ในที่สุด iPhone ตัวใหม่ก็เปิดตัวสู่สายตาสาธารณชนอย่างเป็นทางการแล้ว ในชื่อ iPhone 6s และ iPhone 6s Plus ที่มีดีไซน์ใกล้เคียงกับ iPhone 6 และ iPhone 6 Plus เมื่อปีก่อน แต่มีความหนาเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เพราะต้องการเสริมความแข็งแกร่งให้กับบอดี้ จะได้ไม่หักไม่งอง่ายเหมือนรุ่นที่แล้ว และสำหรับคนที่กำลังจะโยนโทรศัพท์เครื่องเก่าทิ้งเพื่อเปิดทางให้ iPhone 6s ลองมาดู 10 เหตุผลเพื่อประกอบการตัดสินใจว่าควรจะซื้อ iPhone รุ่นใหม่นี้ดีหรือไม่
1. Cpu A9 ชิปเซ็ตล่าสุดที่ประมวลผลได้เร็วขึ้นถึง 70% และรันกราฟฟิคได้เร็วกว่าเก่าถึง 90% พร้อมมอบประสบการณ์การใช้งานและเล่นเกมให้ไวขึ้นอย่างที่สุด
2. iPhone 6s และ 6s Plus รันด้วยระบบปฏิบัติการ iOS 9 ตัวใหม่ ที่มีอัพเดทลูกเล่นต่างๆมากมายรวมถึงแก้บัคข้อผิดพลาดในรุ่นก่อนๆให้น้อย อนึ่ง ใครที่ใช้เครื่องรุ่นเก่าก็สามารถโหลด iOS 9 ไปใช้ได้พร้อมกันวันที่ 16 กันยายนนี้
3. Force Touch ใน Apple Watch ได้ถูกดัดแปลงมาเป็นฟีเจอร์ใหม่ใน iPhone ชื่อว่า 3D Plus อันเป็นต้นกำเนิดของลูกเล่น Peek และ Pop ในสมาร์ทโฟนทั้ง 2 รุ่นนี้
– Peek คือเราสามารถดูคอนเท้นท์พรีวิวได้โดยไม่ต้องเปิดขึ้นมา แค่เตะเบาๆ ก็สามารถดูตัวอย่างบางส่วนได้เลย
– Pop คือ เวลาเราต้องการอ่านคอนเท้นท์นั้นๆ แค่เพิ่มแรงกดให้มากขึ้น เราก็จะสามารถอ่านได้ทั้งหมด
*ยกตัวอย่างเช่น อีเมล์เข้ามา เราก็สามารถแตะเบาๆ(Peek) เพื่ออ่านข้อมูลบางส่วน และหากสนใจต้องการอ่านทั้งหมดก็เพิ่มน้ำหนักในการทัช มันก็จะ Pop ข้อความทั้งหมดขึ้นมา และในอนาคตลูกเล่นนี้จะถูกนำไปใช้กับแอพต่างๆในแอพสโตร์อีกด้วย
4. Touch ID รุ่นใหม่สามารถทำงานได้เร็วกว่าเดิมสองเท่า แสกนลายนิ้วมือได้เร็วกว่าเดิม ไม่ต้องหงุดหงิดเวลารอปลดล็อคอีกต่อไป
5. กล้องหลัง 12 ล้านพิกเซล เพิ่มขึ้นจาก iPhone 6 ที่ 8 ล้านพิกเซล มีขนาดเซนเซอร์ใหญ่ขึ้น 50 % f/2.2 ช่วยให้ถ่ายในที่แสงน้อยได้ดีขึ้น ด้วยสเปคที่อัพเกรดขึ้นมานี้ iPhone 6s และ iPhone 6s Plus จึงกลายเป็น iPhone ที่ถ่ายภาพได้ดีที่สุดตั้งแต่เคยมีมา
6. กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล มีลูกเล่น Retina Flash ฟีเจอร์ที่จะกะพริบหน้จอเป็นแฟลชเสมือนเวลาถ่ายด้วยกล้องหน้า ทำให้สามารถเซลฟี่ได้ดีขึ้นในที่แสงน้อย แม้จะไม่ได้สว่างมากเหมือนแฟลชแท้ๆ แต่ก็ช่วยให้ได้ภาพที่สว่างสดใสมากขึ้น
7. ถ่ายวีดีโอ 4k (30 fps) ได้ ตอบโจทย์คนที่มีจอ 4K แล้วเอาจอมาใช้ดูวีดีโอที่ถ่ายมา คราวนี้จะไม่มีรอบแตกให้ระคายตาเป็น 4K เนียนๆ เก็บทุกความประทัยใจให้คมชัดตลอดไป
8. ตัวเครื่องไม่งอง่ายเหมือนก่อนด้วยอะลูมิเนียมเกรด 7000 (7000 Series Aluminum) งานนี้แอปเปิ้ลถึงกับยอมเพิ่มความหนาของตัวเครื่องขึ้นเพื่อมอบความทนทานของตัวเครื่องให้กับผู้ใช้ แต่ไม่ได้หนามากจนน่าเกลียดแต่อย่างใด มันหนาขึ้นเล็กน้อยไม่ถึงมิลลิเมตรด้วยซ้ำ
9. เพิ่มสีใหม่ทองกุหลาบ(Rose Gold) ที่น่าจะถูกใจสาวๆทั่วโลก ทำให้ตอนนี้ iPhone 6s และ iPhone 6s Plus มีทั้งหมด 4 สีคือ Space Grey, Silver, Gold และ Rose Gold
10. มีทั้งหมด 3 รุ่น แบ่งตามความจุได้แก่ 16, 64 และ128 GB วันวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศ Tier 1 คือ 12 กันยายนนี้ ส่วนไทยเราคงต้องรอลุ้นอีกทีว่าจะวางจำหน่ายเมื่อไหร่ ซึ่งก็ไม่น่าเกินปลายปีนี้
สำหรับราคาอย่างไม่เป็นทางการของเครื่องเปล่า ตามที่คาดกันไว้คือ!
iPhone 6S
• iPhone 6S 16 GB ราคาประมาณ 24,xxx บาท ($649)
• iPhone 6S 64 GB ราคาประมาณ 28,xxx บาท ($749)
• iPhone 6S 128 GB ราคาประมาณ 32,xxx บาท ($849)
iPhone 6S Plus
• iPhone 6S Plus 16 GB ราคาประมาณ 28,xxx บาท ($749)
• iPhone 6S Plus 64 GB ราคาประมาณ 32,xxxx บาท ($849)
• iPhone 6S Plus 128 GB ราคาประมาณ 36,xxx บาท ($749)
Writer: Shiraz
Images By : Hypebeast, Highsnobiety
RECOMMENDED CONTENT
เพลงนี้เล่าถึงแรงเสียดทานในชีวิตที่ทุกคนไม่ว่าจะเป็นใคร ไม่ว่าจะยุคสมัยไหน ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ใดบนโลกก็ล้วนแล้วแต่ต้องพบเจอแรงเสียดทานนี้ ที่เกิดขึ้นจากการกดทับโดยบริบททางสังคม วัฒนธรรม รวมถึงการใช้ชีวิตประจำวันในแบบต่าง ๆ ที่คนคนหนึ่งต้องเจอ เพราะถึงแม้จะนับ 1 ถึง 100 เพื่อที่จะทำให้ตัวเองสงบใจ แต่สุดท้ายวันหนึ่งสิ่งนี้มันก็อาจจะเกินกว่าที่จะทนไหว และปลดปล่อยความรู้สึกที่ถูกเก็บไว้ออกมาก็เป็นได้