ถ้าต้องให้นึกถึงแบรนด์กระเป๋าที่ได้รับความนิยมสูงสุดเป็นอันดับต้นๆของคนหนุ่มสาวทั่วโลกยุคนี้รวมถึงบ้านเราเอง ชื่อที่ผุดขึ้นมาในใจคงจะหนีไม่พ้น “Herschel Supply Co.” แบรนด์กระเป๋าสตรีทสุดฮิป ที่โดดเด่นในเรื่องของดีไซน์ที่เรียบง่าย แต่ครบเครื่องเรื่อง function การใช้งานที่เป็นประโยชน์ เรียกได้ว่าต่อให้คุณเป็นนักเดินทาง หรือคนทำงานไฟแรง ต่างก็ต้องรู้สึกถูกใจในกระเป๋าของแบรนด์นี้ได้ไม่ยาก สำหรับแฟนๆ Herschel ชาวไทยที่คอยติดตามความเคลื่อนไหวของแบรนด์นี้อย่างใกล้ชิด ก็คงจะทราบกันดีว่าเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2015 ที่ผ่านมา “Lyndon Cormack” หนึ่งในเจ้าของแบรนด์ Herschel ได้เดินทางมายังประเทศไทยสำหรับงานเปิดตัว Herschel Suppy Fall 2015 Collection อย่างเป็นทางการ ซึ่งนอกจากดู๊ดดอทจะได้รับเชิญให้เข้าร่วมงานแล้ว ทางเรายังได้มีโอกาสนั่งพูดคุยกับผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์ที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดแบรนด์หนึ่งในวงการสตรีทแวร์คนนี้อีกด้วย ว่าแล้วพวกเราลงไปอ่านบทสัมภาษณ์ของเขาพร้อมๆกันเลย
Herschel ในความหมายของคุณคืออะไร ?
ความตั้งใจของเราสำหรับ Herschel ก็คือการนำเสนอโปรดักส์ที่มีคุณภาพ ที่สามารถนำมาใช้เป็นประโยชน์ได้จริงออกสู่ตลาด ส่วนถ้าพูดถึงภาพโดยรวมของแบรนด์ พวกเราจะค่อนข้างเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องของไอเท็มที่มีกลิ่นอายความเป็น nostalgia เห็นแล้วทำให้เราคิดถึงเรื่องราวในอดีต แต่ในขณะเดียวกันก็ยังมีความร่วมสมัยสำหรับยุคปัจจุบันอยู่มาก สรุปแล้วก็คือแบรนด์ที่มีทั้งความใหม่ และความเก่า เรียบง่าย แต่ใช้งานได้จริง
นั่นคือปรัชญาของแบรนด์ ?
แน่นอนครับ พวกเราถือทัศนคติที่ว่า ‘น้อยแต่มาก’ เป็นหลัก ถึงแม้ว่าเราต้องการที่จะนำเสนอไอเท็มที่มีความเป็นแฟชั่น และมีความเป็นเทรนด์ออกสู่ตลาด แต่หลักๆแล้วพวกเราก็ยังต้องการที่จะสร้างโปรดักส์ที่มีดีไซน์คลีนๆ ดูสะอาด และมีความที่เรียบง่าย
ไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ Herschel ได้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วมาก คุณมีวิธีทำให้ Herschel แตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ อย่างไร ?
