เชื่อว่ากีตาร์คือเครื่องดนตรีที่ไม่น่าจะมีใครไม่รู้จัก ต้องมีสักครั้งเมื่อตอนเป็นวัยรุ่นที่คุณนึกสนุกอยากลองสัมผัสลองหยิบลองจับหรือแม้แต่ลองดีดเป็นเสียงง๊องแง๊ง แล้วจากการสัมผัสเล็กๆ ผ่านปลายนิ้ว ผ่านหูนั่นแหละที่ทำให้หลายคนหลงใหลเครื่องดนตรีชนิดนี้งอมแงมจนถอนตัวไม่ขึ้น
จ๊อบ-อดิศร ลีละชาติ ก็เป็นอีกคนที่ใช้เวลากว่าครึ่งชีวิตสัมผัสกีตาร์ ไม่ใช่แค่เล่นในฐานะนักดนตรี หรือนักสะสม แต่เขาคือ ‘ช่าง’ ผู้เริ่มทำงานจากเศษไม้ที่ดูไร้ค่าราคา ขลุกเคี่ยวอยู่กับมันจนกลายมาเป็นกีตาร์ 1 ตัวที่มีมูลค่าร่วมล้านบาท ตั้งแต่วันแรกที่นิ้วสัมผัสกีตาร์จนถึงวันนี้ ยังไม่มีวันไหนเลยที่เขาเบื่อมัน
“ระหว่างเล่นดนตรีกลางคืน ผมเคยเดินเข้าไปหยิบกีตาร์จากร้านร้านหนึ่งขึ้นมา แล้วคนขายถามผมว่า ‘น้อง หยิบลงมาน่ะ มีปัญญาซื้อเหรอ’ หลังจากวันนั้นผมกลับบ้านมาเสิร์ชชื่อ อาจารย์ วิรุณ ทรงบัณฑิต (วิรุณ ทรงบัณฑิต-หรือที่รู้จักกันในชื่อ ‘ช่างนิด’ ช่างทำกีตาร์ฝีมือดีคนหนึ่งของเมืองไทย) แล้วไปเรียนทำกีตาร์กับเขาเลย
“พอเรียนจบ ผมก็ไปเรียนทำกีตาร์ต่อที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ ไม่น่าเชื่อว่าแค่การไปดูงานระยะเวลาสั้นๆ ในครั้งนั้นจะเป็นการเปิดประสบการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิต กลับมาเมืองไทยชีวิตผมเปลี่ยนทันที ผมขอทุนก้อนหนึ่งจากคุณพ่อ แต่ด้วยความที่ท่านทำงานธนาคาร เขาดูออกเลยว่าถ้าให้ทุนไปลงทุนทำกีตาร์วันนั้นผมเจ๊งแน่ แต่ผมก็ทำ เพราะความรู้สึกตอนนั้นมันแรงกล้ามาก เชื่อว่าถ้าหัวใจผมอยู่กับกีตาร์หมดแล้ว ยังไงมันต้องรอด”
ด้วยความเชื่อมั่นเต็มเปี่ยมประกอบกับงานช่างที่คุณจ๊อบคลุกคลีมาตั้งแต่เด็ก เพราะที่บ้านทำอู่รถยนตร์อยู่แล้ว เขาเปลี่ยนโกดังร้างย่านเจริญนครให้เป็นโรงผลิตกีตาร์เล็กๆ แต่อบอวลคละคลุ้งไปด้วยกลิ่นไม้และไฟฝัน แบ่งพื้นที่กันคนละครึ่งกับพี่ชายซึ่งเป็นช่างทำเฟอร์นิเจอร์ไม้แบรนด์ของแฟนคุณจ๊อบ ชื่อ Wood Me Please ด้วย จนถึงวันนี้ Mice Guitars ของเขาก็ผลิตกีตาร์แบบ Custom Made มาถึงปีที่ 8 แล้ว
“ไม้ที่เห็นนี่ส่วนใหญ่ผมใช้ไม้ไทยทั้งหมด เช่น ไม้ประดู่ ชิงชัน พญางิ้วดำ หรืออย่างไม้ผิดกฎหมายอย่างไม้พะยูงผมก็มี โดยได้รับอนุญาติให้ใช้ได้แค่ 0.2 และทั้งหมดไม่ใช่ไม้ใหม่ แต่เป็นไม้เก่าที่รับซื้อมาอีกที เช่น บ้านไม้เก่า หรือแม้แต่เสาโบสถ์เก่าก็มี ผมใช้ไม้ไทยรีไซเคิลเพราะส่วนตัวไม่สนับสนุนให้ตัดไม้ใหม่ และอีกอย่างคือราคาไม้ไทยถูกกว่า หาง่ายกว่าไม้ฝรั่งมาก”
โดยประเภทกีตาร์ที่ Mice Guitars ทำ มีทั้งกีตาร์โปร่ง กีตาร์ไฟฟ้า รวมถึงงานเครื่องดนตรีไม้อื่นๆ อย่าง อูคูเลเล่ ไวโอลิน และเชลโล่ด้วย
เมื่อก่อนราคากีตาร์ของที่นี่เริ่มต้นที่ตัวละ 65,000-80,000 บาท ตอนนี้ราคากีตาร์เริ่มต้นที่ตัวละ 90,000 บาท จนถึงตัวละล้าน! ซึ่งราคาจะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ชนิดของไม้ วัสดุ ระยะเวลาในการทำ รวมถึงรายละเอียดหรือลูกเล่นต่างๆ ตามแต่ลูกค้าจะอยากได้
