วเขาจะทำมันได้ดี’