fbpx

CONTACT US

DOODDOT VIDEOS

14 กลเม็ดการต่ออายุแบต iPhone ที่เจ้าของเครื่องทุกคนบนโลกนี้ควรอ่าน!
date : 13.มีนาคม.2015 tag :

ปัญหาโลกแตกของคนใช้สมาร์ทโฟนคือ แบตเตอรี่ ไม่เถียงล่ะว่าฟังก์ชั่นการใช้งานที่มากล้น สามารถออนไลน์อินเตอร์เน็ต แชทกับเพื่อนผ่านแอพ เล่นเกมมันส์ๆฆ่าเวลา โทรเข้าออก จะต้องแลกมากับการกินแบตมากโข ทำเอาซะบางทีแอบคิดถึงมือถือสมัยเรียนขึ้นมาทันทีเลย ชาร์ตทีใช้ได้ไปสองสามวัน เอาล่ะ วันนี้เรามีกลเม็ดการยืดอายุแบตให้กับ iPhone ของทุกคนกัน ถ้าพร้อมแล้วเตรียมหยิบไอโฟนมาไว้ในมือ ไปข้อ 1 เลยดีกว่า

null

1. ควบคุมความสว่างด้วยตัวคุณเอง

แหม ข้อแรกนี้มันโคตรเบสิคอยู่แล้ว ใครที่สู้นบกับแบตหมดเป็นประจำคงรู้จักสูตรนี้กันดี จากที่ปกติ iPhone จะถูกตั้งค่าให้มีการ Auto-Brightness ไว้อยู่แล้ว เครื่องจะทำการปรับค่าแสงสว่างให้เราอัตโนมัติตามสภาพแสงที่เราเล่นอยู่ แต่มันจะกินแบตประมาณหนึ่ง ทางออกคือเราเอาค่านี้ออก แล้วก็เลื่อนความมืดสว่างด้วยตัวเองดีกว่า วิธีการล่ะทำยังไง?  เข้า Settings, > Wallpapers & Brightness เคลียร์ให้รู้เรื่องไปเลย

null

2. อย่า “ปิด” แอพทั้งหมด

เรื่องนี้เป็นความเชื่อกันมานานแล้วว่า ไอ้ระบบเปิดแอพสำรองค้างไว้ในเครื่องโดยไม่ปิด จะเป็นตัวการในการกินแบต แต่จริงๆแล้วไม่เลย เพราะโดยพื้นฐาน iPhone หรือสมาร์ทโฟนทุกๆเครื่องนั่นล่ะ จะใช้ RAM ไปกับการเปิดและปิดแอพมากกว่าตอนเปิดค้างไว้ แล้วการใช้ RAM เยอะ นั่นก็เท่ากับเป็นการกินแบตนั่นเอง แต่ก็มีการทดลองกันอีกแล้วเหมือนกันว่า เปิดแอพในเครื่องทิ้งไว้เป็นสิบๆก็ทำให้เครื่องทำงานหนักและเป็นโทษอีกเหมือนกัน เพราะฉะนั้นเจอกันตรงกลางดีกว่าครับ เก็บพวกแอพเปิดบ่อยๆเอาไว้เช่น Safari, Facebook, Line, Music, Instagram นอกนั้นเวลาไม่ใช้ก็ปิดให้หมด

null

3. ต่อจากข้อข้างบน แล้วเราควรเลือกปิดแอพไหนดี?

ตั้งแต่มี iOS8 แอพเริ่มมีความอัจฉริยะมากขึ้นเรื่อยๆ แต่แอพเหล่านี้ก็กินแบตไม่ใช้ย่อย วิธีจะดูว่ามีแอพไหนที่คอยดูดแบตเครื่องเราจ๊วบๆแบบไม่เกรงใจก็คือการเข้าไปที่ Settings, >General, >Usage, >Battery Usage กดเข้าไปแล้วอย่าเพิ่งทำอะไรนะ ยืนแอบดูแบบสะใจให้รู้ก่อนว่าแอพไหนมันกินแบตเยอะสุด เสร็จแล้วก็จัดการปิดได้เลย (แต่หนีไม่พ้น Facebook ล่ะเราว่า)

null

4. บางทีการแจ้งเตือนก็ไม่ต้องเสมอไป

ฟังก์ชั่น Push Notification คือความพิเศษในยุคสมาร์ทโฟน ที่เครื่องจะมีเสียงเด้งดึ๋งคอยเตือนหมดว่าแอพแสนรู้ของเราเกิดเหตุการณ์อะไรบ้าง แต่เชื่อเถอะว่าบางครั้งเราก็ไม่ได้อยากได้ยินการหาคู่ของ Tinder หรือ Angry Bird เรียกหาให้เราเข้าไปเก็บศัตรู เข้าไปที่ Settings, >Notification Center เพื่อไปปิดพวกแอพที่ไม่จำเป็นต้องเรียกหาก็ได้ รับรองว่าจะช่วยเรื่องแบตขึ้นพอสมควร

