ไม่ใช่แค่ผู้ประกอบการรุ่นใหม่เท่านั้นที่อยากลองทำธุรกิจสตาร์ทอัพดูสักตั้ง เพราะในเวลานี้ บรรดาเอเจนซี่สายโฆษณา พีอาร์ มาร์เก็ตติ้ง แบรนดิ้ง และบริษัทมีเดียชั้นนำของวงการกำลังหันมาสนใจตลาดนี้กันแบบสุดๆ แม้แต่บริษัทชั้นนำอย่าง IDEO ยังเปิดตัวโปรเจ็กต์ “Start-Up in Residence” ในรูปแบบโครงการบ่มเพาะธุรกิจแบบครบวงจร เพื่อเจาะกลุ่มสตาร์ทอัพโดยเฉพาะ
สิ่งที่เราสงสัยและสนใจก็คือ ทำไมเหล่าเอเจนซี่ชั้นนำซึ่งมีประสบการณ์การทำงานร่วมกับแบรนด์ระดับ ‘บิ๊กเนม’ มามากมายนับไม่ถ้วน เช่น Apple, Samsung, Ford, Toyota, Kraft, Pepsi, GE, Jockey, Pfizer ฯลฯ ตลอดจนอยู่เบื้องหลังการคิดค้นสร้างนวัตกรรมสุดล้ำ ถึงกล้าเดิมพันกับธุรกิจเล็กๆ ได้
เมื่อเราลองศึกษาโปรเจ็กต์ดังกล่าว จึงพบว่าเอเจนซี่เหล่านี้น่าจะมองเห็น’ศักยภาพ’ หรือ ‘จุดเด่น’ บางอย่างของธุรกิจสตาร์ทอัพที่ ‘แบรนด์ใหญ่’ ยังไม่มี และผลตอบแทนในระยะยาวนั้นก็คุ้มค่า น่าลงทุนไม่แพ้การทำงานกับแบรนด์ใหญ่เช่นกัน
“อันที่จริง เราไม่ได้ตั้งใจจะเปิดศูนย์บ่มเพาะผู้ประกอบการเสียทีเดียว แต่เราเชื่อว่าการนำดีไซน์เข้ามาสร้างรากฐานขององค์กร จะเป็นคีย์สำคัญในการสร้างบริษัทที่สามารถช่วยเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ได้มากกว่า” Iain Roberts พาร์ทเนอร์คนสำคัญ หนึ่งในผู้ขับเคลื่อนความสำเร็จของ IDEO สาขาลอนดอนกล่าว “ประสบการณ์การทำงานในวงการนี้ ทำให้ผมพบว่าคนส่วนใหญ่สนใจตัวเลขในตลาดหุ้นมากกว่าการสร้างสรรค์สิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สามารถสร้างกลุ่มลูกค้าได้อย่างมหาศาล”
Justin Massa ซีอีโอของบริษัท Food Genius
Justin Massa ซีอีโอของบริษัท Food Genius ซึ่งจัดการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลด้านอาหาร (Smart Data & Analytics) รวมทั้งอัพเดตเทรนด์ล่าสุดให้กับวงการอุตสาหกรรมอาหารโลก ได้เล่าถึงประสบการณ์ที่ได้จากการเข้าร่วมโครงการ Start-Up in Residence จนกลายเป็นสตาร์ทอัพรายแรกที่ชนะการประกวดแข่งขันนี้ไว้ว่า “ในตอนแรก เราคาดว่า IDEO จะเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาของเรา แต่สิ่งที่เราได้เรียนรู้จากพวกเขากลับเป็น วิธีการคิดและมองปัญหาผ่านการคิดเชิงออกแบบที่มีผู้ใช้เป็นศูนย์กลาง (human-centered design thinking) ทำให้คนในทีมเข้าใจว่าจะต้องทำงานยังไง ตั้งแต่การรีเสริ์ชข้อมูล การออกแบบ การทดลองทำ Prototype และวางแผนการตลาด รวมไปถึงการพัฒนาโปรดักต์ขั้นพื้นฐาน ทำให้เราสามารถสร้างบริษัทที่ยึดความต้องการลูกค้าเป็นหลักและแก้ปัญหาธุรกิจอย่างยั่งยืน พูดอีกอย่างก็คือ พวกเขาสอนให้เรารู้จักตกปลา แทนที่จะรอให้ใครสักคนมาป้อนอาหาร”
เป็นไปได้ว่าเอเจนซี่เหล่านี้อ่านเกมขาดว่าธุรกิจสตาร์ทอัพนั้นมีสมาชิกทีมที่มีทักษะความสามารถยอดเยี่ยมอยู่แล้ว แต่ยังมีประสบการณ์น้อย (meaning milestones) และขาดเครื่องมือ (tools) ในการเปลี่ยนคอนเซ็ปท์/ไอเดียให้กลายเป็นแนวทางธุรกิจที่นอกจากจะมีศักยภาพแล้ว ยังสร้างอิมแพคให้กับโลกใบนี้ได้ และในขณะเดียวกันก็ต้อง fit-in กับตลาดด้วย
การที่บริษัทสายโฆษณาและแบรนด์ดิ้งยื่นมือเข้ามาช่วยผลักดันเหล่าธุรกิจสตาร์ทอัพอีกแรง ก็น่าจะยิ่งเพิ่มดีกรีความท้าทายให้กับสมรภูมิการแข่งขันทางธุรกิจไม่น้อย รวมทั้งลบคำครหาที่ว่าธุรกิจขนาดเล็กมักโตเร็ว ล้มเร็ว ที่สำคัญ เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่าผลิตภัณฑ์ที่ธุรกิจสตาร์ทอัพส่งเข้าตลาดนั้นแสนจะสดใหม่และน่าสนใจกว่าเป็นไหนๆ
Writer: Piyaporn Aroonkriengkrai
Credit:แปลและเรียบเรียงใหม่จากบทความ IDEO Launches A Start-Up Incubator (But Don’t Call It An Incubator) จาก fastcodesign.com และข้อมูลบางส่วนเว็บไซต์ ideo.london/startup
RECOMMENDED CONTENT
เรื่องราวของ Christopher Robin พาเรามาถึงช่วงเวลาที่คริสโตเฟอร์ โรบิ้น โตขึ้นและต้องเข้ามาทำงานในกรุงลอนดอน พร้อมภรรยาและลูกสาว เขาตรากตรำทำงานอย่างหนักจนแทบไม่มีเวลาให้ครอบครัว แม้แต่วันที่เขาตั้งใจจะไปเที่ยวกับครอบครัวนอกเมือง แต่งานด่วนก็ดันเข้ามาทำให้เขาคิดหนักว่าจะเลือกงานหรือครอบครัวดี