ผมคิดว่าเราเป็นแบรนด์ที่ global มากที่สุดจากทุกๆแบรนด์ ถึงแม้ว่าพวกเราจะมีอายุน้อยที่สุด แต่พวกเรากลับเห็นว่านั่นเป็นประโยชน์มากกว่าจะเป็นสิ่งที่มาฉุดรั้งเรา ตอนที่พวกเราเริ่มก่อตั้งแบรนด์ใหม่ๆ พวกเราก็ตั้งใจตั้งแต่แรกที่จะทำให้แบรนด์นี้เป็นแบรนด์สำหรับคนทั่วโลก ทุกประเทศ ไม่ใช่เฉพาะแต่ในแคนาดา หรืออเมริกาอย่างเดียว เราตั้งใจที่จะให้แบรนด์นี้สามารถขยายขอบเขต และขายได้ทุกที่ ซึ่งยังไงนั่นก็ต้องส่งผลดีต่อแบรนด์อยู่แล้ว ผมเลยคิดว่านี่อาจจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำไมเราสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ เพราะเราศึกษา และเดินทางไปยังสถานที่ที่เราจัดจำหน่าย เราไม่ได้เพียงแต่ใช้แรงบันดาลใจที่เราได้จากประเทศของเราอย่างเดียว แต่เราใช้จากทุกๆที่ที่เราไป โดยนำไอเดียเหล่านั้นมาปรับใช้ ใส่ลงไปในโปรดักส์ของเรา
ตอนที่คุณเริ่มก่อตั้ง Herschel คุณรู้ไหมว่ามันจะกลายเป็นแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จขนาดนี้ ?
พวกเราไม่มีวันรู้หรอกครับ (หัวเราะ) ตอนนั้นเราไม่รู้ว่าผลที่ออกมาจะใช่อย่างที่คิดหรือเปล่า แต่พวกเราก็ทำงานอย่างทุ่มเทในการสร้างแบรนด์นี้ขึ้นมา ในประเทศไทย หรือในเอเชีย ก็มีแบรนด์กระเป๋าเป็นของตัวเองอยู่เหมือนกัน แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าถ้าใครสักคนลุกขึ้นมาผลิตรองเท้าขาย แล้วมันจะกลายเป็นแบรนด์สนีกเกอร์สุดเท่ หรือถ้าใครลุกขึ้นมาผลิตกระเป๋า มันอาจจะไม่ได้หมายความว่าเขาจะประสบความสำเร็จเหมือน Herschel ก็ได้ ในตลาดทุกวันนี้มีแบรนด์กระเป๋าอยู่เยอะแยะมากมายก็จริง แต่ผมกลับไม่รู้สึกว่าจะมีใครที่คอยเสริมสร้างโปรดักส์ที่มีความเป็นไลฟ์สไตล์แฟชั่น ที่มีความเป็นเทรนด์ หรือแม้กระทั่งการ collaborate เจ๋งๆที่อยู่ในราคาที่คนทั่วไปสามารถเอื้อมถึงได้ แน่นอนว่ายังมีผู้ผลิตระดับ high-end จำนวนมาก ที่คอยผลิตกระเป๋าคุณภาพดีๆ แต่ก็ยังถือว่ามีคนจำนวนน้อยที่กำลังทำในสิ่งแบบเดียวกับเรา มีแบรนด์จำนวนมากที่ผลิตกระเป๋าออกมา แต่พวกเราไม่ได้ทำแต่กระเป๋าเพียงอย่างเดียวเท่านั้น เราสร้างทั้งโปรดักส์ สร้างทั้งแบรนด์ ซึ่งนี่แหละ คือสิ่งที่ผมคิดว่าทำให้ Herschel แตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ
ปัจจุบัน Herschel ได้รับความนิยมอย่างมากในเอเชีย คุณมองเห็นอะไรในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรุงเทพ ?
ผมเห็นคนรุ่นใหม่ที่มี passion และความคิดสร้างสรรค์ ที่เห็นคุณค่าในเรื่องของการดีไซน์ ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบตกแต่งภายใน หรือการออกแบบแฟชั่นก็ตาม ผมได้มีเวลาไปเดินดูพวกร้านค้ารีเทล ห้างสรรพสินค้าใหม่ๆ ร้านค้าเล็กๆ รวมไปถึงพวกตรอกซอกซอยอยู่บ้าง และผมก็คิดว่าที่นี่มีระดับของการออกแบบที่ทำได้ดีมากๆเลย อีกอย่างที่ผมรู้สึกก็คือ คนไทยมองเห็นถึงคุณค่าของการออกแบบที่ดี รวมถึง story หรือเรื่องราวเบื้องหลังการออกแบบต่างๆ พวกเขามีความเคารพต่อขนบธรรมเนียมประเพณีอยู่เสมอ แต่ในขณะเดียวกันก็ยังมีหัวที่ทันสมัย และยังคงต้องการปรับเปลี่ยน ดัดแปลงสิ่งเก่าๆให้มีความร่วมสมัยอยู่ตลอด ผมคิดว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่เยี่ยมมากๆ จึงรู้สึกโชคดีที่ได้มีโอกาสมาที่นี่
บทบาทของคุณในบริษัทมีอะไรบ้าง ?