null

5. จัดการเรื่องความสั่นให้เข้าที่เข้าทาง

เวลาที่มีคนโทรมาหรือมีอีเมล์เข้า ระบบสั่นที่โดนเนื้อเราในกระเป๋ากางเกงนั้นโคตรจะฟิน แต่ต้องยอมรับว่า ระบบสั่นนี่ล่ะเป็นตัวกินแบตชั้นดี โอเค แทนที่จะปิดการสั่นแบบหายขาดไปเลย เราสามารถปรับปรุงวิธีการสั่นของไอโฟนได้ เพียงเข้าไปที่ Seething,>Sounds แล้วก็ลองดูโซน Vibration สามารถปรับให้สั่นเฉพาะคนโทรเข้าได้ หรือเฉพาะโอกาสได้ เห็นไหมล่ะ ต่อไปนี้ฉันสั่นให้เฉพาะเธอนะ

null

6. ปิดการ Track Location

มีแอพเดี๋ยวนี้มากมายที่มีฟังก์ชั่นทำงานไปกับการบอกตำแหน่ง GPS ของไอโฟนได้ด้วย (โดยที่บางครั้งคุณอาจจะไม่เคยรู้มาก่อน) เหมือนกับหนังสายลับสมัยก่อน Facebook Instagram รวมไปถึงแอพ Camera ถ่ายรูปประจำเครื่องก็มีการเก็บตำแหน่งภาพที่ถ่ายได้ด้วย ซึ่งไอ้การเก็บตำแหน่งการเดิน การยืนของเรานี้ล่ะ ที่ค่อนข้างจะกินแบต สำหรับแอพไหนที่เราคิดว่าไม่จำเป็นต้องเดินไปพร้อมกับเราก็ได้ เข้าไปที่ Settings, >Privacy, >Location Services เพื่อดูก่อนว่ามีแอพไหน Tracking เราอยู่บ้าง เสร็จแล้วก็เลือกปิดได้เลย

7. รวมไปถึงการ ปิด Share My Location ด้วย

อันนี้ก็ยิ่งอยู่ลึกไปยิ่งกว่าข้อที่แล้วอีก Share My Location จะเป็นการแบ่งปัน Location ที่เราอยู่ให้คนอื่นเก็บได้ ที่เห็นชัดๆก็มีอย่างใน Line เวลาเพื่อนหลงทางกลับบ้านไม่ถูก เราก็แชร์โลเคชั่นบ้านเรานี่ล่ะ ให้มันกลับมานอนบ้านเรา ซะงั้น!!

null

8. ปิด Automatic Update และ Refresh ของแอพต่างๆ

ข้อนี้จะยังไม่ค่อยเห็นผลเท่าไรในช่วงที่คุณเพิ่งซื้อเครื่องมาใหม่ๆ หน้าจอยังโล่งว่าง ปาดไปไม่เกินหน้าสองหน้า ก็ไม่มีแอพเล่นแล้ว แต่ลองให้เวลาผ่านไปสักสองสามเดือนสิ หกเจ็ดหน้าก็ยังไม่หมด เมื่อเครื่องอุดมไปด้วย Application แล้ว ไอ้การ Update แบบอัตโนมัตินี่ล่ะจะกลายเป็นอภิมหาการกินแบต นึกสภาพ 50 กว่แอพ สลับกันอัพเดตไม่ให้พัก วิธีการปิดคือเข้าไปที่ Settings, >iTunes&App Store แล้วก็ปิดการ Automatic Downloads ซะ อีกสิ่งหนึ่งที่น้อยคนจะรู้คือ แอพต่างๆจะมีการรีเฟรชตัวมันเองให้มีการอัพเดตข้อมูลตลอด เราสามารถเข้าไปปิดได้ที่ Settings, >General, >Background App Refresh น่าจะช่วยประหยัดแบตได้ไม่มากก็น้อย

9. แล้วอัพเดตแบบไหนล่ะไม่ให้กินแบต?

ถ้าให้แนะนำแบบตรงๆที่สุดเราว่าควรเริ่มกดอัพเดตเวลาที่ชาร์ตแบต เหมือนกับที่เวลาต้องอัพเดต iOS กันครั้งใหญ่ เครื่องก็มักจะบังคับให้เราทำผ่าน Wifi อยู่แล้ว หาเวลานั่งอัพเดตช่วงอยู่บ้าน กินข้าว อาบน้ำเสร็จ ก่อนนอน นั่งกดอัพเดตแอพโปรด เอาเพลงเข้าออก iTunes ก็เป็นกิจวัตรที่แฮปปี้ดีเหมือนกันนะ แล้วก็ไม่เปลืองแบตด้วย

null

10. ปิดการอัพโหลดรูปถ่ายอัตโนมัติไปยัง Photostream ของเรา

iPhone รุ่นใหม่ๆเดี๋ยวนี้ จะมีการทำงานร่วมกับอุปกรณ์ iOS เครื่องอื่นๆของเรา ฟังก์ชั่นที่เรามองว่ามันดูจะสะดวกสบายเกินไป (แล้วไม่ค่อยเป็นส่วนตัวด้วย) คือการอัพโหลดรูปถ่ายในเครื่องเราไปกองไว้ใน Photostream ด้วย ต่อไปนี้ใครยืมเครื่องพ่อแม่ หรือเครื่องแฟนมาใช้ อย่าลืมปิดฟังก์ชั่นนี้ล่ะ ไม่งั้นงานเข้าเอาได้ง่ายๆ เข้าไปที่ Settings, >iCloud, >Photos แล้วเลือกปิด My Photostream เลย

