ภายในงานสุดเอ็กซ์คลูซีฟซึ่งจัดขึ้นที่กลาสเฮาส์ (Glass House) ในมหานครนิวยอร์ก เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา อูโบลท์ (Hublot) และ ทาคาชิ มุราคามิ (Takashi Murakami) ได้ประกาศโปรเจกต์สร้างสรรค์ผลงานศิลปะร่วมกันเป็นครั้งที่ 4 ด้วยการเปิดตัวผลงานศิลปะดิจิทัล NFT ใหม่ 13 ชิ้น พร้อมด้วยนาฬิกาที่โดดเด่นไม่ซ้ำใคร 13 เรือน

“เมื่อมีการประกาศความร่วมมือระหว่างผมกับอูโบลท์ เราประกาศอย่างชัดเจนว่าเราจะแสดงออกทางศิลปะในรูปแบบใหม่ ๆ หลังจากที่รังสรรค์นาฬิกาทั้งหมดร่วมกัน รวมถึงผลงานศิลปะดิจิทัล ตอนนี้เรากำลังจินตนาการถึงวิธีการใหม่ ๆ ในการเข้าถึงศิลปะร่วมสมัย”  ทาคาชิ มุราคามิ กล่าว

ผลงานศิลปะ NFT ที่ไม่ซ้ำใครจำนวน 13 ชิ้นได้รับแรงบันดาลใจมาจากวิดีโอเกมและรายการทีวีของญี่ปุ่นในช่วงทศวรรษ 1970 รวมถึงนาฬิกาคลาสสิก ฟิวชัน ทาคาชิ มุราคามิ ออล แบล็ก ซึ่งเป็นความร่วมมือครั้งแรกระหว่างแบรนด์นาฬิกาสัญชาติสวิสกับทาคาชิ มุราคามิ และเปิดตัวเมื่อเดือนมกราคม 2021 โดยผลงาน NFT เหล่านี้เชื่อมโยงกับนาฬิกาคลาสสิก ฟิวชัน รุ่นลิมิเต็ดที่ออกใหม่ 13 เรือน ซึ่งเตรียมจัดแสดงที่งานแสดงนาฬิกานานาชาติ วอทช์ แอนด์ วันเดอร์ส (Watches & Wonders 2023) ที่นครเจนีวา โดยนาฬิกา 12 เรือนในจำนวนนี้จะวางจำหน่ายเฉพาะทางออนไลน์ที่เว็บไซต์ hublot.com ซึ่งผู้ที่มีสิทธิครอบครองต้องเป็นเจ้าของ NFT อย่างน้อยหนึ่งใน 324 ชิ้นที่ออกเมื่อเดือนเมษายน 2022 ภายใต้ความร่วมมือครั้งที่สามระหว่างอูโบลท์กับทาคาชิ มุราคามิ ซึ่งเดิมที NFT ทั้ง 324 ชิ้นถูกเสนอขายให้แก่เจ้าของนาฬิกาหนึ่งในสองรุ่นที่ร่วมรังสรรค์โดยอูโบลท์และทาคาชิ มุราคามิ ได้แก่ รุ่นคลาสสิก ฟิวชัน ทาคาชิ มุราคามิ ออล แบล็ก (Classic Fusion Takashi Murakami All Black) และรุ่นคลาสสิก ฟิวชัน ทาคาชิ มุราคามิ แซฟไฟร์ เรนโบว์ (Classic Fusion Takashi Murakami Sapphire Rainbow) ก่อนที่จะได้รับอนุญาตให้ซื้อขายบนแพลตฟอร์มโอเพนซี (OpenSea) ดังนั้น นักสะสมที่สนใจนาฬิการุ่นใหม่ทั้ง 12 เรือน ต้องซื้อ NFT ดังกล่าวบนแพลตฟอร์มโอเพนซีภายในระยะเวลาระหว่างการประกาศเปิดตัวโปรเจกต์นี้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2023 ที่นิวยอร์กกับการเริ่มจำหน่ายในช่วงต้นเดือนเมษายน 2023 ที่เจนีวา และผู้โชคดีที่ได้รับสิทธิ์ซื้อนาฬิการุ่นใหม่ที่ไม่ซ้ำกัน 12 เรือนจะได้รับผลงานศิลปะ NFT สุดพิเศษที่สอดคล้องกันด้วย