ผมเป็นเจ้าของแบรนด์นี้ร่วมกับพี่ชายของผม Jamie โดยพี่ผมจะดูแลในส่วนของดีไซน์และโปรดักชั่น ในขณะที่ผมจะควบคุมในส่วนของการตลาด การขาย และการจัดการอื่นๆ จริงๆแล้วบริษัทเราเป็นทีมที่ค่อนข้างใหญ่ แต่ยังไงซะ ผมกับพี่ชายก็ยังคงมีส่วนร่วมในบทบาทของกันและกัน เพราะพวกเราทุ่มเทให้กับการสร้างแบรนด์ และกับทุกๆโปรดักส์ที่จะนำออกสู่ตลาด ออฟฟิศใหญ่ของเราอยู่ที่แวนคูเวอร์ แคนาดา นอกจากนี้ก็ยังมีที่ฮ่องกง รวมถึงดีไซน์ออฟฟิศ และสตูดิโอที่ลอสแองเจลิส
แบ็คกราวน์ของคุณ ก่อนที่จะมาทำ Herschel ?
ผมเคยดูแลในส่วนของการขาย และการตลาดของ Vans ที่แคนาดา มาเป็นเวลา 10 ปี ครับ
ช่วยเล่าถึงแรงบันดาลใจสำหรับคอลเล็คชั่น Fall/Winter 2015 ของ Herschel ?
สำหรับผม ฤดูใบไม้ร่วงถือเป็นช่วงเวลาที่สนุกมากๆของปี เพราะเราสามารถที่จะหยิบอะไรมาเล่นได้เยอะในเรื่องของแฟชั่น อย่างเช่นการแต่งตัวแบบเลเยอริ่ง (layering) ที่ต่อให้เหมาะหรือไม่เหมาะกับสภาพอากาศ ก็ยังคงเป็นสไตล์การแต่งตัวที่คนนิยมแต่งกันอยู่เสมอ นอกจากนี้ เรามักพบวัสดุใหม่ๆที่มาพร้อมกับฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งบ่อยครั้งจะไม่ค่อยมีให้เห็นในช่วงฤดูใบไม้ผลิ และฤดูร้อน ซึ่งสองฤดูนั้นจะมีความเรียบง่ายกว่าหน่อย สำหรับคอลเล็คชั่นนี้ เราจึงใช้วัสดุที่สามารถหาได้จากช่วงฤดูใบไม้ร่วงมาทำโปรดักส์ต่างๆของเรา ในส่วนของ lookbook เราได้ไปถ่ายภาพตรงจุดที่ไกลที่สุดในฝั่งตะวันออกของทวีปอเมริกา ที่ที่พวกเราสามารถมองเห็นวิวอันสวยงามของมหาสมุทรแอตแลนติก setting โดยรอบเป็นแนวชายฝั่งที่ขรุขระ เต็มไปด้วยคลื่นขนาดใหญ่ และสภาพอากาศที่หนาวเย็น ซึ่งถือเป็นฉากหลังที่ดีมากๆในการชูความเรียบง่ายของโปรดักส์เราให้โดดเด่นยิ่งขึ้น
ทราบมาว่าคุณได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ทัวร์รอบๆกรุงเทพเพื่อถ่ายภาพ ที่จะจัดแสดงในงาน Herschel Supply Fall 2015 Collection Showcase ด้วย ?