ในเมืองไทยเองมีช่างทำกีตาร์อยู่เป็นร้อย เราถามเขาว่าอะไรที่ทำให้ Mice Guitars แตกต่างจากเจ้าอื่น ช่างหนุ่มบอกว่ามันคืองานไม้ไทยผสมไอเดียและความคราฟต์ทุกขั้นตอน เป็นเจ้าเดียวในเมืองไทยที่ใช้แล็กเกอร์รถยนตร์ ซึ่งจะมีความยืดหยุ่นสูงกว่า บางกว่าแล็กเกอร์ทั่วไป ทำให้เสียงของกีตาร์ออกมาดีกว่า และถ้าเป็นกีตาร์ที่เขาทำ ก็สามารถนำกลับมาซ่อม มาทำความสะอาดได้ มีปัญหาอะไรเขาก็จะตามดูแลไปยันหมดอายุขัยกีตาร์เลยทีเดียว
แต่อุปสรรคอย่างหนึ่งของการทำกีตาร์ในเมืองไทยคือสภาพอากาศชื้น มีเงื่อนไขคือเวลาฝนตกจะต้องหยุดทำทันที โดยเฉพาะขั้นตอนที่ต้องใช้กาวประกอบชิ้นส่วน เพราะอากาศชื้นๆ นี่ละตัวดีที่ทำให้ไม้ยืดตัว แล้วพอไม้หดตัวเมื่ออากาศแห้ง ไม้จะแตกทันที ทำให้บางครั้งออเดอร์ลูกค้าก็มีอันต้องล่าช้าไปบ้าง แต่ช่างหนุ่มก็ไม่แคร์ เขาใช้เวลาว่างระหว่างรอฝนหยุดนั่งแต่งเพลงมันเสียเลย จนได้มาเซ็นสัญญาเป็นศิลปินจริงจังในสังกัดค่าย Classy Record และกำลังจะมีอัลบั้มแรกในชีวิตของตัวเองเร็วๆ นี้!
ตอนนี้คุณจ๊อบไม่เพียงเป็นศิลปินใหม่ป้ายแดง แต่ยังรับหน้าที่เป็นครูสอนทำกีตาร์ที่มีศิลปินมากหน้าหลายตาสมัครมาเป็นลูกศิษย์ เป็นทั้ง Supplier ไม้ให้กับช่างกีตาร์คนอื่นๆ ด้วย เขาบอกกับเราว่าเนื่องจากแหล่งผลิตกีตาร์ที่ใหญ่ที่สุดตอนนี้อยู่ที่ประเทศจีน รองลงมาคือเม็กซิโก อินโดนีเซีย เขาจึงวางแผนกลยุทธ์จับมือกับร้านกีตาร์เจ๋งๆ ในเมืองไทยขยายธุรกิจกีตาร์ไทยให้เติบโตขึ้น ด้วยการนำเครื่องจักรเข้ามาช่วยในบางขั้นตอนของการผลิตเพื่อย่นระยะเวลา แต่ยังยืนยันว่าจะไม่สูญเสียกลิ่นอายความคราฟต์ไปแน่นอน เพื่อให้ราคาของกีตาร์ถูกลง จับต้องได้ คนทั่วไปที่อยากเล่นกีตาร์แต่มีข้อจำกัดเรื่องบัดเจ็ตเข้าถึงง่ายขึ้น ตอบความฝันของใครอีกมากมายเหมือนเมื่อครั้งที่เขาเป็นนักดนตรีตัวเล็กๆ…
มาติดตามโปรเจ็กต์ครั้งยิ่งใหญ่ของเขาที่กำลังจะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ได้ที่ Mice Guitars Workshop
ซอยเจริญนคร 57 ถนนเจริญนคร แขวงสำเหร่ เขตธนบุรี กรุงเทพฯ
โทร. 085-948-4333
https://th-th.facebook.com/MiceGuitars/
RECOMMENDED CONTENT
‘School Town King’ แร็ปทะลุฝ้า ราชาไม่หยุดฝัน เป็นหนังสารคดีที่สร้างจากเรื่องจริงของ ‘บุ๊ค’ เด็กหนุ่มวัย 18 และ ‘นนท์’ วัย 13 ผู้เติบโตมาในชุมชนคลองเตย หรือที่ใครๆ ต่างรู้จักในอีกชื่อหนึ่งว่า ‘สลัมคลองเตย’ นอกจากความยากจนที่มาพร้อมกับสถานะทางสังคมที่เลือกไม่ได้แล้ว ทั้งบุ๊คและนนท์ยังไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับระบบการศึกษา รวมทั้ง หลักสูตรการเรียนการสอนที่เน้นแต่ความสำเร็จเชิงวิชาการก็ยิ่งทำให้เด็กเรียนไม่เก่งอย่างพวกเขาขาดความสนใจในชั้นเรียนลงไปเรื่อยๆ ระบบการศึกษาที่น่าจะเป็นความหวังและเท่าเทียมกันของเด็กทุกคน กลับยิ่งบีบบังคับและผลักไสให้พวกเขาเป็นแค่ ‘คนนอก’ ของสังคมไปโดยปริยาย