อูโบลท์ และ ทาคาชิ มุราคามิ ยกระดับนาฬิกาในฐานะผลงานศิลปะไปสู่ระดับใหม่ ด้วยการเชื่อมโยงศิลปะแห่งการรังสรรค์นาฬิกาชั้นเลิศเข้ากับศิลปะดิจิทัล นาฬิกาเรือนที่ 13 ของคอลเลกชันนี้ซึ่งเป็นอีกหนึ่งผลงานชิ้นเอก นั่นคือ คลาสสิก ฟิวชัน ทาคาชิ มุราคามิ แบล็ก เซรามิก เรนโบว์ (Classic Fusion Takashi Murakami Black Ceramic Rainbow) ได้เปิดตัวไปแล้วที่นิวยอร์ก นาฬิกาเรือนนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากนาฬิกาสองรุ่นที่เปิดตัวไปก่อนหน้า โดยนำสัญลักษณ์อันเป็นเอกลักษณ์ของทาคาชิ มุราคามิ อย่างดอกไม้หน้ายิ้มมาตีความใหม่อีกครั้ง กลีบดอกไม้ 12 กลีบไล่ระดับสีที่สมบูรณ์แบบทั้งสีของทับทิม ไพลิน เขี้ยวหนุมาน โกเมนสีเขียว และบุษราคัม ทั้งนี้ ด้วยระบบลูกปืนอัจฉริยะที่พัฒนาโดยวิศวกรของอูโบลท์ กลีบดอกไม้จะสร้างสีสันสะดุดตาขณะหมุนไปตามแกน การเคลื่อนไหวของกลีบดอกไม้สร้างสีสันอันน่าทึ่งตัดกับตัวเรือนเซรามิกสีดำขนาด 45 มม. ส่วนตรงกลางของดอกไม้หน้ายิ้มประทับอยู่บนกระจกแซฟไฟร์เพื่อให้มีความเป็นสามมิติ

ส่วนนาฬิกา 12 เรือนซึ่งจะเปิดขายให้แก่ผู้ครอบครอง NFT บนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซโดยเฉพาะ ก็ชวนให้นึกถึงดอกไม้หน้ายิ้มและเป็นตัวแทนกลีบหนึ่งของดอกไม้ โดยนาฬิกาทั้ง 12 เรือนสะท้อนถึงตัวเลขทั้ง 12 ชั่วโมงบนหน้าปัดนาฬิกาและผลงาน NFT 12 ชิ้น

ความร่วมมือด้านนาฬิกาครั้งที่ 4 ระหว่างอูโบลท์กับศิลปินชาวญี่ปุ่นท่านนี้ ถือเป็นการนำเสนอคอลเลกชันของสะสมที่น่าทึ่งอย่างแท้จริง

นักสะสมจะมีโอกาสซื้อขาย NFT ทั้ง 12 ชิ้นบนแพลตฟอร์มโอเพนซีเป็นระยะเวลาหนึ่งปี และในเดือนเมษายน 2024 เมื่อสิ้นสุดช่วงเวลาดังกล่าว นักสะสมที่เก็บสะสม NFT ครบทั้ง 12 ชิ้นเท่านั้นจึงจะมีสิทธิ์ซื้อนาฬิกาเรือนที่ 13 ซึ่งเป็นที่ต้องการมากที่สุด นั่นคือ คลาสสิก ฟิวชัน ทาคาชิ มุราคามิ แบล็ก เซรามิก เรนโบว์ หากไม่มีผู้ใดที่สามารถสะสม NFT ครบทั้ง 12 ชิ้น อูโบลท์จะเปิดประมูลนาฬิกาดังกล่าวเพื่อระดมทุนสำหรับการกุศล