ใช่ครับ ผมได้ขึ้นไปถ่ายภาพบนเฮลิคอปเตอร์ โดยที่เปิดประตูตลอดการบิน และมีเข็มขัดรัดตัวเอาไว้ ผมอยู่บนนั้นสักประมาณชั่วโมงนึงได้ ส่วนเฮลิคอปเตอร์ก็พาผมทัวร์ในหลายๆพื้นที่ทั่วกรุงเทพ เป็นอะไรที่สนุกมาก
คุณนั่งเฮลิคอปเตอร์ในเมืองต่างๆเป็นงานอดิเรก ?
ไม่เชิงเป็นการนั่งเฮลิคอปเตอร์ครับ แต่ส่วนตัวแล้วเวลาผมเดินทาง ผมจะชอบเก็บบันทึกเรื่องราวการเดินทางของผมมากกว่า อย่างภาพถ่ายของผมที่จะจัดแสดงในงาน ก็เหมือนเป็นการแสดงว่าการเดินทางนั้นมีความหมายสำหรับผมอย่างไร ผมอาจจะไม่ได้เป็นช่างภาพมืออาชีพ แต่ผมก็รู้สึกสนุกมากๆเวลาได้เก็บภาพมุมสวยๆของกรุงเทพบนเฮลิคอปเตอร์
นี่เป็นครั้งแรกที่คุณมากรุงเทพ ?
ครั้งแรกในกรุงเทพ แต่ครั้งที่สองในไทยครับ ผมเคยไปเที่ยวที่ภูเก็ตมาก่อน
ช่วยเล่าถึงผลงาน collaboration ที่คุณชอบมากที่สุดของ Herschel ?
ผมโตมาเป็นแฟนพันธุ์แท้ของแบรนด์ Stussy ซึ่งคนที่ Stussy ก็ถือเป็นเพื่อนที่ดีมากๆของพวกเรา ปัจจุบัน เราได้จับมือร่วมกับแบรนด์นี้ออกคอลเล็คชั่นมาประมาณ 14 คอลเล็คชั่นได้ ซึ่งผมว่ามันเป็นอะไรที่เจ๋งมากๆที่ได้มีโอกาสทำงานร่วมกับแบรนด์ที่คุณหลงรักมาตั้งแต่เด็กๆ จริงๆแล้วผมจะรู้สึกผิดนิดๆทุกครั้งเวลาบอกว่าผมชื่นชอบการ collaborate กับ Stussy มากที่สุด แต่ก็ช่วยไม่ได้จริงๆ เพราะผมคลั่งไคล้แบรนด์นี้ตั้งแต่เด็ก! (หัวเราะ) ส่วนตอนนี้เราก็กำลังทำคอลเล็คชั่นใหม่ร่วมกับ Coca-Cola และ Disney ซึ่งทุกคนจะได้เห็นกันเร็วๆนี้แน่นอน
มีใคร หรือแบรนด์ไหน ที่คุณอยากร่วมงานด้วย แต่ยังไม่มีโอกาส ?
โอ้ มีเยอะมากเลยครับ แต่ผมคิดว่าหลักๆแล้วก็คือคนที่มี passion และเซ้นส์ในเรื่องของดีไซน์ รวมถึงคนที่ต้องการสร้างอะไรที่แตกต่าง ผมคิดว่าการสร้างสิ่ง ‘ใหม่’ จากการทำงานร่วมกัน เป็นสิ่งที่ผมสนใจและให้ความสำคัญเสมอ ไม่ว่าจะจากการใช้วัสดุใหม่ เทคโนโลยีใหม่ ทำบางสิ่งบางอย่างที่แตกต่างออกไป ไปจนถึงหาคนที่สามารถนำพาแบรนด์ของเราขึ้นไปอยู่อีกระดับหนึ่ง
บทต่อไปของ Herschel?