null

11. Wallpaper ขยับได้เก๋ๆก็ต้องแลกมากับแบตเตอรี่

ใช้สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆสมัยนี้ทันที จะให้เป็น Wallpaper โต้งๆซื่อๆแบบสมัยก่อนได้ไงล่ะใช่ไหม ก็ต้องเป็นแบบ 3D ขยับได้นี่ล่ะถึงจะดูสมราคาสุดๆ เราว่านั่งมองเพลินๆได้ แต่เวลาที่แบตเริ่มลงมาต่ำกว่า 50% ก็ควรจะตัดสิ่งที่เกินตัวออกบ้าง อย่างเช่น Feature นี้ เข้าไปที่ Settings, >Wallpapers แล้วก็เลือก Wallpaper ที่เราตั้งไว้อยู่ กดเปิด Perspective Zoom ก็จะยืดอายุแบตได้บ้างแล้ว

null

12. หมั่นปิด Wifi  และ Bluetooth ในเวลาที่ไม่จำเป็น

ข้อนี้เราว่าหลายคนชอบลืมๆกัน เวลาอยู่บ้านหรือที่ทำงานเรามักจะเปิด Wifi เล่นกัน หรือเปิด Bluetooth ทำ Hotspot ให้เพื่อน แต่เวลาเดินออกมานอกบ้าน ควรจะปิดสองฟังก์ชั่นนี้เลย เพราะระหว่างที่เราเดินออกไปไหนๆ เครื่องก็จะพยายามควานหา Wifi และ Bluetooth อยู่ตลอดเวลา ถึงตรงนี้คงใช้ Slide-Up Control Center กันเป็นแล้วนะ เลื่อนแผงลงมาแล้ว ปิดเลย

null

13. หมั่นเปิด Airplane Mode ในเวลาที่จำเป็น

ข้อนี้เหมือนพี่น้องกับข้อที่แล้ว ถ้าเรารู้ดีว่าไม่มีสัญญาณใช้ มาต่างประเทศ นั่งเครื่องบิน หรือเน็ต 3G หมดแล้วขี้เกียจใช้โทรศัพท์แล้ว ก็เปลี่ยนไปเป็นโหมด Airplane ซะ คุณจะเหลือเพียงแต่แอพหนุกๆในเครื่องเท่านั้น (เหมือนพวก iPod) แล้วโคตรจะรักษาแบตเลย โหมดนี้

เกร็ดน่ารู้: เปิด Airplane Mode ขณะชาร์ตจะทำให้แบตชาร์ตเต็มเร็วขึ้นมาก

null

14. ดูแลสุขภาพของแบตคุณให้ดีๆ

แบตก็เหมือนกับเส้นผม ที่ต้องมีการดูแล (มาแบบโฆษณาแชมพูเลย) ซึ่งหลักการดูแลแบตเบื้องต้นก็คือ ควรชาร์ตครั้งแรกตอนที่ซื้อเครื่องใหม่ตามที่คู่มือบอก อันนั้นน่าจะรู้กันดีอยู่แล้ว แต่อีกอย่างคือ เวลาที่แบตชาร์ตเต็มแล้ว ลองปล่อยให้มันนอนตายไปเองเลยสักครั้งต่อเดือน หมายความว่าหาเวลาว่างๆอยู่บ้านสักวัน แล้วเปิดให้แบตหมดไปของมันเอง วิธีนี้จะช่วยให้แบตจดจำการใช้งานของมันได้ แล้วจากนั้นค่อยชาร์ตเต็มสูบ แล้วใช้งานอีกที อีกเรื่องก็คือพยายามอย่าเก็บแบตหรือสมาร์ทโฟนไว้ในที่ที่ร้อนจัดหรือเย็นจัด และที่สำคัญที่สุดขอทิ้งท้ายเลย พยายามใช้ที่ชาร์ตแบตมีคุณภาพ เป็นไปได้ควรไปถอยจากใน iStudio จะดีมากๆ เพราะข้อนี้โดนมาเองแล้ว ซื้อใช้ถูกๆสุดท้ายมันจะฆ่า iPhone เราทิ้งเละเทะเลย นั่นล่ะครับ ขอให้ชาร์ตแบตกันสนุก

Credit: supercompressor

RECOMMENDED CONTENT

1.พฤศจิกายน.2021

เรียกกระแสฮือฮาน้ำตาแตกกันสนั่นโลกโซเชียล สำหรับวงดนตรีอินดี้ป็อป 2 รุ่นอย่าง “Landokmai” (ลานดอกไม้) และ “Whal & Dolph” (วาฬ แอนด์ ดอล์ฟ) สังกัดค่ายเพลง What The Duck (วอท เดอะ ดัก) ที่แฟนเพลงต่างเรียกร้อง