ผมคิดว่าเราได้เรียนรู้อะไรเยอะมากในช่วงห้าปีครึ่งที่ผ่านมา และส่วนหนึ่งที่พวกเราประสบความสำเร็จในสิ่งที่เราทำ ผมเชื่อว่าหลักๆแล้วมาจากที่พวกเราทุกคนมีใจรัก และมีความทุ่มเทในการนำเสนอสิ่งใหม่ๆออกสู่ตลาด เพราะฉะนั้นสิ่งที่ผมวาดภาพเอาไว้สำหรับสักห้าถึงหกปีข้างหน้าก็คือ พวกเราจะยังคงสนุกกับสิ่งที่ทำ และมีสิ่งใหม่ๆเข้ามาให้พวกเราได้ทำอยู่เสมอ พวกเราจะยังคงทดลองทำสิ่งใหม่ๆเพื่อรักษา passion และแรงผลักดันในการทำงาน ผมว่ามันสำคัญมากๆในการยอมเปิดรับความเปลี่ยนแปลง แทนที่จะรู้สึกสบายหรือเคยชินกับสิ่งที่กำลังเป็นอยู่
________________________________________
For our latest Dooddot interview session, we had the great opportunity to speak with Lyndon Cormack, one of the co-founders of Herschel Supply Co., who has flown all the way here to Bangkok, Thailand for the launch of Herschel Supply Fall 2015 Collection Showcase. From its humble beginnings in 2009, the company has grown tremendously from Vancouver, Canada and now has become a global brand with products selling in cities all over the world. It is with our great pleasure to do an interview with Lyndon, a key influencer in the streetwear industry, who has changed the way we view backpacks as more than just a utilitarian product, but also as a fashion accessory. Take a look below for the full interview.
We all know that Herschel is a brand that specializes in bags and accessories. But how would you define this brand exactly ?
Our mission is to bring utilitarian products with a high level of detail to the market. As a brand, we’re most known for good, nostalgic items that remind us of the past, but also are very modernized for the world today; new yet old, simplistic yet functional.
Is that the philosophy of the brand ?
Yeah, for sure. We subscribe to the ‘less is more’ attitude. Although we want to bring out fashion and trend pieces, but our main focus is to create products with clean design and simplicity.
You’ve grown real fast these past few years. How do you differentiate Herschel from others ?
I think we’re the most global of all the brands. Even though we’re younger in age, we see that as a benefit to us, rather than a hinderance for us. As we set up the brand, we looked to become a global brand, rather than just staying in Canada or the United States. We looked to be able to expand the borders and being able to sell everywhere. I think by doing that it helps translate to what the brand is. It has become very global, and it’s meant for many regions. I think this is one of the reasons why we do resonate well, because we travel to the destinations where we sell. We take inspirations from not only our backyard, but everywhere abroad, and we bring all those ideas home and put them into our products.
When you first started Herschel, did you know that it would become this successful ?
We never know (laughs). We didn’t know if it’s going to be right, but we worked a lot with momentum to build the brand. In Thailand, or in Asia, there are quite a few bag brands, but just because someone makes shoes doesn’t mean they’re a cool sneaker brand, or just because people make bags doesn’t mean they’re doing exactly what we’re doing. There are a lot of bag companies, but I don’t feel like anybody was honing in on lifestyle fashion, honing in on trend, or honing on great collaborations in a price where people can actually afford. Of course there are a lot of high-end manufactures that do great job with bags, but there’s not a lot of people that were doing things like us. There’s a lot of people making bags, but we don’t simply just make bags. We make a product and a brand, and this, I think is the difference between us and a lot of people out there.
Herschel is now very big in Asia. What do you see in the South East Asia market, especially in Bangkok, Thailand ?
I see passionate, creative individuals who celebrate design, whether it be interior design, or fashion design. I’ve spent a bit of time going to retail stores, new malls, little shops, little corners, and I think the level of design here is executed really well. So I think Thai people appreciate good design when they see it, as well as appreciating a good story. I think they also respect the old, but also are very modern and want to change and reinterpret the traditions. It’s a great country and we’re lucky to be here.
We’ve learned that you’re still very active in the company, although the brand has expanded and is now very successful. Can you tell us a bit about your role in the business ?
The brand is own by my brother Jamie and I. Jamie controls the design and production, while I handle the marketing, sales and some operations. Overall we have quite a big team, but I would say I’m as much involved in the design, as Jamie is in marketing, because we’re very passionate about building our brand and the products that we’re bringing out. Our biggest office is in Vancouver, Canada, but we also have an office in Hong Kong, and a design office and studio in Los Angeles. So basically this is how the business is set up right now.
What was your background before you started Herschel ?
Before I started Herschel, for 10 years, I was actually involved in sales and marketing, and took care of the business in Canada for Vans footwear.
Can you tell us a little bit more about this Fall/Winter 2015 collection for Herschel ?
Fall is a really fun time of the year, because we get to be playful with seasons in fashion. We get to see layering, whether you need it in this climate or not, it’s still something people are passionate about. Also, new materials has come in fall where often times they don’t come in spring and summer, where it’s a bit more simplistic. So during this time, we get to take a stance on apparel trends, apparel materials, and being able to take those materials and translate them into our products. We shot the lookbook on the most further eastern point in North America that overlooks the Atlantic Ocean. It’s a very rugged coastline, with big waves, and cold weather, which is a really nice backdrop to highlight our simplistic product.
I heard that you had a couple helicopter rides around Bangkok to shoot photographs as well. How was the experience for you ?
Yeah, I had a ride yesterday, and it was great. I get to leave the door open to shoot some photos. I was up there for about an hour, and we toured over a number of areas in Bangkok. It was a lot of fun.
Is helicopter ride a hobby of yours ?
Not necessarily helicopter rides, but I think when we go traveling, we like to document our journeys. Like later today I’m doing an event showcasing some photos I took here in Bangkok, showing the idea of what travel means to us. Although I’m not a professional photographer, but it’s fun to just get up there and shoot some photos.
Is this your first time in Bangkok ?
This is my first time in Bangkok, but second time in Thailand. I’ve been to Phuket before.
Can you share with us some of the best collaboration projects of Herschel that you really like ?
I grew up as a huge fan of the brand Stussy, and the people at Stussy are good friends of ours. We’ve done about 14 collaborations with Stussy so far, so I always find it pretty cool to work with the brand you grew up loving. I’m usually pretty guilty in saying working with Stussy has been my all time favorite, but I’ve always wanted all their stuff as a kid growing up (laughs). Right now we’re doing a new collection with Coca-Cola, which is pretty interesting, and we’re also doing a new collection with Disney. So there’s a couple of new collections coming out very soon.
There must be many people you haven’t had the chance to work with. Can you tell us who you’d like to work with ?
Oh, there are so many people. But I think mainly just people who are passionate about design, about making something different, people who have a really strong sense of design ethos. I think creating something ‘new’ from a collaboration is something I’m really interested in. Using new materials, new technology, doing something different, and finding someone who can take it to another level.
What is the next chapter for Herschel ?
I think we’ve learned a lot over the past five and a half years, and we’ve become quite successful in what we do, mainly because we’re always passionate about bringing something new to the market. So what I envision for the next five to six years is for us to have a lot of fun and a lot of newness. We’re going to try a lot of new things in order to keep passionate, and motivated. I think it’s important to always be willing to change, instead of being too comfortable in what you already have.
หากต้องการรู้จักแบรนด์ Herschel Supply มากขึ้นสามารถติดตามได้จาก
https://www.facebook.com/HerschelSupplyThailand
https://www.facebook.com/BratpackThailand
Interviewer: Norrarit Homrunsarid
Writer: Thip S. Selley
Translator: Thip S. Selley
Photographer: Kongkarn Sujirasinghakul
RECOMMENDED CONTENT
“Smile” ซิงเกิ้ลล่าสุดจากวงดนตรีวงดนตรีที่ดีที่สุดของสห […]